พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้รับทราบมาตรการของขวัญปีใหม่ในปี 2561 รวม 85 โครงการ โดยมีทั้งของขวัญสำหรับประชาชนทั่วไป, ผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร, คนรักสุขภาพ และเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส โดย 85 โครงการ มีดังนี้
ด้านการเดินทาง l ฟรีค่าธรรมเนียมทางหลวงพิเศษ มอเตอร์เวย์ (M7)-วงแหวน(M9) ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 28 ธ.ค. 2560 ถึงเวลา 24.00 น. วันที่ 4 ม.ค. 2561, อาชีวะอาสาอำนวยความสะดวกและบริการฟรี เช่น ตรวจสภาพรถ บริการน้ำดื่ม อาหารให้แก่ประชาชนที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่, ชื่นชม...ช่างประชารัฐ ให้บริการช่างซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนกว่า 1 พันคน, ผู้ถูกคุมความประพฤติทำงานบริการสังคมในช่วงเทศกาลปีใหม่, ติดตั้ง Mobile Application-TVIS (การจราจร กล้องวงจรปิด เรดาร์ตรวจอากาศ)
ด้านการท่องเที่ยว l ลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรอง, ฟรีค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติ 154 แห่ง และมอบส่วนลดค่าเข้าชมสวนสัตว์และบ้านพักขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้, ฟรีค่าเข้าชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquarium) จ.ภูเก็ต และพิพิธภัณฑ์ 3 แห่ง, ฟรีค่าเข้าชมองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ฯ จ.ปทุมธานี และค่าเข้าชม Space inspirium จ.ชลบุรี, ฟรีค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและอุทยานประวัติศาสตร์ทุกแห่ง พร้อมทั้งแจกโปสต์การ์ดอุทยานประวัติศาสตร์, จัดการแสดงเนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (การแสดงพื้นบ้าน 4 ภาค การแสดงโขน บริเวณหน้าพระเมรุมาศ)
ด้านการสื่อสาร l บมจ.ทีโอที (TOT) ยกเว้นค่าบริการต่างๆ ให้แก่ลูกค้าโทรศัพท์ประจำที่และลูกค้า TOT 3G ระบบรายเดือน, CAT มอบส่วนลดบริการต่างๆ และให้ CAT free Wi-Fi ที่จ.ภูเก็ต และ จ.เชียงใหม่, ติดตั้งโครงข่ายอินเตอร์เนตความเร็วสูง (เนตประชารัฐ) ฟรีหมู่บ้านละ 1 จุด รวม 24,700 หมู่บ้าน
ด้านการใช้จ่าย l เปิดตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรมใน 76 จังหวัด, จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด, ปตท.มอบข้าวถุงฟรีแก่ประชาชนที่เติมน้ำมันในปั๊ม ปตท.วันที่ 1 ม.ค. 2561, อำนวยความสะดวก ลดสำเนาเอกสาร ขอรับบริการใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียว
ด้านศาสนา l จัดกิจกรรมส่งเสริมด้านศาสนา (สวนมนต์ข้ามปีฯ ไหว้พระ 10 วัด)
ด้านชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน l เพิ่มช่องทางร้องทุกข์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายผ่านระบบ HOT LINE 10 คู่สาย รวมทั้งให้ทุกอำเภอจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่ ณ จุดอำนวยการความปลอดภัยทางถนนตลอด 24 ชม., ลดค่าใช้จ่ายหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมการประนอมข้อพิพาทให้กับประชาชน, ให้บริการตรวจพิสูจน์พยานเอกสารฟรีของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ด้านนโยบายสินเชื่อ l มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เช่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ด้านนโยบายเกษตร l ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คืนดอกเบี้ย 30% ของดอกเบี้ยที่ชำระให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2560 ไม่เกิน 3 แสนบาท, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) คืนเงิน 1 พันบาท สำหรับลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนชำระหนี้ดีย้อนหลัง 48 เดือน, ธอส.จัดสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อย บุคลากรภาครัฐและผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษต่ำสุดที่ 2.5% ต่อปี, สำนักงานธนานุเคราะห์ขยายเวลาลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย, โครงการตลาดประชารัฐ พัฒนาตลาดใหม่และขยายพื้นที่ตลาดเดิมให้แก่เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ไม่มีสถานที่ค้าขาย, เพิ่มพลังปีใหม่ ซื้อสินค้าเกษตรไทยคุณภาพดีในราคาพิเศษ, ให้บริการขนส่งข้าวเพื่อช่วยชาวนาและขนส่งสินค้าเกษตร/เกษตรแปรรูปในอัตราพิเศษ
ด้านของขวัญสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส l ได้แก่ ให้เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดจังหวัดละ 65 คน โดยมอบเช็คเงินสด/ชุดของใช้มูลค่า 1 พันบาท, เยี่ยมบ้านและมอบของขวัญให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป มูลค่ารายละ 1-2 พันบาท, มอบ DEPA Literacy Voucher แก่ผู้พิการไทย 200 ราย รายละ 1 หมื่นบาท เพื่อเพิ่มโอกาสด้านการเรียนรู้, พัฒนาเครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์เพื่อมอบให้โรงเรียนสอนคนตาบอดทั่วประเทศ 200 เครื่อง, เปิดศูนย์บริการคนพิการ 4 มุมเมือง (สายไหม มีนบุรี อ้อมน้อย และลาดกระบัง)
ด้านของขวัญสำหรับคนรักสุขภาพ l ได้แก่ พัฒนาระบบบริการการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ (One Day Surgery) เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านการแพทย์อย่างรวดเร็ว, พัฒนานวัตกรรมโมบายแอพพลิเคชั่น “RDU รู้เรื่องยา” เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลยาได้ทั่วถึงและเป็นประโยชน์ต่อการเข้ารับการรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์
ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์แน่นอน เพียงแต่ประโยชน์เป็นวงกว้าง เป็นงานช้างงานใหญ่ หรือเป็นงานแบบรัฐบาลที่ไม่มีอะไรจะ “คุย” แล้วกันแน่
กลับไปทบทวนการ “เข้ามา” ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กันหน่อยนะครับ เพื่อไม่ให้เรา “หลงทาง” ว่าอะไรเป็น “ภารกิจหลัก” อะไรเป็น “งานธุรการ”
สำหรับผม รัฐบาลใดก็ตามที่เอา “งานธุรการ” มาอวดโอ่เป็น “ผลงาน” ผมว่า นั่นคือรัฐบาลที่ลมหายใจกำลังรวยรินเต็มทีแล้ว
1) พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาในเวลาที่บ้านเมืองส่อว่าจะเกิด “สงครามกลางเมือง” โดยตรวจพบอาวุธสงครามจำนวนมาก และบางส่วนถูกใช้เล่นงานประชาชนที่กำลังชุมนุมอยู่ในนามกปปส. ทุกค่ำทุกคืน ท่านพยายามแล้วที่จะไม่ยุ่งกับเรื่องการเมือง แต่จะให้เกิดระเบิดตูมตาม หรือยิงกันตายไม่ได้อีก จึงเริ่มจากประกาศกฎอัยการศึก แล้วดึงการเมืองฝ่ายต่างๆ มาหาทางออก แต่เมื่อมีบางฝ่ายไม่ยอมเปิดทางออกให้ประเทศ ก็เหลือเพียงทางเดียวที่ฝ่ายกองทัพจะทำได้คือ “ควบคุมอำนาจ” กรณี คสช. ผมไม่ถือเป็นการ “ยึดอำนาจ” เพราะรัฐบาลรักษาการที่เหลือรัฐมนตรีไม่กี่คนในตอนนั้น ทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าจะตรากฎหมายเลือกตั้ง หรือแม้กระทั่งจัดการเรื่องงบประมาณแผ่นดิน ไม่มีอำนาจใดให้ยึดหรอกครับ มีแต่สถานการณ์อันหนักหน่วงให้ท่านเข้ามาคลี่คลาย
2) เมื่อท่านหยุดสงครามได้แล้ว ใช้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ควบคุมทุกฝ่ายให้อยู่ในความสงบได้แล้ว “งาน” ของท่านคือ “เปลี่ยนผ่านบ้านเมือง” ตามเสียงเรียกร้องของประชาชน คือ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ซึ่งแน่นอน ท่านตั้ง สปช. ขึ้นมา แต่ก็ขาดการเชื่อมต่อกับประชาชนโดยสิ้นเชิง พ้นจาก สปช. ก็มาตั้ง สปท. มีพิธีส่งมอบ “พิมพ์เขียวการปฏิรูปประเทศ” กันเอิกเกริก แต่ถามว่าทุกวันนี้ ประชาชนคนไหนได้เห็นพิมพ์เขียวการปฏิรูปประเทศนั้นบ้าง ประชาชนที่ออกไปเจ็บ ไปตาย เขาควรได้รู้ไหมครับว่า การปฏิรูปที่เขาเคยเรียกร้อง สามปีผ่านมา ปรากฏอะไรเป็นรูปธรรม หรืออะไรอยู่ในกฎหมายบ้าง ผมเองเห็นเยอะนะครับ แต่อยากเห็นรัฐบาลแจกแจงให้เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า
3) อีกด้านหนึ่ง เมื่อท่านเลือกจะเป็น “รัฐบาล” ด้วยตนเอง ท่านก็มีภาระการ “บริหาร” อยู่บนบ่า นอกเหนือจากเรื่องความสงบเรียบร้อยแล้ว ก็มีเรื่องเศรษฐกิจที่เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องปราบปรามการทุจริตซึ่งไม่มีโอกาสใดจะจัดการได้ดีเท่ากับรัฐบาลของท่านอีกแล้ว
4) แน่นอนว่า ด้านเศรษฐกิจระดับปากท้องชาวบ้านดิ่งเหว แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่มันยังไม่แสดงสรรพคุณในระดับรากหญ้าหรือในชีวิตจริง ดังนั้น ที่มีคนขอให้ท่านดูตัวเลขเศรษฐกิจระดับครัวเรือนที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเป็นผู้สำรวจนั้น ถูกต้องแล้ว
5) ของขวัญปีใหม่ที่อยากได้ยินคือ
5.1 ย้ำโรดแมป ว่าจะเดินต่อไปอย่างไร เพื่อสร้างความชัดเจน มั่นใจ อันจะมีผลโดยตรงต่อการค้าการลงทุนด้วย และลดความอึมครึมทางการเมืองด้วย หากไม่มีอะไรซ่อนเร้น ควรที่จะประกาศและสร้างความชัดเจน-มั่นใจ ให้ได้ หากท่านชัดเจนแล้ว พรรคการเมืองหรือนักการเมืองคนใดยังตีรวน หาเรื่อง ประชาชนจะจัดการกับคนเหล่านั้นแทนท่านแน่นอน
5.2 เศรษฐกิจปากท้อง ที่ท่านจะแก้ไข ท่านจะทำอะไรบ้าง นอกจากบท “พระเวสสันดร” หรือ “ซานต้าตู่” ที่โปรยของขวัญปีใหม่ข้างต้นออกมา แผนว่าด้วยการจัดการน้ำ นาแปลงใหญ่ การลดต้นทุนการผลิต การส่งเสริมศาสตร์พระราชาสู่เรือกสวนไร่นา ตลาดประชารัฐ นิวสตาร์ท ฯลฯ มีไหม ประกาศเลยครับ แล้วเรียกร้องความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพราะความสำเร็จทั้งหลาย รัฐบาลไม่อาจดลบันดาลอยู่เพียงฝ่ายเดียว
5.3 การตามยึดทรัพย์นักการเมืองที่ศาลตัดสินแล้วว่าผิด เช่น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งชัดเจนแล้วว่าไม่อุทธรณ์ เป็นอันว่าผลทางอาญาจบสิ้นแล้ว ในทางแพ่งที่ท่านใช้คำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหาย ไปถึงไหนแล้ว มีความคืบหน้าไหม หรือพอนางออก “ช่องทางธรรมชาติ” ไปแล้ว ตามด้วยตำรวจที่ขับรถไปส่งนาง เป็นอันว่าจบเรื่องกันอย่างนั้นหรือเปล่า รวมไปถึงการยึดทรัพย์นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ภูมิ สาระผล และพวกด้วย
5.4 รายชื่อข้าราชการที่ท่านใช้คำสั่งตามมาตรา 44 เอาเขาไปแขวนไว้ ใครทุจริตหรือไม่ทุจริตอย่างไร ได้ความชัดเจนหรือยังครับ มันจะเป็นเครื่องบอกความเอาจริงเอาจังต่อการปราบทุจริตของท่าน ว่าไม่ใช่เอาอำนาจไปแขวนไว้ แล้วปล่อยให้เรื่องเงียบ เหมือนจับโชว์แต่ไม่มีกระบวนการตัดสิน ลงโทษ
5.5 อนาคตที่ประเทศไทยจะเป็นสังคมสูงวัย ซึ่งจะวิกฤติหนักหน่วงมาก ท่านเตรียมอะไรไว้รับมือบ้าง
5.6 รถไฟทางคู่ ที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนและการคมนาคมขนส่งในประเทศ จริงจังเท่ารถไฟความเร็วสูงท่อนสั้นๆ ที่เพิ่งไป “กดปุ่มเปิดงาน” มาไหมครับ
5.7 พี่ตูนวิ่งจากเบตงถึงแม่สายแล้ว รัฐบาลเดินหน้าปรับเปลี่ยนนโยบายอะไรแก้ไขปัญหาเดิมๆ บ้างไหมครับ เช่น การบรรจุบุคลากรด้านสาธารณสุข จะให้เกิดปัญหาพยาบาลยื่นเงื่อนไขลาออกเหมือนที่เคยเกิดไหมครับ สวัสดิการชีวิตแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่จะดีกว่านี้ไหมครับ แผนส่งเสริมสุขภาพเชิงรุกเชิงป้องกันจะทำให้เข้มข้นกว่านี้ไหม ใครบริจาคเงินให้โรงพยาบาล มีมาตรการจูงใจอย่างไร จะออกนโยบายส่งเสริมการประกันสุขภาพ ประกันชีวิต กับเอกชนของประชาชนแต่ละคนบ้างไหมเพื่อลดภาระรัฐ เรื่องสิทธิบัตรยา ฯลฯ เป็นอย่างไร
ขอบคุณมากครับ กับของขวัญ “ธุรการ” ที่แจงมา แต่จะดีกว่าถ้าของขวัญมันชิ้นใหญ่และยั่งยืน สิ่งที่ท่านทำ มันเหมือน “รัฐบาลขาลง” ทั่วไปเขาทำกัน ไม่อยากเห็นอย่างนั้น อยากเห็นท่าน “ขาแข็ง” ไม่เข่าอ่อนแบบที่เป็นอยู่นี้เลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี