ข้อเท็จจริงคือ สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส มีความโยงใยเกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยสำคัญ และทั้งคู่ดำรงอยู่ได้ด้วยภาษีบาป จนกระทั่งมีผู้วิจารณ์ว่าเป็นเสมือนเสือนอนกิน และถูกวิจารณ์ว่าใช้เงินภาษีบาปโดยไร้ประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดประสิทธิผลเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมยังมีข้อสงสัยจากสาธารณะว่าใช้เงินภาษีบาปที่ไม่น่าจะโปร่งใส และผิดวัตถุประสงค์เป็นประจำ
สสส. ได้งบประมาณคิดเป็นร้อยละจากภาษีบาปเพิ่มขึ้นทุกปี ตามอัตราภาษีบาปที่เพิ่มขึ้นจากภาษีสุราและบุหรี่ ซึ่ง สสส. มักอ้างว่าผลสำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าคนไทยบริโภคสุราและสูบบุหรี่ลดลงทุกปี แต่ สสส. กลับมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะว่าการเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิต
แต่ความจริง ตัวเลขการผลิตและการนำเข้าสุรา เบียร์ และบุหรี่ ในประเทศไทยไม่เคยลดลง ล่าสุดก็มีการเพิ่มภาษียาสูบ จนทำให้บุหรี่ที่ผลิตจากโรงงานยาสูบไม่สามารถแข่งขันบุหรี่นอกได้ แต่ สสส. ก็ยังคงมีรายได้ไม่เปลี่ยนแปลง (ดูเพิ่มเติมจาก http://m.matichon.co.th/readnews.php?newsid=1446019085)
เมื่อดูสถิติล่าสุดจาก https://www.worldatlas.com/articles/the-countries-with-the-most-car-accidents.html บทความนี้เผยแพร่โดย James Burton เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2017 ดูแล้วยิ่งตกใจ เพราะประเทศไทยติดอันดับ 1 ของโลก จากสถิติการตายเพราะอุบัติเหตุบนถนน สูงกว่า มาลาวี ไลบีเรีย และประเทศด้อยพัฒนาในโลกที่ 3 อีกมากมาย จึงเกิดคำถามว่านี่เป็นเพราะผลงานเด่นจากการรณรงค์เมาไม่ขับ และงดเหล้าเข้าพรรษา ใช่หรือไม่ หรือว่าหากไม่มีโครงการของ สสส. แล้วสถิติการตายด้วยอุบัติเหตุจะลดลงกว่านี้
เมื่อความจริงปรากฏเช่นนี้ สสส. ควรพิจารณาผลงานของตัวเองหรือไม่ หรือไม่จำเป็นต้องพิจารณาอะไร เนื่องจากหากพิจารณาแล้ว ผลได้ของ สสส.จะลดลงไป
อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอให้ สสส. พิจารณาผลงานจากตัวชี้วัด ตามนี้
1.ยอดจำหน่าย ยอดผลิต และยอดนำเข้าสุรา เบียร์ และบุหรี่จากต่างประเทศต้องลดลงจนเหลือศูนย์ แล้วโรงงานยาสูบไทยต้องปิดกิจการ บริษัทของไทยที่ผลิตเหล้า เบียร์ทุกชนิด ไม่สามารถขายสินค้าได้จนต้องปิดกิจการภายใน 10 ปี ภาษีสรรพสามิตจากการนำเข้าบุหรี่และสุรา ไม่สามารถจัดเก็บได้อีกต่อไปภายใน 10 ปี เพราะคนไทยมีความแตกฉานทางสุขภาพ (Health literacy) จนกระทั่งเลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มสุราและเบียร์ทั้งประเทศ
2.สสส. ต้องได้รับงบประมาณลดลงทุกปี ร้อยละ 10 ต่อปี จนกระทั่งไม่ได้รับงบประมาณจากภาษีบาปต่อไป แล้ว สสส. ก็ยุบเลิกกิจการ โดยการตราพระราชบัญญัติให้ยุบเลิก สสส. หรือปรับเปลี่ยนภารกิจ สสส. ให้ทำงานส่งเสริมสุขภาพประชาชนด้านอื่นแทนภารกิจปัจจุบัน
3.ต้องเปลี่ยนนิสัยการใช้รถใช้ถนน การขับขี่รถยนต์ และจักรยานยนต์ของคนไทย เพื่อให้อุบัติเหตุบนท้องถนนหมดไป หรือต้องทำให้ไทยพ้นจากประเทศที่มีสถิติการตายบนท้องถนนเป็นอันดับหนึ่งให้ได้ภายใน 1 ปี และเมื่อผ่านไป 10 ปี ประเทศไทยต้องอยู่ที่อันดับต่ำกว่า 70
ถ้าหาก สสส. สามารถทำได้ดังนี้ สาธารณชนจึงจะยอมรับว่า สสส. มีผลงานเยี่ยมยอด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า บอร์ดและผู้บริหาร สสส. มีประสิทธิภาพ
ดังนั้น ขอท้าทายให้ สสส. ตั้งพันธกิจและวิสัยทัศน์เช่นนี้ เพื่อประโยชน์ของคนไทย หากทำได้ดังนี้แล้ว สาธารณชนคงสนับสนุนให้ สสส. คงอยู่ต่อไป แต่เท่าที่เห็นชัดๆ ในทุกวันนี้คือ สสส. ทำได้แค่เพียงหว่านเงินเพื่อสร้างข่าว โดยเฉพาะการออกแผนรณรงค์สารพัดชนิด ผสมกับการจัด Event แล้วทุ่มเงินซื้อโฆษณาตามสื่อมวลชนที่ไม่ตั้งคำถามกับ สสส. รวมถึงการหว่านเงินให้ NGOs บางกลุ่มจัดประชุมสัมมนาไปเรื่อยๆ โดยที่ ประเทศไทยไม่ได้มีพฤติกรรมสุขภาพและผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดีขึ้นแต่อย่างใด ส่วนสถิติการดื่มเหล้า เบียร์ และการสูบบุหรี่ก็ยังเพิ่มขึ้น ในขณะที่อุบัติเหตุที่ทำให้เสียชีวิตบนท้องถนนไม่ได้ลดลง
ส่วน TPBS ก็ดำรงอยู่ได้ด้วยภาษีบาปเช่นกัน ได้เงินฟรีๆ ปีละ 2 พันล้านบาท แต่ผลงานที่ผลิตออกมานั้น ดี-เลว อย่างไร สาธารณชนตอบได้ดี แถมยังมีปัญหาไร้ธรรมาภิบาลโดยเฉพาะการจงใจใช้เงินผิดประเภท การสรรหาผู้บริหารหน่วยงานก็มีความน่าสงสัย จนทำให้เกิดคำถามจากสาธารณชนมาโดยตลอด (อ่านเพิ่มเติมจากhttps://mgronline.com/daily/detail/9600000125345)
ทั้งหมดนี้ ปัญหาสำคัญของหน่วยงานทั้งสองอยู่ที่คุณภาพและประสิทธิภาพของผู้บริหารหน่วยงาน หากยังคงมีผู้บริหารที่ไร้คุณภาพต่อไป ก็เท่ากับผลาญเงินภาษีไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น ทางที่ดีควรจะนำเงินภาษีที่ใช้โดยไร้ประโยชน์ ไปสร้างประโยชน์อื่นๆ ให้สาธารณชนหรือไม่ คำตอบนี้ ตอบไม่ยาก หากยอมรับความจริง
(ขอบคุณข้อมูลจาก อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้อำนวยการศูนย์คลังปัญญาและสารสนเทศ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี