วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / หมุนตามทุน
หมุนตามทุน

หมุนตามทุน

วันพุธ ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
เศรษฐกิจครึ่งหลังโตชะลอลง ภาคการผลิตน่าห่วงกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแรง

ดูทั้งหมด

  •  

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ระบุว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณชะลอลงตามคาด ภาพรวมกิจกรรมเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วชะลอตัวทั้งภาคบริการและภาคการผลิต ขณะที่กิจกรรมเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาชะลอตัวจากภาคบริการเป็นหลัก ขณะที่ภาคการผลิตเร่งตัวขึ้นเล็กน้อย ในปีนี้การเลือกตั้งทั่วโลกยังเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตา ผลการเลือกตั้งในสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มจะทำให้นโยบายเศรษฐกิจเปลี่ยนจากเดิม โดยพรรคแรงงานที่ชนะการเลือกตั้งอาจเน้นการใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้น เปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว เก็บภาษีผู้มีรายได้สูงเพิ่ม และหันมาฟื้นฟูการค้ากับสหภาพยุโรปมากขึ้น ขณะที่ผลการเลือกตั้งในฝรั่งเศสจะทำให้ความไม่แน่นอนทางการเมืองสูงขึ้นและความพยายามปฏิรูปเศรษฐกิจที่ดำเนินมาอาจทำได้ไม่ต่อเนื่อง เพราะไม่มีกลุ่มการเมืองใดได้ที่นั่งเบ็ดเสร็จ และแต่ละกลุ่มมีทิศทางนโยบายต่างกันมาก ในระยะข้างหน้าการเลือกตั้งในสหรัฐฯ จะเป็นประเด็นสำคัญต่อเศรษฐกิจและการค้าโลก

ทั้งนี้นโยบายการเงินโลกจะลดความตึงตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง โดย SCB EIC ประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน ก.ย. และ ธ.ค. รวม 50 BPS จากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับชะลอลงและการสื่อสาร Dovish มากขึ้นของ FOMC ธนาคารกลางยุโรป (ECB)จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้ง รวม 50 BPS ในเดือน ก.ย. และ ธ.ค. หลังจากปรับลดครั้งแรกในไตรมาส 2 ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในช่วงครึ่งหลังของปีหลังจากปรับขึ้นครั้งแรกในไตรมาส 1 สำหรับในระยะข้างหน้าการทยอยลดความผ่อนคลายของนโยบายการเงินญี่ปุ่นจะเป็นไปอย่างระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับแย่ลงและเงินเฟ้อจะชะลอลงตามราคาสินค้านำเข้าและค่าจ้าง


สำหรับเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าตามที่ประเมินไว้ ซึ่ง SCB EIC ยังคงมุมมองการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2567 ที่ 2.5%ในครึ่งหลังของปีมีแรงส่งหลักจากภาคบริการตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มเร่งตัวขึ้นจากครึ่งปีแรก ด้วยปัจจัยสนับสนุนทั้งมาตรการวีซ่าใหม่การขยายเที่ยวบิน และการจัดงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ รวมถึงภาคส่งออกที่เริ่มกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น มองไปข้างหน้าปัจจัยกดดันเศรษฐกิจที่สำคัญยังคงมาจากภาคการผลิตที่ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนนัก สะท้อนจากความเชื่อมั่นผู้ประกอบการตลาดในประเทศที่ลดลงต่อเนื่อง อีกทั้ง สินค้าคงคลังยังอยู่ในระดับสูงและมีแรงกดดันจากอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบชัดเจนและมีแนวโน้มหดตัวในปีนี้แบบ Broad-based โดยยอดการผลิตถูกฉุดรั้งจากอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซาและคาดว่าในปี 2567 จะหดตัวต่ำสุดในรอบ 14 ปี ประกอบกับแนวโน้มการบริโภคสินค้าคงทนแผ่วลง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงต่อเนื่องตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นช้าและราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นนอกจากนั้น การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐเริ่มชะลอตัวลง SCB EIC ประเมินว่าการเร่งเบิกจ่ายในช่วงที่เหลือของปีนี้จะไม่สามารถชดเชยการหดตัวรุนแรงในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่ง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ประกาศใช้ล่าช้าได้

ในด้านเงินเฟ้อ SCB EIC ประเมินเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยเร่งตัวกลับสู่เป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% ได้ในช่วงสิ้นปีตามการเร่งตัวของราคาพลังงานจาก(1) ค่าไฟฟ้าในช่วง ก.ย.-ธ.ค. 2567 ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเป็น 4.65 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นผลจากราคาก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มสูงขึ้นช่วงปลายปี รวมถึง (2) ราคาน้ำมันในประเทศที่มีแนวโน้มเร่งตัวตามนโยบายช่วยเหลือที่จะทยอยหมดไป

SCB EIC ประเมินว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1 ครั้งปลายปีนี้เหลือ 2.25% และปรับลดอีกครั้งเหลือ 2% ในช่วงต้นปีหน้า ตามความเปราะบางของเศรษฐกิจไทยที่จะเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้าจากภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้แรงส่งอุปสงค์ในประเทศแผ่วลง ประกอบกับความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยที่จะปรับเพิ่มขึ้นในปีหน้านอกจากนี้ ต้นทุนการปรับลดดอกเบี้ยจะปรับลดลงจากภาคการเงินที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้การลดดอกเบี้ยจะไม่กระตุ้นการก่อหนี้ใหม่ สำหรับเงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็ว หลังตัวเลขตลาดแรงงานและเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าคาด ทำให้ประเมินว่าในระยะสั้นเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นในกรอบ 35.70-36.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในระยะต่อไปเงินบาทจะแข็งค่าต่อได้ไม่มาก แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากยังมีแรงกดดันจากปัจจัยทางการเมือง ทั้งการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และการเมืองไทย ณ สิ้นปีนี้จึงมองว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นที่ราว 35.00-36.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC)

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:13 น. ‘ผกก.สส.สระบุรี’สนองนโยบายผบช.ภ.1-ผู้การสระบุรี รับเหรียญเกียรติคุณ ป.ป.ส.จากผลงานปราบยานรก
21:11 น. พัฒนาผู้ตัดสิน! BYDเปิดโครงการ B License
21:06 น. เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?
21:04 น. ‘เจ้าบังเกอร์’ลูกวัวน้อยขี้เล่น ความน่ารักบนความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา
21:01 น. 'ขี่ม้าโปโลไทย'พร้อม! ตั้งเป้าคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
ยูเนสโกประกาศยกย่อง 'ในหลวงรัชกาลที่ 9' และ 'สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ'
เบื้องหลังฉลองพระองค์ 'สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี'
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
ดูทั้งหมด
เสียงร้องไห้ไม่เคยดังกว่าเสียงปืน
ไทย-จีน‘ดุจครอบครัวเดียวกัน’
คุยกันแบบนักเลง
สงครามสี
อสส. อุทธรณ์คดี 112 ‘ทักษิณ’ ต้องสู้ให้สมศักดิ์ศรี
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

พัฒนาผู้ตัดสิน! BYDเปิดโครงการ B License

เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?

'ขี่ม้าโปโลไทย'พร้อม! ตั้งเป้าคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์

แฟนคลับส่งกำลังใจ! 'เก้า สุภัสสรา'เผยป่วยเนื้องอกในมดลูก เมนส์มาไม่หยุดจนเป็นลม

เน้นเกมรุก! 'ฮัดสัน'ปลื้มช้างศึกระเบิดฟอร์ม

สาววัยโฟร์ตี้หลอนยา เสพทีเดียว 4 เม็ดเห็นภาพคนจะทำร้าย ทุบข้าวของบ้านอดีตพ่อปู่ยับ

  • Breaking News
  • ‘ผกก.สส.สระบุรี’สนองนโยบายผบช.ภ.1-ผู้การสระบุรี รับเหรียญเกียรติคุณ ป.ป.ส.จากผลงานปราบยานรก ‘ผกก.สส.สระบุรี’สนองนโยบายผบช.ภ.1-ผู้การสระบุรี รับเหรียญเกียรติคุณ ป.ป.ส.จากผลงานปราบยานรก
  • พัฒนาผู้ตัดสิน! BYDเปิดโครงการ B License พัฒนาผู้ตัดสิน! BYDเปิดโครงการ B License
  • เรื่องชวนคิด!!! เลือก\'ปธ.กกต.คนใหม่\'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่? เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?
  • ‘เจ้าบังเกอร์’ลูกวัวน้อยขี้เล่น ความน่ารักบนความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ‘เจ้าบังเกอร์’ลูกวัวน้อยขี้เล่น ความน่ารักบนความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา
  • \'ขี่ม้าโปโลไทย\'พร้อม!  ตั้งเป้าคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ 'ขี่ม้าโปโลไทย'พร้อม! ตั้งเป้าคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หมุนตามทุน : วัสดุก่อนสร้าง-ค่าแรงพุ่ง ดันดัชนีราคาก่อสร้างQ3เพิ่มขึ้น

หมุนตามทุน : วัสดุก่อนสร้าง-ค่าแรงพุ่ง ดันดัชนีราคาก่อสร้างQ3เพิ่มขึ้น

12 พ.ย. 2568

หมุนตามทุน : สมาคมการค้าเหล็กทรงยาวมาตรฐาน…วอนรัฐคุมเข้มมาตรฐาน มอก

หมุนตามทุน : สมาคมการค้าเหล็กทรงยาวมาตรฐาน…วอนรัฐคุมเข้มมาตรฐาน มอก

5 พ.ย. 2568

หมุนตามทุน : อะไรที่ไทยควรทำกับเรื่อง “เหมือง Rare Earths”

หมุนตามทุน : อะไรที่ไทยควรทำกับเรื่อง “เหมือง Rare Earths”

29 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ราคาทองคำยังไปต่อ...แต่นักลงทุนต้องระวังจังหวะย่อตัว

หมุนตามทุน : ราคาทองคำยังไปต่อ...แต่นักลงทุนต้องระวังจังหวะย่อตัว

22 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ภาษีเหล็ก 50% ของสหรัฐฯ...กระทบไทยหนัก

หมุนตามทุน : ภาษีเหล็ก 50% ของสหรัฐฯ...กระทบไทยหนัก

15 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ยังพอลงทุนได้อีกหรือเปล่า???

หมุนตามทุน : ยังพอลงทุนได้อีกหรือเปล่า???

8 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : จับตา...อนาคตอุตสาหกรรมไทย

หมุนตามทุน : จับตา...อนาคตอุตสาหกรรมไทย

1 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : สแกน 3 ผู้ท้าชิงเก้าอี้ ‘ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.’

หมุนตามทุน : สแกน 3 ผู้ท้าชิงเก้าอี้ ‘ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.’

24 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved