บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง วิเคราะห์หุ้นธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL จากการจัดงาน BBL Luncheon เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแผนการดำเนินงาน ปี 2561 ของธนาคารอันมาจากสินเชื่อที่มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าปีก่อนมาก และรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยคงที่ ขณะที่ BBL มีแผนตั้งสำรองในระดับสูงขึ้นเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS9) ดังนั้นเราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2561 เล็กน้อย 4% มาอยู่ที่ 36 พันล้านบาท ปัจจุบัน BBL ถูกซื้อขายบน PBV สิ้นปี 2561 ที่ถูกมาก 0.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของบริษัทที่ 1.1 เท่า และผลประกอบการอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากปีก่อน โดยยังคงคำแนะนำ ซื้อ!
กระแสการลงทุนการไหลกลับ
BBL ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตในช่วง 5-6% หลังจากที่ขยายตัวเพียง3.2% ในปีที่แล้ว โดยผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อบรรษัทสูงขึ้น 6-7% รายย่อย 5-7% และ SME และต่างประเทศ 4-5% ความต้องการสินเชื่อจะมาจากโครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของทางภาครัฐ และการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีการไหลกลับของกระแสการลงทุน ปัจจุบันรัฐมีงบลงทุนในระบบสาธารณูปโภค 2.5 ล้านล้านบาท ระหว่างปี 2559-2568 นอกจากนี้ สินเชื่อต่างประเทศจะเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ ให้สินเชื่อธนาคารขยายตัวได้ในระยะยาวอันเกิดจาก บรรษัทไทยที่ขยายธุรกิจไปประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย เช่น อินโดนีเซีย จีน สหภาพพม่าและ สปป.ลาว
BBL คาดจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2561 ดังนั้น เป้าหมายส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จึงเท่าเดิมที่ 2.3% ทรงตัว YoY ขณะที่เป้าหมายรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิอยู่ในช่วง 5-9% ทั้งนี้โดยรวมแล้วเป้าหมายของธนาคารใกล้เคียงกับประมาณการของเรา โดยเราคาดสินเชื่อเติบโต 5% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ 2.3% และรายได้ที่ไม่ได้มาจากดอกเบี้ยรับสูงขึ้น 7%
คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น
ผู้บริการกล่าวว่า สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในปี 2561 น่าจะทรงตัว YoYหลังจากที่พุ่งขึ้น 27% ในปี 2560 อย่างไรก็ตาม BBL จะยังคงตั้งสำรองฯ กว่า 20 พันล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานบัญชี IFRS9 จากเป้าหมายดังกล่าว เราจึงปรับเพิ่มประมาณการการตั้งสำรองฯ ปี 2561 ของเราขึ้น 11% มาอยู่ที่ 20 พันล้านบาท ส่งผลให้คาดการณ์กำไรปี 2561 ของเราลดลง 4% มาอยู่ที่ 36 พันล้านบาท ทั้งนี้ เราคาดภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอาจส่งผลให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ มีโอกาสลดลงมากกว่าเพิ่มขึ้น ในปีนี้ ธนาคารคาดเศรษฐกิจปี 2561 เติบโต 4.2% เทียบกับ 4.0% ในปีก่อน
เพิ่มดีกรีการแข่งขันระยะยาว
จุดแข็งด้านการแข่งขันของ BBL ได้แก่ 1) การรักษาสภาพคล่องและเงินกองทุนเพื่อพร้อมสำหรับการปล่อยสินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ 2) การมีสาขาครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งบริษัทมีแผนจะเพิ่มจุดแข็งตรงนี้รวมถึงอัพเกรด ระบบดิจิทัลแบงก์ ผ่านระบบ online/mobile banking เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยบริษัทมีงบลงทุนสำหรับ IT จำนวน 5 พันล้านบาท (ดังนั้น เราประเมินอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ปี 2561 อยู่ที่ 48%, เป้าของ BBL อยู่ที่ 45%) ทั้งนี้ BBL ยังไม่มีแผนจะลดสาขาหรือลดพนักงานในปีนี้ แต่ธนาคารจะจัดสรรพนักงานสาขาไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มรายได้และรักษาฐานลูกค้า
ที่มา : บล.บัวหลวง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี