ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลไทยต้องดำเนินการปฏิรูปภาษีอากรทุกประเภททั้งระบบโดยทำเป็นแพ็กเกจใหญ่รื้อโครงสร้างการจัดเก็บภาษีทั้งกรมสรรพากร กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งในการพัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศไทยมากยิ่งขึ้นเพราะปัจจุบันมีเสียงเรียกร้องถึงความไม่เป็นธรรมในระบบการเก็บภาษีของไทยที่ขาดความก้าวหน้าและไม่ทันสมัย
ว่ากันว่าประมวลรัษฎากรของประเทศไทยล้าสมัยทั้งระบบการจัดเก็บเพราะต้นตอคือกระทรวงการคลังที่เป็นข้าราชการประจำไม่ยอมเสนอขอเปลี่ยนระบบการจัดเก็บไปยังฝ่ายการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลที่มักชอบอ้างว่าข้านั้นมาจากการเลือกตั้งแต่นักการเมืองไทยนั่นแหละตัวดีเพราะมีหลายสิบคนที่มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงภาษีแถมยังหนุนให้นายทุนพรรคของตัวเองหาวิธีหลีกเลี่ยงภาษีให้ได้ในแต่ละปีให้ได้มากที่สุด
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยหรือทีดีอาร์ไอได้เคยวิจัยระบบการจัดเก็บภาษีของประเทศไทยมาแล้วหลายครั้งพบข้อมูลว่าระบบของไทยนั้นล้าสมัยหากเทียบกับประเทศกลุ่มที่พัฒนาแล้วเพราะระบบของไทยไม่มีข้อมูลรายได้รายจ่ายของประชาชนที่แน่นอนประชาชนเป็นจำนวนมากอยู่โดยไม่ได้จ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้รัฐบาลในแต่ละปีเพราะไปแจ้งว่ามีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 20,000 บาท ทั้งๆ ที่มีรายได้มากกว่านั้นถึง 2 – 3 เท่า
นอกจากนี้ในประมวลรัษฎากรได้ไปกำหนดให้เกษตรกรชาวไร่ชาวนาชาวสวนชาวประมงของไทยไม่ต้องมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้เหมือนประชาชนที่ทำงานในเมือง ทั้งๆที่มีเกษตรกรมากกว่าร้อยละ 25 ที่มีรายได้ต่อเดือนๆ ละมากกว่า 1 ล้านบาท บางครอบครัวมีรายได้เดือนละมากกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ก็มีตรงนี้เป็นช่องโหว่เพราะรัฐบาลให้คนในเมืองเสียภาษีเงินได้ในขณะที่คนในชนบทที่ร่ำรวยกลับได้เปรียบได้รับการยกเว้นตามกฎหมายไม่ต้องมีภาระเสียภาษี
ประเทศที่เจริญแล้วจะมีระบบการจัดเก็บภาษีที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคมากกว่านั่นคือคนทุกๆ คนในแผ่นดินหรือประเทศนั้นๆ ต้องมีภาระหน้าที่ของราษฎรที่ดีต้องมีความสำนึกว่าราษฎรหรือประชาชนต้องยอมว่าตนจะต้องชำระภาษีเพื่อนำเอารายได้จากภาษีทางตรงกลับมาพัฒนาประเทศชาตินอกจากภาษีทางตรงแล้วยังมีภาษีทางอ้อม ได้แก่ ภาษีโภคภัณฑ์, ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีที่ดิน, อากรขาเข้าสินค้า, ภาษีสรรพสามิต มากมายจิปาถะ
มีการตั้งข้อสังเกตว่าบางครั้งรัฐบาลแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจไม่ยอมปฏิรูประบบภาษีเพราะหวังผลทางด้านการเมืองโดยไม่เข้าไปแตะต้องการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีอากรใหม่ๆ เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำของสังคมให้ได้ผล การขยายฐานของภาษีให้ไปถึงคนไทยทุกกลุ่มอาชีพ มีมากเสียภาษีมากมีน้อยเสียภาษีน้อยไม่มีก็ไม่ต้องเสียภาษีการบังคับใช้กฎหมายที่ดินและอาคารที่เหมาะสมกับคนที่มีฐานะดีที่เขาสามารถจ่ายค่าภาษีได้โดยไม่มากหรือไม่สูงจนเกินไป
นี่คือปรัชญาในการคิดวิธีการออกรูปแบบการจัดเก็บภาษีให้มีความเป็นธรรมและทำให้ประชาชนพร้อมที่จะจ่ายภาษีให้รัฐทุกๆ เพศทุกๆ วัยจึงจะเป็นการจัดเก็บภาษีที่ดีโดยรัฐบาลต้องแสดงความพร้อมให้ประชาชนเข้าใจด้วยว่าการเก็บภาษีที่ดีมาจากอะไรด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี