เสือร้องไห้ เป็นชื่อของอาหารประเภทกับแกล้ม โดยใช้เนื้อวัว บริเวณส่วนอกที่อ่อนนุ่มมีมันปนเล็กน้อย แล่เป็นชิ้นหนาตามยาว หมักด้วยซอสปรุงรส ย่างด้วยไฟอ่อนๆ นำมาหั่นให้พอดีคำ เวลารับประทานจิ้มด้วยน้ำจิ้ม หรือแจ่ว
ทำไมจึงเรียกว่า “เสือร้องไห้” เนื้อวัวส่วนที่อยู่ในอกมีกระดูกซี่โครงปิดบังอยู่ เป็นเนื้อส่วนเดียวในตัววัวที่เสือกินไม่ได้ เพราะเสือไม่สามารถแหวกซี่โครงออกได้ และหัวใหญ่เกินกว่าที่จะมุดเข้าไปกินเนื้อส่วนนี้ได้ เสือทำได้เพียงใช้ลิ้นลิ้มลองรสหวานของมันที่ติดกับเนื้อส่วนนี้ ซากวัวส่วนนี้จึงถูกเหลือไว้ รอให้สัตว์อื่นมากิน พรานล่าเสือจึงเรียกเนื้อส่วนนี้ว่า “เสือร้องไห้” เพราะเสือไม่มีปัญญาจะกินเนื้อส่วนนี้ หรือมีที่มาเป็นในเชิงขบขัน ที่เล่ากันว่า เมื่อเสือได้กินเนื้อวัวตรงส่วนนี้แล้ว ส่วนนี้จะเหนียวกว่าเนื้อส่วนอื่นๆ ทำให้เศษเนื้อติดในซอกฟันเสือ เสือแคะไม่ออก หรือไม่สามารถแคะได้ เสือจึงร้องไห้ กลายเป็นอีกเรื่องของที่มา “เสือร้องไห้”
เสือร้องไห้ ยังเป็นชื่อของว่านชนิดหนึ่ง ที่บางแห่งเรียกว่า “พญากาสัก” เป็นไม้พุ่มสูง 2-4 เมตร ลำต้นสีเขียวมีข้อชัดเจน ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ เรียงสลับ รูปไข่กว้าง 25-30 ซม. ยาว 30-50 ซม. ผิวใบเป็นคลื่นเล็กน้อยมีหูใบแผ่เป็นแผ่นเห็นได้ชัดเจน ดอกสีขาวแกมเขียวอ่อน ออกเป็นช่อใหญ่ที่ปลายยอด ลักษณะเป็นชั้นๆ ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ผลเป็นผลสด รูปร่างค่อนข้างกลมแป้น เมื่อแก่สีดำ ขนาด 1-3 มม. มีสรรพคุณ คือ หัว ผสมสมุนไพรชนิดอื่น ใช้รักษากามโรค แผลฝี หนองในรากใช้ย้อมผ้าให้สีแดง
เมนูเสือร้องไห้ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี และหลายคนนิยมสั่งมาเป็นกับแกล้ม ได้กลายมาเป็นประเด็นที่การวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างทั้งในประเทศมาเลเซียและประเทศไทย
เสือร้องไห้ ตามภาษามลายูเรียกว่า “ฮาริมาอูเมอนางิส” (Harimau Menangis)หมายถึง ส่วนหนึ่งของเนื้อ
ประเด็นดราม่าเริ่มขึ้นโดยบริษัท นูร์ ข่าน เอ็นเตอร์ไพรส์(Noor Khan Enterprise) เจ้าของคือ ดาติน นูร์ คาร์ตินีนูร์ โมฮัมเหม็ด (Datin Noor Kartini Noor Mohamed)ได้นำคำว่า “Harimau Menangis” ไปจดเครื่องหมายการค้า ต่อสำนักทรัพย์สินทางปัญญาของมาเลเซีย (Intellectual Property Corporation of Malaysia/MyIPO) เมื่อวันที่ยื่นขอจดทะเบียนวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 โดยระบุเป็นมรดกทางภูมิปัญญา และวัฒนธรรมของชาวมาเลเซีย ดาติน นูร์ คาร์ตินี นูร์ โมฮัมเหม็ด นอกจากจะเป็นทั้งนักธุรกิจหญิง ยังเป็นมารดาของดาราสาวชาวมาเลเซียที่ชื่อ นูร์ นีโลฟา โมห์ด นูร์ (Noor Neelofa Mohd Noor)
หาก “Harimau Menangis” ได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า จะส่งผลกระทบต่อร้านอาหารขนาดเล็กในมาเลเซีย ที่จะไม่สามารถขายเมนูนี้ได้อีกต่อไป ทำให้นักเคลื่อนไหวเจ้าของร้านอาหารในมาเลเซียยอมรับไม่ได้กับเรื่องนี้
ในไทยเอง มีการตั้งคำถามไปถึงกรมทรัพย์สินทางปัญญาเพราะกลัวว่า เมนู “เสือร้องไห้” ที่เป็นของไทย ไม่ควรให้ชาติใดเอาไปได้ ทำให้นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญายืนยันว่า กรณีนี้ไม่กระทบต่อการใช้ชื่อเมนู “เสือร้องไห้” ของผู้ประกอบการในไทย เนื่องจากคำว่า “Harimau Menangis” ไม่ใช่คำว่า “เสือร้องไห้” และการคุ้มครองทางกฎหมาย จะมีผลเฉพาะในประเทศที่ได้รับจดทะเบียนเท่านั้น
ชาวมาเลเซียต่อต้านและวิจารณ์เรื่องนี้ จนทำให้เกิดกระแสดราม่าในโลกโซเชียลของมาเลเซีย ซึ่งต่างพากันแสดงความไม่พอใจ ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า การยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอาหารเมนูนี้ เป็นการเอาเปรียบหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง เมื่อทนกระแสกดดันไม่ไหว นูร์ ข่าน เอ็นเตอร์ไพรส์ได้ดำเนินการถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Harimau Menangis” และให้เหตุผลว่า ที่ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพียงแค่ป้องกันไม่ให้ถูกลอกเลียนแบบเท่านั้น
เรื่องนี้อาจทำให้หลายคนคิดถึง ซอสพริกศรีราชามีต้นกำเนิดมาจากอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซอสพริกศรีราชาเดิมที่ผลิตโดย ศรีราชาพานิช ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2493 ต่อมาในปีพ.ศ. 2527 บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อกิจการและจัดจำหน่ายในชื่อ “ซอสพริกศรีราชา พานิช” ที่มีชื่อภาษาอังกฤษ คือ “Sriraja Panich Chilli Sauce”
ในสหรัฐอเมริกา ซอสพริกศรีราชารู้จักอย่างแพร่หลายเพราะนายเดวิด ทราน (David Tran) ชาวเวียดนามได้ตั้งโรงงาน “ฮุยฟงฟู้ดส์ (Huy Fong Foods)” ในปีพ.ศ. 2533 ผลิตซอสพริกศรีราชา “Sriracha Hot Chili Sauce” ใช้เครื่องหมายการค้าเป็นรูป “ไก่ตัวผู้” อาศัยความมีชื่อเสียงของซอสพริกศรีราชาของไทย ทั้งๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใด ซอสพริกศรีราชาของไทยเป็นรูป “พริก”และมีอายุมากกว่าซอสพริกศรีราชา ที่ผลิตโดยฮุยฟงฟูดส์หลายสิบปี
แมคโดนัลด์ ในสหรัฐฯ จะมีเมนู “Signature Crafted Recipes” หรือเบอร์เกอร์ที่เลือกส่วนผสมได้เอง เมนูนี้จะมีซอสพริกศรีราชาที่ผลิตโดย ฮุยฟงฟู้ดส์
ความเผ็ดและร้อนแรงของซอสพริกศรีราชา ไม่แค่เคียงข้างอาหาร ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า(Toyota) ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ในเครือที่มีชื่อเครื่องหมายการค้าแยกออกมาต่างหากที่ชื่อ เลกซัส (Lexus) “New Lexus IS” รุ่น Sriracha ในปีพ.ศ.2559
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ตามพ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 คำว่า “ซอสพริกศรีราชา”ไม่สามารถจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อถือสิทธิแต่เพียงผู้เดียว เพราะคำว่า “ศรีราชา” เป็นชื่ออำเภอในจังหวัดชลบุรีในประเทศไทย ถือเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์
อย่างไรก็ตาม หากจะจดทะเบียนคำว่า “ซอสพริกศรีราชา” ในไทย ต้องมีรูปอย่างอื่นประกอบในเครื่องหมาย และต้องสละสิทธิ์ที่จะใช้คำว่า “ศรีราชา” ซึ่งเป็นชื่อภูมิศาสตร์ โดยจะไม่ใช้คำนี้แต่เพียงผู้เดียว หรือจะต้องพิสูจน์ความแพร่หลายของเครื่องหมายการค้าดังกล่าว
แต่การที่เจ้าของเครื่องหมายการค้า “ซอสพริกศรีราชา”ในไทย ไม่ดำเนินการโต้แย้งหรือคัดค้าน การจดทะเบียนและการใช้เครื่องหมายการค้า “ซอสพริกศรีราชา” ของบุคคลอื่นในต่างประเทศ อาจเป็นเพราะไม่ต้องการให้เกิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
ชื่อเสียงและคุณค่าในทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศไทย ควรรักษาและหวงแหนไม่ให้ตกอยู่ในมือของต่างประเทศ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี