วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทบัตรกรุงไทยหรือ KTC ผู้บริหารบอกว่ามีการปรับราคา และกลยุทธ์การสร้างการเติบโตของบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง (KTBL) ใหม่ ก่อนหน้านี้ KTC ตกลงจะซื้อหุ้น 75% ของ KTBLจาก KTB ที่ราคาประมาณ 594 ล้านบาท (คิดเป็น P/BV ที่ 0.6x ของมูลค่าทางบัญชีของ KTBL เมื่อสิ้นปี 2563) อย่างไรก็ตาม KTC ได้ write-off หนี้เสียไปบางส่วน 2Q64-3Q64 และมีแผนจะ write-off เพิ่มอีก 500-600 ล้านบาทใน ใน 4Q64 ค่าใช้จ่ายพิเศษส่วนนี้จะทำให้กำไรลดลงใน 4Q64 ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2564 ลงประมาณ 11%
ปรับกลยุทธ์การเติบโตของ KTBL ใหม่
ก่อนหน้านี้ KTC ตั้งเป้าจะใช้กลยุทธ์ขยายธุรกิจลีสซิ่ง และสินเชื่อจำนำทะเบียนโดยใช้ทรัพยากรที่อยู่ภายใต้ KTBL แต่เนื่องจากตลาดเปลี่ยนแปลงและทางการกำหนดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงจำกัดเพดานอัตราดอกเบี้ยที่คิดจากลูกค้า บริษัทจึงเปลี่ยนมาตั้งเป้าขยาย platform นี้โดยอิงจากธนาคารแม่ (KTB) มากขึ้นด้วยการใช้เครือข่ายสาขาธนาคารในการขยายธุรกิจ บริษัทตั้งเป้าจะใช้ธุรกิจนี้ขยายสินเชื่อเพิ่มเติมจากการขยายสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลของทางบริษัทเองคาดว่าธุรกิจใหม่นี้จะทำให้สินเชื่อขยายตัว 2.5 พันล้านบาทในปี 2565 โดย 1 พันล้านบาทจะมาจากสินเชื่อ H/P และอีก 1.5 พันล้านบาทจากสินเชื่อจำนำทะเบียน
จะโตตามธนาคารแม่
เราคิดว่าการเร่ง write-off หนี้เสียของ KTBL เป็นแนวทางที่ไม่แย่ทีเดียว เพราะ KTC จะบันทึกรายได้จากการติดตามหนี้เสียได้เมื่อเรียกเก็บเงินจากหนี้ก้อนดังกล่าวได้ แต่เรายังเป็นห่วงอัตราการขยายสินเชื่อจากธุรกิจใหม่ เพราะหากไม่สามารถขยายสินเชื่อได้ หรือต่ำกว่าเป้า จะกลายเป็นความเสี่ยงต่อประมาณการกำไรของ KTC ทั้งนี้ ในการขยายสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทบอกว่าภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นทำให้อัตราการอนุมัติสินเชื่อกลับไปอยู่ระดับใกล้เคียงปกติที่ 30% แล้ว (จาก 18-19% ในช่วงที่ COVID-19 ระบาด) เราได้ปรับสมมุติฐานสินเชื่อจากธุรกิจใหม่เป็น 2 พันล้านบาท ในปี 2565 (ต่ำกว่าเป้าของ KTC ที่ 2.5 พันล้านบาท) และ 4 พันล้านบาท ในปี 2566 ทำให้อัตราการขยายตัวของสินเชื่อรวมในปี 2564/65/655 อยู่ที่ 2%/10%/12%
ลดประมาณการกำไรปี 2564/65 อีกปีละ 11%
เราปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนถึง 1.) อัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่ลดลงเหลือ 2%/10%/12% (จากเดิม 8%/12%/15%) 2.) credit cost ที่เพิ่มขึ้นเป็น 6.4%/5.9%/5.0% (จากเดิม 5.8%/5.0%/5.0%) นอกจากนี้ เรายัง de-rate P/E เหลือ 24x ตามแนวโน้มการเติบโตที่ลดลง ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2565F ใหม่ที่ 69 บาท (ลดลงจากเดิม 90 บาท ) เรายังคงคำแนะนำซื้อ KTC
ปัจจัยเสี่ยง NPLs เพิ่มขึ้นมากเกินคาด, ผลขาดทุนจาก FVTPL, และอัตราการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)

อาลัย จ.ส.ต.โชติวัชร โนนคำ ผบ.หมู่ สน.มักกะสัน เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
ยุ้ย ญาติเยอะ ฟาดกลับชาวเน็ต หลังโดนแซะรับพรีเซ็นเตอร์แต่หุ่นไม่ลด
กต.ประณาม เหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเขมร ขาขาดรายที่ 11 จ่อยื่นหนังสือประท้วง
นายกฯ ประธาน พิธีพระราชทานเพลิงศพ พลทหารธนพัฒน์ ทหารกล้าสละชีพสมรภูมิบ้านหนองจาน
ณัฐพงษ์ ผู้สมัคร สส. หาเสียงสมุทรสาคร ประชาชนแห่ตอบรับล้นหลาม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี