วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / หมุนตามทุน
หมุนตามทุน

หมุนตามทุน

วันพุธ ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
ส่องเศรษฐกิจโลก 2025 : ความท้าทายที่ SME ไทยต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจ

ดูทั้งหมด

  •  

ll ปี 2025 การค้าโลกและเศรษฐกิจไทยมีทั้งความท้าทายและโอกาส 3 ภาพใหญ่เศรษฐกิจโลกปี 2025 1.Steady but Slow เศรษฐกิจในประเทศพัฒนาที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ เช่น สหรัฐฯ ยุโรปและญี่ปุ่น มีแนวโน้มเติบโตช้าลงในขณะที่กลุ่มตลาดเกิดใหม่ เช่น ประเทศในกลุ่มอาเซียนยังเห็นศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ 2.New Easing Cycle เงินเฟ้อทั่วโลกทยอยปรับตัวลง กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลก เริ่มเข้าสู่วัฏจักรการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ไปเมื่อเดือนกันยายน ส่งสัญญาณการปรับลดต้นทุนทางการเงิน และคาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะยังมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2025 3.Geopolitical Risks นโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศที่ต่างกันระหว่างผู้สมัครเลือกตั้งสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกที่ต่างกันไป รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางยังจะยืดเยื้อ
ต่อไป

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2025 คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวหลังจากได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดของวิกฤตต่างๆ ไปแล้ว แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ โดยวิเคราะห์ในแต่ละภาคส่วน ดังนี้ 1.ภาคการบริโภคในประเทศ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 60% ของจีดีพี ยังเห็นโมเมนตัมการเติบโต อย่างไรก็ตามสิ่งที่อาจต้องพิจารณาเพิ่มคือ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง อาจลดทอนการบริโภคกลุ่มสินค้าคงทน 2.ภาคการท่องเที่ยว คิดเป็นสัดส่วนถึง 12% ของจีดีพี ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าจะถึง 35 ล้านคนในปีนี้ และมีแนวโน้มที่จะเป็น 38 ล้านคนได้ในปี 2025 แต่ประเด็นที่น่าติดตามคือ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาเที่ยวไทยมีเพียง 60% เมื่อเทียบกับก่อนช่วงโควิด-19 ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่นับชาวจีนมีจำนวนใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 3.ภาคการส่งออก ฟื้นตัวค่อนข้างดี ภาคการส่งออกยังเป็นตัวจักรสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างน้อย 2-3% 4.ภาคการผลิต ยังเห็นการเติบโตในกลุ่มสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ ในขณะที่กลุ่มสินค้าคงทน เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เริ่มเห็นสัญญาณการหดตัว 5.ภาคการลงทุน แม้ทุกวันนี้ต่างชาติจะหันไปลงทุนที่เวียดนามกันค่อนข้างมาก แต่การลงทุนในประเทศไทยก็ยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี โดยเติบโตประมาณ 30% เมื่อเทียบกับปี 2023 โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โรงงานผลิต Data Center และ PCBs


สภาพแวดล้อมทางการค้าระหว่างประเทศในปี 2025 อาจถูกแบ่งเป็นสองขั้วชัดเจนมากขึ้น จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เหมือนจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกรณีที่ผู้สมัครจากรีพับลิกันเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง กำแพงภาษีสินค้าจากจีนอาจถูกขยับเป็น 60% หรือ 4 เท่าจากของเดิม

Dual Globalization หรือโลกที่แบ่งเป็นสองขั้วจากภูมิศาสตร์เศรษฐกิจใหม่ การขยายตลาดและการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในตลาดใหม่ๆ โดยฝั่งยุทธศาสตร์สหรัฐฯ อาจมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับ อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เข้ามาในห่วงโซ่สหรัฐฯส่วนยุทธศาสตร์จีน มุ่งเน้นขยับขยายพื้นที่ไปยังประเทศกําลังพัฒนาอย่างแอฟริกา ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันได้ขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของจีนแทนสหรัฐอเมริกาแล้ว ส่งผลให้บทบาทของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีความสำคัญและน่าสนใจมากขึ้น จากการเป็นพื้นที่ในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกในยุคถัดไป

ปัจจุบันเศรษฐกิจจีนได้รับแรงกดดันโดยเฉพาะจากภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้การจับจ่ายในจีนชะลอตัว ผู้คนเริ่มมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจลดลง รัฐบาลจีนจึงออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ด้วย 3 มาตรการคือเพิ่มสภาพคล่องในระบบและปล่อยสินเชื่อกระตุ้นการลงทุน ผ่อนคลายเพื่อเพิ่มกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ปัจจุบันแรงซื้อมีการชะลอตัวลงอย่างมาก และส่งสัญญาณฟื้นตลาดหุ้นจีนที่อยู่ในจุดตกต่ำที่สุดให้ทะยานขึ้นมา อย่างไรก็ตามรัฐบาลจีนยังเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ และพยายามมุ่งเน้นในอุตสาหกรรมใหม่สามประการ (เทคโนโลยี-พลังงาน-โมเดล) คือ พลังงานสะอาดโดยเฉพาะกลุ่มลิเธียม-ไอออนแบตเตอรี่ โซลาร์เซลล์ เทคโนโลยีขั้นสูง AI นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ โมเดลธุรกิจแบบยั่งยืน มาเป็นเครื่องมือใหม่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่แม้ในปัจจุบันยังคงมีสัดส่วนราว 8% ของจีดีพีจีน แต่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จากการที่จีนมีแนวโน้มลดการอัดฉีดฝั่งอุปทานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีสัดส่วนใหญ่ถึง 30% ส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจจีนในระยะถัดไปอาจขยายตัวได้ราว 3-5% และไม่ได้เติบโตสูงอย่างที่เป็นมาในทศวรรษก่อน

ปี 2025 จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ธุรกิจไทยจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก แต่ขณะเดียวกันก็มีโอกาสใหม่ๆ ที่รอให้เข้าไปคว้า ไม่ว่าจะเป็นการขยายตลาด หรือการปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก สำหรับ SME ต้องคำนึงถึงกลยุทธ์ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมการค้าโลกที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากแนวโน้มที่สำคัญ ดังนี้ 1.การค้าโลกมุ่งหน้าสู่เอเชีย การค้าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงจากประเทศที่พัฒนาแล้วไปยังตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งมีโอกาสในการเติบโตมากขึ้น SME ควรหันมามองหาการค้ากับประเทศในเอเชียเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสใหม่ๆ 2.ปรับตัวให้ทันต่อการแยกตัวของห่วงโซ่อุปทาน การเกิดสงครามการค้าและมาตรการกีดกันทางการค้า
ทำให้ผู้ประกอบการ SME จำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพสูงขึ้นและมีมาตรฐานที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด เช่น การใช้แนวคิด Go Green & ESG ในการผลิตและการตลาด 3.มาตรฐาน ESG ที่เพิ่มขึ้น การใช้มาตรฐาน ESG จะกลายเป็นเรื่องสำคัญในธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้มาตรการทางการค้าจากประเทศตะวันตก SME ต้องเตรียมความพร้อมในการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับมาตรฐานเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการเข้าถึงตลาดโลก 4.กลยุทธ์การบุกตลาด โดยตลาดสหรัฐฯ และยุโรป หาช่องทางใหม่ในการส่งออก โดยเฉพาะจากสินค้าที่มีคุณภาพและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ตลาดจีน ใช้โอกาสจากช่องทางแพลตฟอร์มจีนที่ธุรกิจไทยเข้าถึงได้ในการรุกตลาดจีนที่มีประชากรจำนวนมาก พัฒนาสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน ตลาดอาเซียน ใช้ยุทธศาสตร์ที่ตั้งของไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ตลาดใหม่ในเอเชียและอื่นๆ ค้นหาโอกาสในตลาดที่กำลังเติบโต เช่น อินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การสร้างความยืดหยุ่น เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้า

ดังนั้นการปรับตัวและมีความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจจะเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จในเศรษฐกิจปี 2025 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ รออยู่ SME ไทยต้องไม่หยุดนิ่ง เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

finbiz by

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
11:05 น. อ่างทองวิกฤตหนัก! คันดินแตกน้ำเจ้าพระยาพุ่งท่วมตำบลป่าโมก กว่า 100 ครัวเรือนเดือดร้อน
11:04 น. คันดินแตก!!! น้ำเจ้าพระยาทะลักไหลท่วมกลางดึก ชาวบ้านป่าโมกอ่วม
11:04 น. 'สิงคโปร์' ตั้งชื่อกล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่ เป็นเกียรติแก่ 'นายกฯ-ภริยา'
10:55 น. ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568
10:53 น. จับตา! 'กมธ.แก้รธน.' จ่อดีเบต ก่อนโหวต เลือกองค์กรจัดทำรธน.ใหม่
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 2-8 พ.ย.68
โป๊ะแตก!!! 'นักเขียนดัง' แฉเบื้องหลัง 'นิสิตจุฬาฯ' ชูป้ายด่า'อภิสิทธิ์'
ขอบคุณ'คุณจ๋า'! ภรรยานายกฯอนุทิน เลือกใช้ 'กระเป๋า' ฝีมือคนไทยสู่สายตานานาชาติ
'โบว์ ณัฏฐา'โพสต์'อภิสิทธิ์'ตอบชัดทุกปม ซัดนิสิตจุฬาฯการรับฟังแย่มาก
ปลดฟ้าผ่า! มิสแกรนด์ราชบุรี-หนองคาย 2026 พร้อมเผยสาเหตุ
ดูทั้งหมด
MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย-สหรัฐ ที่ล่องหน
วิชามารทางการเมือง
ต่ออายุให้ไทยเป็นเจ้าภาพ โมโต จีพี คุ้มหรือไม่? พิจารณายังไง?
บุคคลแนวหน้า : 7 พฤศจิกายน 2568
การเมืองของชีวิตประจำวัน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'สิงคโปร์' ตั้งชื่อกล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่ เป็นเกียรติแก่ 'นายกฯ-ภริยา'

คันดินแตก!!! น้ำเจ้าพระยาทะลักไหลท่วมกลางดึก ชาวบ้านป่าโมกอ่วม

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568

จับตา! 'กมธ.แก้รธน.' จ่อดีเบต ก่อนโหวต เลือกองค์กรจัดทำรธน.ใหม่

สิ้นสุดยุคแบน! สหรัฐฯยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้กัมพูชา เริ่มมีผลบังคับใช้ทันที

'อนุสรณ์' ซัด 'อนุทิน' หากยุบสภาหนีซักฟอก เท่ากับฉีก MOA จี้'ฝ่ายค้ำ'ต้องรับผิดชอบ

  • Breaking News
  • อ่างทองวิกฤตหนัก! คันดินแตกน้ำเจ้าพระยาพุ่งท่วมตำบลป่าโมก กว่า 100 ครัวเรือนเดือดร้อน อ่างทองวิกฤตหนัก! คันดินแตกน้ำเจ้าพระยาพุ่งท่วมตำบลป่าโมก กว่า 100 ครัวเรือนเดือดร้อน
  • คันดินแตก!!! น้ำเจ้าพระยาทะลักไหลท่วมกลางดึก ชาวบ้านป่าโมกอ่วม คันดินแตก!!! น้ำเจ้าพระยาทะลักไหลท่วมกลางดึก ชาวบ้านป่าโมกอ่วม
  • \'สิงคโปร์\' ตั้งชื่อกล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่ เป็นเกียรติแก่ \'นายกฯ-ภริยา\' 'สิงคโปร์' ตั้งชื่อกล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่ เป็นเกียรติแก่ 'นายกฯ-ภริยา'
  • ยิปซีพยากรณ์\'ดวงรายวัน\'ประจำวันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568
  • จับตา! \'กมธ.แก้รธน.\' จ่อดีเบต ก่อนโหวต เลือกองค์กรจัดทำรธน.ใหม่ จับตา! 'กมธ.แก้รธน.' จ่อดีเบต ก่อนโหวต เลือกองค์กรจัดทำรธน.ใหม่
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หมุนตามทุน : สมาคมการค้าเหล็กทรงยาวมาตรฐาน…วอนรัฐคุมเข้มมาตรฐาน มอก

หมุนตามทุน : สมาคมการค้าเหล็กทรงยาวมาตรฐาน…วอนรัฐคุมเข้มมาตรฐาน มอก

5 พ.ย. 2568

หมุนตามทุน : อะไรที่ไทยควรทำกับเรื่อง “เหมือง Rare Earths”

หมุนตามทุน : อะไรที่ไทยควรทำกับเรื่อง “เหมือง Rare Earths”

29 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ราคาทองคำยังไปต่อ...แต่นักลงทุนต้องระวังจังหวะย่อตัว

หมุนตามทุน : ราคาทองคำยังไปต่อ...แต่นักลงทุนต้องระวังจังหวะย่อตัว

22 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ภาษีเหล็ก 50% ของสหรัฐฯ...กระทบไทยหนัก

หมุนตามทุน : ภาษีเหล็ก 50% ของสหรัฐฯ...กระทบไทยหนัก

15 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ยังพอลงทุนได้อีกหรือเปล่า???

หมุนตามทุน : ยังพอลงทุนได้อีกหรือเปล่า???

8 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : จับตา...อนาคตอุตสาหกรรมไทย

หมุนตามทุน : จับตา...อนาคตอุตสาหกรรมไทย

1 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : สแกน 3 ผู้ท้าชิงเก้าอี้ ‘ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.’

หมุนตามทุน : สแกน 3 ผู้ท้าชิงเก้าอี้ ‘ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.’

24 ก.ย. 2568

หมุนตามทุน : เครือซีพีผนึกกำลัง..สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

หมุนตามทุน : เครือซีพีผนึกกำลัง..สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

17 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved