วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
คำว่า “ศูนย์เหรียญ“ เป็นคำเกิดขึ้นใหม่ในสังคมไทยเมื่อประมาณ 10 ปีเศษที่ผ่านมาในระยะแรก จะใช้กับคำว่า “ทัวร์“ ซึ่งหมายถึงการท่องเที่ยว และนำ 2 คำนี้มารวมใช้กัน เป็น “ทัวร์ศูนย์เหรียญ”
คำว่า “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ที่ใช้และกล่าวถึงในสังคมขณะนี้ หมายถึง การท่องเที่ยวหรือทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ซึ่งมักจะมาจากประเทศจีน เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และเรียกค่าบริการในราคาที่ถูกมากเกินความเป็นจริง จนไม่น่าจะเป็นไปได้ ผู้จัดท่องเที่ยวจะใช้บริการจากผู้ให้บริการในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น รถนำเที่ยว ร้านอาหาร จากเครือข่ายคนชาติเดียวกัน นักท่องเที่ยวจะถูกผู้จัด ชักจูงให้ซื้อสินค้า หรือบริการเพิ่มเติม ในราคาที่สูง หากนักท่องเที่ยวไม่ยอมจ่ายเงินเพิ่ม อาจถูกทิ้งหรือถูกลอยแพ ในระหว่างการท่องเที่ยว ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง
ตามความเป็นจริง ประเทศไทยแทบจะไม่ได้รับประโยชน์จากทัวร์ศูนย์เหรียญ เพราะรายได้ที่เกิดขึ้นแทบไม่ได้ตกสู่มือคนไทย แต่ตกสู่มือเจ้าของกิจการที่เป็นคนต่างชาติ เชื้อชาติเดียวกับเจ้าของทัวร์ศูนย์เหรียญ
ในอดีตได้เคยมีการดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการทัวร์ศูนย์เหรียญในประเทศไทย ในข้อหาหลอกลวงและฉ้อโกง แต่ศาลได้ยกฟ้องคดีเกือบทั้งหมด เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการนำสืบพยานหลักฐานที่สำคัญในคดี
ปัจจุบันได้มีคำใหม่เกิดขึ้นว่า “ขนส่งศูนย์เหรียญ“ ซึ่งหมายถึง กิจการขนส่งสินค้าทางบก หรือทางถนน โดยรถขนส่งสินค้าจากต่างประเทศ ที่แล่นผ่านประเทศไทยด้วยการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายไทย โดยใช้ประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่านในการขนส่งไปประเทศอื่น ซึ่งผู้ประกอบการค้า และผู้ประกอบกิจการขนส่ง แทบไม่ได้ใช้จ่ายในประเทศไทย และผู้ประกอบการคนไทยแทบไม่ได้ประโยชน์ใดๆ จากธุรกิจขนส่งศูนย์เหรียญ
กิจการขนส่งศูนย์เหรียญ เริ่มขยายตัวอย่างเงียบๆ ในประเทศไทย แต่ขยายตัวอย่างรวดเร็วมาก เพราะปัจจุบันมีการขนส่งโดยรถไฟความเร็วสูงของประเทศจีนที่ผ่านยังประเทศต่างๆในทวีปเอเชียนี้ ขนส่งศูนย์เหรียญ จึงตอบโจทย์ในเรื่องนี้
ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ ขนส่งศูนย์เหรียญในประเทศไทย คือ เจ้าหน้าที่ของไทยที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการขนส่ง เจ้าหน้าที่ศุลกากร ไม่สามารถตรวจค้นว่า มีการขนส่งถูกต้องตามกฎหมายได้อย่างทั่วถึง เพราะกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ และ อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ เช่น เครื่องเอกซเรย์สำหรับตรวจรถขนส่งขนาดใหญ่มีจำนวนไม่เพียงพอเช่นกัน ประกอบกับรถขนส่งศูนย์เหรียญ ที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านมีจำนวนมากเกินไป เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถทำได้ด้วยการ สุ่มตรวจ ซึ่งมักไม่เจอสิ่งที่ผิดกฎหมาย
เมื่อรถขนส่งศูนย์เหรียญ แล่นผ่านประเทศไทยมากเกินไป ย่อมทำให้สภาพถนนที่ใช้ในการขนส่ง ชำรุดทรุดโทรมโดยสภาพ ประเทศไทยต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อซ่อมแซมถนนหนทางเหล่านั้น ในขณะที่ประเทศไทยแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรจากกิจการขนส่งศูนย์เหรียญ
ในประเทศไทย
สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงคือ ผู้ประกอบกิจการขนส่งทางบกจากประเทศไทย เมื่อนำรถขนส่งจากประเทศไทยแล่นผ่านเข้าไปในดินแดนของประเทศอื่น ได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมเหมือนอย่างที่ขนส่งศูนย์เหรียญ ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านหรือไม่?
รถขนส่งสินค้าจากประเทศไทย มีสิทธิ์เข้าไปในดินแดน ของประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านที่อยู่ในกลุ่มอาเซียน เพียง 2 กิโลเมตรจากชายแดนประเทศไทยเท่านั้น
รถขนส่งสินค้าจากประเทศไทย ที่จะขนส่งสินค้าเข้าไปในประเทศจีน สามารถขนส่งสินค้าไปได้เพียงแค่ ท่านาแร้ง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเป็นพรมแดนเชื่อมต่อกับประเทศจีนเท่านั้น ไม่สามารถแล่นเข้าไปในประเทศจีนได้
ปัญหาที่เกิดขึ้นนับวัน จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และวันหนึ่งอาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพ เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง และบูรณาการ
ประเทศไทยเคยชิน กับการเป็น ม้าอารี และ เตี้ยอุ้มค่อม จนไม่คิดจะวางแผนแก้ไขปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น

'ราชภัฏบุรีรัมย์'แปรอักษร น้อมรำลึก'สมเด็จพระพันปีหลวง'
พิษน้ำท่วม! 'ผักชี'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม
รัฐบาลไทยย้ำข้อเท็จจริงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เดินหน้าชี้แจงนานาชาติต่อเนื่อง
เจ้าพระยาล้น ‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม ‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม
'ธัญญ่า อาร์สยาม'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ'หมอนรองกระดูกฉีกขาด'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี