บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์แนวหน้าเมื่อเดือนที่แล้ว เคยเขียนชื่นชมการทำงานของรัฐบาลคณะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เอาจริงเอาจังในการปราบปรามแก้ไขปัญหาการทุจริต อย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันยังได้ทักท้วงเกี่ยวกับการใช้คำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับต่างๆ เพื่อตรวจสอบเจ้าพนักงานของรัฐเนื่องจากถูกร้องเรียนหรือกล่าวหาว่าใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมาย จากการปฏิบัติหน้าที่จนเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ จึงให้ข้าราชการเหล่านั้นที่มีทั้งข้าราชการประจำ และฝ่ายการเมืองพ้นจากตำแหน่งไปก่อน เพื่อรอตรวจสอบข้อเท็จจริง
ปัญหาก็คือว่า หลายคนที่ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. นั้นกระทำผิดตามข้อร้องเรียนจริง ก็ถูกดำเนินการทั้งวินัย อาญา แต่อีกหลายคนได้มีการสอบสวนแล้วปรากฏว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียน ทุกคนได้แต่เฝ้ารอคอยเพื่อจะกลับไปทำงานหน้าที่ราชการต่อไป
แต่แม้ผลสอบสวนจะออกมาแล้วว่าไม่ผิด การคืนตำแหน่งยังไม่เกิดขึ้น หรือบางรายกว่าจะได้คืนตำแหน่งหรือเยียวยาในตำแหน่งที่ใกล้เคียง ก็ต้องใช้เวลาล่วงเลยเป็นปี บางรายได้คืนตำแหน่งแล้วยังไปเปลี่ยนชื่อตัวเองเพื่อไม่ให้มีตำหนิหรือ จุดด่างพร้อย
รัฐบาลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตอาจจะมองว่าเป็นปัญหาเล็กๆ ในการคืนตำแหน่งผู้บริสุทธิ์ แต่สำหรับผู้บริสุทธิ์แล้วมองว่านี่คือเรื่องใหญ่รับราชการมาค่อนชีวิต แล้วต้องมาหมดอนาคตกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยไม่ได้กระทำผิด ก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เราเห็นว่าถ้าใครกระทำผิดก็ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดแต่ถ้าไม่ได้กระทำผิดก็ต้องรีบคืนตำแหน่งโดยทันที
ล่าสุด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยอมรับว่าได้คืนตำแหน่งให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 4 รายไปแล้ว โดยระบุรายหนึ่งไม่มีความผิด อีกรายมีความผิดเล็กน้อย ซึ่งก็ได้ตักเตือนไปแล้ว ส่วนอีกรายศาลยกฟ้อง และรายสุดท้ายเป็นการกระทำผิดก่อนหน้านี้จนหมดวาระและได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอีก 2 ครั้ง ฉะนั้นการจะไปลงโทษพักงานเขาด้วยเหตุผลเช่นนี้อาจจะไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกันรายอื่นๆที่อยู่ระหว่างการพิจารณาก็มีลักษณะเช่นนี้ด้วย
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า เราจะพยายามตรวจสอบในส่วนที่ศาลยกฟ้อง และรายที่สอบสวนแล้วไม่มีความผิดก่อน ซึ่งตัวเลขเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกพักงานทั้งหมดมีประมาณ 300 คนคืนตำแหน่งไปแล้วหลายสิบคน และเข้าใจว่าจนถึงขณะนี้ผู้นำท้องถิ่นทั่วประเทศน่าจะครบวาระหมดแล้ว หากจะให้เลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศก็ได้ แต่อาจจะเลือกตั้งเฉพาะอบจ.หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือพื้นที่ที่จะไม่กระทบการแบ่งเขตก่อนก็ได้
นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 กล่าวว่า ใครผิดก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย ใครไม่ผิดก็ควรคืนความยุติธรรมเขาไป แต่นั่นเป็นการคืนตำแหน่งให้ฝ่ายการเมือง แต่ยังมีข้าราชการอีกจำนวนมากที่โดนคำสั่ง คสช.และผลสอบออกมาแล้วไม่ได้มีความผิดรัฐบาลก็ต้องคืนตำแหน่งทันทีโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี