ภาพ มีรัติ รัตติสุวรรณ
ตลาดเก่าของแท้ไม่ได้เสแสร้งทำเป็นเก่า
ตลาดบ้านใหม่ หรือตลาดร้อยปีบ้านใหม่ แห่งเมืองฉะเชิงเทรานี้ ตั้งอยู่ตลอดสองฝั่งริมแม่น้ำบางปะกง จากอดีตจนถึงปัจจุบันตลาดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า ๑๐๐ ปี เรียกได้ว่าตั้งแต่รุ่นอากงอาม่า หรือตั้งแต่สมัยคุณตาคุณยายยังสาว ในอดีตเป็นชุมชนชาวไทย-จีน อาศัยต่างอยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน
ตลาดบ้านใหม่มีวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตมายาวนาน เมื่อครั้งก่อนที่นี่เป็นแหล่งชุมชนที่มีการค้าขายทางน้ำอย่างคึกคัก แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป ความสำคัญของที่นี่กลับลดลง เพราะเมื่อถนนตัดผ่าน ผู้คนเริ่มใช้เส้นทางคมนาคมทางบกมากขึ้น การคมนาคมทางเรือจึงได้เงียบเหงาบางตา ประจวบเหมาะกับคนรุ่นใหม่ได้มีการเข้าไปศึกษาทำงานกันที่กรุงเทพฯมากขึ้น จึงทำให้ตลาดที่เคยคึกคักค่อนข้างเงียบเหงา
ชาวบ้านในชุมชนตลาดบ้านใหม่ส่วนหนึ่ง มีความคิดที่จะพัฒนาตลาดบ้านใหม่ให้ย้อนกลับไปคึกคักดังเดิม จึงได้รวมตัวกันจัดตลาดในรูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งในเริ่มแรกยังไม่มีคนเข้าร่วมมากนัก เพราะยังไม่เห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
จนเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกำลังเป็นที่นิยมของคนเมือง ที่นิยมมาเที่ยวดูสภาพบ้านเรือนเก่า ดูความเป็นอยู่ หรือร่องรอยประวัติศาสตร์ในอดีต จึงทำให้ตลาดบ้านใหม่ฟื้นชีวิตคึกคักเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปอีกครั้งหนึ่ง
เรือนแถวไม้ที่คงสภาพโบราณ
ตลาดบ้านใหม่ร้อยปี ประกอบด้วย 2 ชุมชนคือ ชุมชนตลาดบ้านใหม่ และชุมชนตลาดบน คั่นกันแค่สะพานข้ามแม่น้ำเท่านั้น แต่คนโดยส่วนมากจะเข้าใจว่า มีเพียงตลาดบ้านใหม่แห่งเดียว
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับตลาดบ้านใหม่คือ การดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมๆ บ้านเรือนเป็นห้องแถวไม้แบบเก่า แม้บางบ้านจะปรับเปลี่ยนรูปแบบไปบ้าง แต่โดยรวมของสถานที่นี่ก็ยังดูเหมือนตลาดในอดีตที่ไม่เสแสร้ง เหมือนบางตลาดเก่าที่พยายามแปลงตนให้ดูเหมือนเก่า
ชีวิตในวันทำงานค่อนข้างเงียบเหงา
ในวันธรรมดาวิถีชีวิตตลาดค่อนข้างจะเงียบ จะมีความคึกคักเฉพาะช่วงวันศุกร์เสาร์หรือวันหยุดราชการ ตลาดจะเปลี่ยนโฉมฟื้นชีวิตชีวาโดยผู้คนนักท่องเที่ยวที่แห่กันมาชมตลาดจนวุ่นวายหนาแน่น อีกทั้งร้านรวงต่างๆ ที่ขายของฝากที่ระลึก แผงขนมของกินซึ่งไม่ได้ขายในวันปรกติ ต่างแข่งกันเปิดเหมือนตลาดได้ฟื้นชีวิตใหม่
ร้านสามแม่ครัว(เตาฟืน)
เป็นแผงอาหารเก่าแก่ของตลาดบ้านใหม่ ร้านสามแม่ครัวทั้งสามคนอายุรวมกันเกือบสองร้อยกว่าปีพอกับอายุกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะแต่ละคนอายุร่วม 80 ปี แค่เห็นสภาพร้านและ สภาพของแม่ครัวก็จะรู้ว่าเก๋าแค่ไหน แต่สุขภาพยังแข็งแรงคล่องแคล่วช่วยกันทำอาหารบริการลูกค้าช่วยกันคนละไม้คนละมือ ในครัวยังใช้เตาฟืนไฟลุกควันโขมง คราบควันดำที่เกาะหลังเตาไฟ เหมือนร้านอาหารแบบเก่าแก่ประเภทไทย-จีน รสที่รุ่นคุณปู่กินกัน ซึ่งแทบไม่ค่อยได้พบในปัจจุบัน
สามแรงแข็งขัน
ต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือเหมือนอายุสัก 40-50 ปี อาหารที่สั่งได้รวดเร็วไม่ชักช้าคล่องแคล่วประสาคนยังไม่ยอมแก่เฒ่า
ครัวเตาถ่านที่มีคราบควันไฟดำแต่ดูสะอาด
ป้ายเก่าคร่ำ
ประกาศการควบคุมราคาเครื่องดื่มป้องกันการค้ากำไรเกินควร แสดงให้เห็นถึงราคาค่าครองชีพในสมัยก่อน
โปสเตอร์โฆษณาบุหรี่
บุหรี่ยี่ห้อนี้เป็นยอดนิยมในสมัย 50 -60 ปีก่อน ผลิตโดยโรงงานยาสูบ จำได้ว่าราคาซองละ 3.50 บาท
เป็ดพะโล้
ร้านอาหารจีนแต้จิ๋วโบราณมักจะโชว์ฝีมือการต้มพะโล้ เพราะคนจีนแต้จิ๋วได้ชื่อว่าพะโล้เป็นสุดยอดฝีมือทางด้านนี้ ที่นี่เป็นอีกร้านหนึ่งที่ต้มได้ตาสูตรเก่าแก่ น้ำพะโล้รสดีไม่ติดหวาน หอมจางๆ ส่วนเนื้อเป็ดนั้นเป็นเป็ดทุ่งที่เนื้อละเอียด ไร้ความเหนียวและไม่มัน ไร้กลิ่นสาบ
รวมมิตรพะโล้
เลือดเป็ดเนียน เต้าหู้ทอด รวมมิตรเครื่องในหมูกระเพาะหมู ไส้หมู พะโล้สับปนกันมาในจานเดียวกัน ฉ่ำด้วยน้ำพะโล้รสดี
กุ้งและหมึกผัดกระเทียมพริกไทย
กุ้งเนื้อสด และหมึกสด ทอดกระเทียมพริกไทยรากผักชีหมักมาอย่างบางๆ ผัดทอดมาอย่างมีจังหวะจะโคน เป็นรายการอาหารแบบง่ายๆ แต่เป็นรสฉมัง
ต้มยำกุ้ง
ต้มยำกุ้งกับปลาอร่อยเข้มข้นจัดจ้าน วัตถุดิบสดเพราะเมืองแปดริ้วอยู่ไม่ไกลจากทะเลนัก กลิ่นหอมเครื่องต้มยำโชยแตะจมูก ปรุงรสจัดลงตัว ใส่น้ำพริกเผาเพิ่มสีสันและเข้มข้น
ต้มยำพุงไข่ปลาช่อน
กลิ่นรสเดียวกับต้มยำกุ้ง เปลี่ยนเป็นเนื้อปลาช่อนและพุง ไข่ปลา มีคำบอกเล่าถึงสาเหตุการเรียกชื่อจังหวัด ”ฉะเชิงเทรา” กันทั่วไปว่า “เมืองแปดริ้ว” เพราะเนื่องจากปลาช่อนของเมืองนี้ตัวโตกว่าแหล่งอื่น ปลาช่อนโดยทั่วๆ ไปเมื่อเอามาทำปลาเค็มจะริ้วเพียงแค่ 6 ริ้ว ส่วนปลาของเมืองนี้ตัวโตขนาดริ้วได้ถึง 8 ริ้ว จึงเป็นที่มาของชื่อเมือง
ปลาราดพริก
ปลาช่อนแล่เนื้อแล้วทอดพอกรอบ ผัดกับน้ำพริกโรยใบมะกรูดและโหระพา แต่พอรู้สึกถึงรสยังติดกลิ่นอายอาหารจีนชนิดรสเผ็ด หลายคนน่าคุ้นเคยรสประมาณนี้
ปลาผัดคึ่นฉ่าย
ปลาช่อนผัดคึ่นฉ่ายที่ทอดมาได้กรอบกำลังดี ผัดกับใบคึ่นฉ่าย ปรุงด้วยเต้าเจี้ยวอย่างได้กลมกล่อม รสชาติไม่เค็มมาก เมื่อคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ เพียงแค่นี้ก็ขี้คร้านจะเจริญอาหาร
ผัดเปรี้ยวหวาน
ผัดเปรี้ยวหวานง่ายๆ ใช้หอมใหญ่ พริกหยวก แตงกวา น้ำมะเขือเทศจาง กับเห็ดฟางดอกตูม กุ้งขนาดพอเหมาะ ปรุงรสแบบที่เคยคิดถึง อร่อยจนขอดหมดจานทั้งน้ำทั้งเนื้อ
ไข่เจียว
อยากจะเรียกว่าเป็นไข่ฟูมากกว่า การทอดไข่แบบนี้โดยมากจะพบที่ต่างจังหวัด เนื้อไข่กรอบกระจายไม่เป็นแผ่นผืนอย่างที่เคยชิน
ไส้หมูทอด
ไส้ใหญ่ของหมูทำความสะอาดจนหมดกลิ่น ต้มจนหายเหนียวในน้ำพะโล้หม้อเดียวกับเป็ดและเครื่องพะโล้ทั้งหลาย เมื่อได้ที่เอามาหั่นชิ้นเล็ก แล้วทอดจวนกรอบสะเด็ดน้ำมัน สูตรนี้เหมือน “โลบะ” ของจังหวัดภูเก็ต ไม่แน่ใจว่าใครลอกของใคร แต่ก็เคี้ยวสะใจพอกัน
ผักบุ้งผัดกะปิ
เมนูผักบุ้งผัดกะปิอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา ทางร้านใช้ผักบุ้งไทยที่กรอบอร่อยไม่เหนียว คล้ายผักบุ้งจีน ผัดกับกะปิอย่างดีรสเค็มกลมกล่อม ติดเนื้อเคยหยาบนิดหน่อยมาด้วย ผัดได้หอมอร่อยชวนหลงใหล กินเสร็จเป็นต้องขอปันซื้อกะปิกลับบ้านมาด้วยทุกครั้ง
กระเพาะหมูผัด
ความอมตะของรายการนี้เป็นเหมือนอาหารทำกินกันตามบ้าน การทำความสะอาดกระเพาะหมูนั้นต้องล้างและขยำเกลือพลิกด้านในด้านนอกซ้ำหลายครั้งจนหมดกลิ่นหมดเมือกจนเกลี้ยงเกลา แล้วบรรจุพริกไทยเม็ดในตัวกระเพาะกลัดให้เรียบร้อย ต้มเดือดแล้วเคี่ยวไฟรุมๆ นานประมาณ 1 ชั่วโมงจนนุ่มติดเหนียวพอสู้ฟัน หั่นเป็นชิ้นพอคำแล้วผัดกับผักกาดดองชนิดเค็มที่ล้างจนความเค็มจาง หั่นชิ้นแล้วผัดกับกระเพาะใส่น้ำแป้งพอให้เหนียวขลุกขลิก ได้กินวันนี้ทำให้คิดถึงที่แม่เคยทำให้กินสมัยเด็ก
ผัดกะเพราหมูสับหยาบ
ออกต่างจังหวัดครั้งใดเป็นต้องของลองผัดกะเพราของร้านเก่าแก่ เพราะว่าความหอมของใบกะเพราป่าที่งอกเองตามต่างจังหวัดจะมีความเผ็ดหอมมากกว่ากะเพราสวนใบใหญ่ตามตลาดในกรุงเทพฯ ที่นี่ใช้หมูสับหยาบติดมันนิดหน่อยผัดกับพริกขี้นกกลิ่นแรงสีสวยกลิ่นตลบจนจามไปทั้งร้าน ราดกับข้าวเป็นอาหารจานเดียว ใครจะหาว่าสิ้นคิดก็ยอม
อาหารจานเดียวนอกจากผัดกะเพรา ยังมีข้าวผัดต่างๆ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ก๋วยเตี๋ยวน้ำปลา ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ผัดไทย อันเป็นรายการพื้นฐานของร้านเก่าแก่ประเภทนี้
ข้าวต้มน้ำวุ้น
บรรจุเป็นกล่องแช่น้ำเชื่อมให้ไปเติมน้ำแข็งที่บ้านเอง ตัวข้าวต้มห่อสวนเท่ากันแทบทุกตัว ต้มมาจนข้าวเหนียวเป็นตัวกำลังกิน เป็นอีกหนึ่งของหวานที่น่าจะเป็นของตกทอดมาเก่าแก่ เติมน้ำแข็งทุบเป็นขนมที่กินชื่นใจอีกทั้งอิ่มท้อง
ถนนศุภกิจ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000
โทรศัพท์: 0876028174
ตลาดวาย 15.00 น.
ตลาดบ้านใหม่นี้มาไม่ยาก เริ่มจากวัดหลวงพ่อโสธรฯ ใช้ถนนเลียบแม่น้ำตรงมาประมาณ 4 กม.ก็ถึงแล้ว
พิกัด 13.697136,101.0892218
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี