วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
nn กรณีที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การประปาส่วนภูมิภาค (สร.กปภ.) ออกโรงคัดค้านกรณีที่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เตรียมขยายสัญญาให้สิทธิดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำประปากับ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด บริษัทในเครือผู้รับเหมารายใหญ่ ออกไปอีก 20 ปี จากสัญญาเดิมที่จะสิ้นสุดลงในปี 2566 ว่า แม้สหภาพฯจะยื่นหนังสือร้องเรียนไปทุกหน่วยงานให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว ตั้งแต่คณะกรรมการป.ป.ช., สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนฯ และล่าสุดได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งยุติกระบวนการต่อขยายสัญญาเอาไว้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ กปภ.ได้ทำสัญญาให้สิทธิผลิตและจำหน่ายประปาในพื้นที่ปทุมธานี-รังสิต กับบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด เมื่อปี 2538ในปริมาณไม่เกิน 288,000 ลบ.ม./วัน กำหนดอัตรารับซื้อน้ำ 7.50 บาท และปรับเพิ่มขึ้นทุกปีตามดัชนีเงินฟ้อ (CPI) เป็นสัญญาสร้าง-บริหาร และโอน (Built OwnOperate-Transfer : BOOT) อายุสัญญารวม 25 ปี จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2566(14 ต.ค. 2566) โดยเมื่อสิ้นสุดสัญญาทรัพย์สินและเครื่องมือทั้งหมดจะต้องตกเป็นของรัฐ ก่อนมีการแก้ไขสัญญาอีก 2-3 ครั้ง โดยปรับเพิ่มปริมาณการผลิตและจำหน่ายประปาขึ้นจากสัญญาเดิมอีกไม่ต่ำกว่า 70,000 ลบ.ม. รวมเป็นไม่น้อยกว่า 3.58 แสน ลบ.ม./วัน โดยปัจจุบันบริษัททำการผลิตและจำหน่ายประปาให้ กปภ. 400,000 ลบ.ม./วัน ในราคาเฉลี่ย 12.50 บาท/ลบ.ม.
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ บอร์ดกปภ.ที่มี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยและประธานบอร์ดกปภ. มีนโยบาย
ชัดเจนที่จะให้กปภ.ดำเนินโครงการผลิตและจัดหาน้ำประปาเองภายหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี’66 ตามมติบอร์ด กปภ.เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2562 และโดยมีการตั้งคณะทำงานขึ้นศึกษาแนวทางการดำเนินกิจการภายหลังสัญญาโครงการเอกชนร่วมลงทุนในกิจการประปาปทุมธานี-รังสิต สิ้นสุดลง แต่เมื่อมีการปรับเปลี่ยนบอร์ด กปภ.ในปี 2564 กปภ.กลับเปลี่ยนแนวนโยบายใหม่ โดย กปภ.รับข้อเสนอของบริษัทเอกชนคู่สัญญาที่ทำเรื่องขอขยายสัญญาสัมปทานจากเดิมที่จะสิ้นสุดในปี 2566 ออกไปอีก 20 ปี โดยอ้างเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
“เรื่องนี้สร้างความงุนงงให้กับพนักงานกปภ.อย่างมาก เพราะเป็นการกลับลำจากหน้ามือเป็นหลังมือและขัดแย้งกับมติบอร์ด กปภ.เดิมโดยสิ้นเชิง เหตุนี้เมื่อมีความพยายามจะนำเรื่องต่อขยายสัญญาเข้าบอร์ด กปภ.เมื่อปลายเดือน ก.ย. 2564 ฝ่ายยุทธศาสตร์ของ กฟภ.ถึงกับจัดทำรายงานทักท้วงบอร์ด กปภ. โดยยืนยันไม่เห็นด้วยกับแนวทางขยายสัญญาสัมปทานดังกล่าว เพราะขัดแย้งกฎหมาย (พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯปี 2562) รวมทั้งขัดแย้งกับมติบอร์ด กปภ.ก่อนหน้า ทั้งยังเป็นการดำเนินการเอื้อประโยชน์แก่เอกชนเพียงรายเดียว แต่ก็ไม่สามารถจะทัดทาน ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า บอร์ดกปภ.ได้อนุมัติการต่อขยายสัญญาสัมปทานดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 แล้วโดยมีการเผยแพร่เอกสารสัญญาแก้ไขฉบับใหม่ไปทั่วองค์กร กปภ. และ ก.มหาดไทย”
เหตุที่ทำให้คน กปภ.ส่วนใหญ่ มองว่าความพยายามต่อขยายสัญญาสัมปทานผลิตและจำหน่ายประปาดังกล่าว น่าจะเป็นเรื่องไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะสัมปทานเดิมที่จะสิ้นสุดลงในปี’66 นั้น บรรดาเครื่องจักรและทรัพย์สินในโครงการทั้งหมดจะต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ กปภ.ได้เตรียมแผนรองรับการดำเนินกิจการประปาเองไว้แล้ว แต่จู่ๆ กลับมีใบสั่งการเมืองล้มแผนดังกล่าว เพื่อจะให้ต่อสัญญาสัมปทานให้กับรายเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติวิสัย และส่อเอื้อผลประโยชน์ให้แก่เอกชนอย่างชัดเจน ทั้งยังเป็นการดำเนินการที่ขัดแย้งกับบทบัญญัติกฎหมายตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนปี 2562 ด้วย เพราะหาก กปภ.จะเปิดให้เอกชนเข้ามาดำเนินโครงการก็ต้องเปิดประมูลเป็นการทั่วไปตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุน(พีพีพี)ปี 2562 และยังต้องดำเนินการตามมติ ครม.เมื่อ29 มิ.ย.2564 ในเรื่องข้อตกลงคุณธรรม เพื่อป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐอีกด้วย
มีการคำนวณตัวเลขเบื้องต้นว่าหากมีการต่อขยายสัญญาออกไป 20 ปี เฉพาะวงเงินกำไรจากส่วนต่างการขายน้ำที่ กปภ.จะดำเนินการเองกับที่กำหนดในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมหน่วยละ 10.15 บาทขึ้นไปตามดัชนี CPI นั้น จะมีส่วนต่างกำไรเกิดขึ้นตลอด 20 ปีมากกว่า 14,000 ล้านบาท ซึ่งกำไรส่วนนี้ไม่ได้ตกอยู่กับรัฐหรือประชาชน แต่ผลประโยชน์ก้อนโตนี้ จะตกอยู่ที่ใครเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามกันต่อไป
กระบองเพชร

'ดร.จักษ์' เปรียบฝ่ายอนุรักษ์ 'ตลาดนัดนักการเมือง' ชี้แพ้เพราะชอบฆ่ากันเอง
'มดดำ'เปิดแชทเพื่อนสนิท หลังเจอโยง 'น.' ชวนลงทุนเสียหาย 400 ล้าน!
โปรดเกล้าฯ เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 'จุฑาทิพย์ วิลาด' ชี้มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
ศึก‘ไอซ์vsไผ่’บาน ขุดคดีรถหรู-จี้ ปปช. สอบซุกหนี้
ตกใจกันทั้งฮอลล์ 'มิสยูนิเวิร์สจาไมกา'ร่วงตกเวทีขณะเดินรอบชุดราตรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี