บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมจากข้อมูลของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ยอดยื่นขอสิทธิประโยชน์การลงทุนช่วงสามเดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 77% YoY เป็น 1.85 แสนล้านบาท เพราะสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น, กลับมาเปิดประเทศ และ มีการย้ายฐานการผลิตจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะเดียวกัน ยอดอนุมัติสิทธิประโยชน์ BOI พุ่งสูงขึ้นถึง 171% YoY เป็น 2.40 แสนล้านบาทเมื่อแยกตามทำเลที่ตั้ง พบว่า อุปสงค์การลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ยังแข็งแกร่งและคิดเป็น 54% ของยอดขอ BOIและ 62% ของยอดอนุมัติ BOI กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังคงเป็นกลุ่มหลัก คิดเป็นประมาณ 50% ของยอดขอ และ 30% ของยอดอนุมัติ
อุปสงค์การลงทุนจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ฟื้นตัวขึ้น ช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ยอดขอ BOI ของ FDI เพิ่ม 115%
YoY เป็น 1.55 แสนล้านบาท ขณะที่ยอดอนุมัติ BOI อยู่ที่ 1.75แสนล้านบาท (+151% YoY) อุปสงค์การลงทุนจากจีนและญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่ง การลงทุนจากสองประเทศนี้ยังอยู่ในห้าอันดับแรกของทั้งยอดขอ และยอดอนุมัติ เมื่อแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังมีสัดส่วนสูงสุดที่ 60% ของยอดขอ BOI ของ FDIและ 43% ของยอดอนุมัติ BOI ของ FDI
ยอดขายที่ดินของ Amata Corporation (AMATA) และ WHA Corporation (WHA) ทยอยขยับเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ 2H65 ยอดขายที่ดินของ AMATA ใน 2H65 เพิ่มเป็น 520 ไร่ (จาก 170 ไร่ ใน 1H65)ขณะที่ยอดขายที่ดินของ WHA ใน 2H65 เพิ่มเป็น 1,400 ไร่ (จาก 500 ไร่ใน 1H65) เราคาดว่าอุปสงค์ที่ดินในนิคมอุตฯน่าจะใช้ได้ในปีนี้จากการฟื้นตัวของอุปสงค์การลงทุนคาดว่าทั้ง AMATA และ WHA จะจับอุปสงค์การลงทุนได้จากพอร์ตลูกค้าที่แข็งแกร่ง ลูกค้าจีนคิดเป็นประมาณ 35% ของลูกค้า AMATA และ 30% ของลูกค้า WHA ขณะที่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เฉลี่ยประมาณ 10% ของลูกค้าทั้งสองบริษัท เราได้ใส่อุปสงค์ดังกล่าวเข้าไว้ในสมมุติฐานของเราเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่ายอดขายที่ดินในปี 2566F ของ AMATA จะอยู่ที่ 1,000 ไร่ (บริษัทตั้งเป้าไว้สูงถึง 2,250 ไร่) และ WHA จะอยู่ที่ 2,050 ไร่ (บริษัทตั้งเป้าเอาไว้เพียง 1,750 ไร่)
ราคาหุ้นทั้ง AMATA และ WHA วิ่งขึ้นมาแล้วถึง 30% และ 35% ตามลำดับ จากต้นปี 2564 (หลังจากที่ยอดขายที่ดินผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วที่ 212 ไร่ ในกรณีของ AMATA และ 510 ไร่ ในกรณีของ WHAยอดขายที่ดินที่ต่ำมากในปี 2563 เป็นเพราะมีการ Lockdown ในช่วงที่ COVID-19 ระบาด เราคิดว่าเป็นความท้าทายที่จะทำสถิติยอดขายที่ดินใหม่อีกจากปี 2567F เพราะลูกค้าต้องพิจารณาแผนการขยายธุรกิจ(อย่างน้อย 3-5 ปี) สำหรับการลงทุนซื้อที่ดินครั้งแรก หมายความว่าอุปสงค์ที่ดินขนาดใหญ่ในนิคมอุตฯอาจจะลดลงในปีต่อๆ ไป ดังนั้น ภาวะบวกที่จะขับเคลื่อนราคาหุ้นจึงอาจจะถูกกดโดยยอดขายที่ดิน
เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ เท่ากับตลาด และคงคำแนะนำหุ้น AMATA (ถือ ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท) และ WHA (ถือ ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท)
ปัจจัยความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical risk), เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ภัยธรรมชาติ, การซื้อที่ดิน, การกระจุกตัวของกลุ่มอุตสาหกรรม, เงินทุนไม่เพียงพอ
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี