nn ถ้าไม่ “โลกสวย” หรือตั้งใจจะเอาใจรัฐบาลจนเกินไปก็ต้องยอมรับความจริงว่าปีนี้ภาคการลงทุนเข็นไม่ขึ้นจริงๆ...ซึ่งก็ใช่ว่า “หมุนตามทุน”จะเป็นคนมองโลกแง่ร้ายจนเกินไปแต่ตัวเลขที่มันออกมาจากหน่วยงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการลงทุน ที่น่าเชื่อถือได้ที่ออกมามันฟ้องว่าจะเป็นอย่างนั้น...
เช่น...ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคม 2562...ที่เผยแพร่โดยสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (สอท.)...ก็ปรากฏว่า ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 93.5 จากที่อยู่ในระดับ 94.5 ในเดือน มิถุนายน 2562 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 7 เดือน....เหตุผลก็มาจากผลกระทบจากการชะลอของการส่งออกจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้า รวมถึงผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งที่กระทบต่อกำลังซื้อและการบริโภคในประเทศ และประกอบกับผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ SME ที่จะต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น
อีกตัวเลขหนึ่งก็คือ...ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) และ GDP ของภาคอุตสาหกรรม...ซึ่งเผยแพร่โดย สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม....ก็ปรากฏว่า ตัวเลขทั้งปี’62จะมีอัตราการเติบโตเพียงแค่ในระดับ 0-1%...เท่านั้น จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตได้ในระดับ 1.5-2.5% …ซึ่งเหตุผลก็มาจาก...ผลของสงครามการค้ากระทบการส่งออกของไทยตั้งแต่ปี 2561 ทำให้การส่งออกติดลบทุกสินค้า
ทั้งนี้ เหตุที่ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ไม่เติบโตในปีนี้ก็มาจากแรงกดดันของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักทรงตัว รวมทั้งการผลิตรถยนต์ ในเดือนกรกฎาคม ก็ลดลงถึง 6.7% และ
ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม เหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน ผลิตภัณฑ์ยางและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์...ที่ลดลงเพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่องและคำสั่งซื้อจากต่างประเทศชะลอตัวลง
โดยสรุปก็คือว่าภาคการผลิตที่มีอยู่เดิมในประเทศตอนนี้อ่อนแรงลงมาก จนไม่สามารถขยายการลงทุนเพิ่มได้...ดังนั้นหากกระตุ้นภาคการลงทุนในเติบโตขึ้นในขณะนี้ก็จำเป็นต้องดึงการ
ลงทุนใหม่ๆ จากต่างประเทศเข้ามา...ซึ่งแน่นอนว่า EEC คือความหวังหนึ่งของรัฐบาล แต่ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า EEC ตอนนี้ก็ยังเป็นแผนงานอยู่ในกระดาษเสียส่วนใหญ่....นักลงทุนก็เลยได้แต่รอความชัดเจนในหลายๆ เรื่อง ก่อนที่จะตัดสินใจใส่เม็ดเงินลงทุนลงมาอย่างจริงจัง....
อย่างไรก็ตาม...เมื่อสหรัฐกับจีนเริ่มกดปุ่มสาดกระสุนทำสงครามการค้ากันแล้ว และทำท่าว่าจะยืดยาวออกไปจนไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อใด....ก็เลยเกิดกระแสที่นักลงทุนต่างชาติจะย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเพื่อหนีผลกระทบจากสงครามการค้า...รัฐบาลไทยก็เลยปิ๊งไอเดีย....ทำตัวเป็น“กับดัก”....หวังดึงเม็ดเงินลงทุนนักลงทุนที่หนีออกจากจีนมาลงทุนในไทย....
กลยุทธ์ที่จะใช้...ประการแรกคือสั่งให้...สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)เพื่อจัดทำแพ็กเกจส่งเสริมการลงทุนเป็นรายประเทศ...ซึ่งแพ็กเกจที่ว่านี้ไม่ใช่เฉพาะลดหย่อนภาษีเท่านั้น เพราะเรื่องแบบนี้นักลงทุนเขามองเป็นเรื่องปกติธรรมดา....สิ่งที่ต้องใส่เพิ่มเติมเข้าไปคือ...เรื่องการอำนวยความสะดวก การพัฒนาสิ่งแวดล้อม ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน....
ประการที่สองคือ...ตั้งทีมเฉพาะกิจรองรับการเข้ามาลงทุนของต่างชาติทุกภูมิภาค (Relocate Pagage) “หมุนตามทุน”...ตั้งชื่อให้ว่าจะเรียกว่าทีม “อเวนเจอร์ส พลังดูด”....โดยเข้ามาทำหน้าที่ ร่วมกันศึกษาแพ็กเกจส่งเสริมการลงทุน....แล้วเสนอที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ เพื่ออนุมัติ “แพ็กเกจลงทุนฉบับพิเศษ” ที่ว่านี้
ว่ากันตามจริงแล้วความได้เปรียบของประเทศไทยที่พอจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติเหลืออยู่เพียงไม่กี่ข้อ...ข้อแรกคือ...ไทยเป็นจุดศูนย์กลางหลักของกลุ่ม CLMVT และ อาเซียน...และโครงสร้างพื้นฐานที่ดี....ส่วนเรื่องแรงงานราคาถูก ต้นทุนด้านอื่นๆ เราสู้กลุ่ม CLMV ไม่ได้แน่นอน...ส่วนเรื่อง ความยากง่ายในการขออนุมัติการลงทุน...เรื่องความโปร่งใสในขั้นตอนปฏิบัติ...อันนี้ต้องยอมรับว่าเราแพ้สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย แม้กระทั่งเวียดนาม.....และทุกประเทศเหล่านี้ ก็พร้อมที่จะแข่งกับไทยในการดึงการลงทุนที่ย้ายออกมาจากจีน....ซึ่งก็เหมือนว่าจะทำสำเร็จไปแล้วก่อนไทยในช่วง2-3 ปีก่อนหน้านี้....ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย อินโดนีเซีย....ที่ได้โครงการลงทุนขนาดใหญ่จากค่ายรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น หรือโครงการของกลุ่มค้าปลีกจากจีนไปแล้ว...ส่วนเวียดนามไม่ต้องพูดถึงได้ไปแล้วหลายโครงการใหญ่ๆ จากจีน...โดยเฉพาะโครงการผลิตเหล็ก...
อีกไม่นานเราคงจะได้พิสูจน์ฝีมือของ“ทีมอเวนเจอร์ส พลังดูด” ว่าหลังจากลดแหลกแจกแถมจนถึงขนาดแล้วจะได้สักโครงการลงทุนสักกี่โครงการเข้ามาในประเทศไทย...พร้อมกับคำถามที่ว่า สุดท้ายแล้วประเทศไทยจะได้อะไรคุ้มค่าไหม เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราให้เขาไป...
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี