ช่วงนี้เรียกว่าเป็นฝันร้ายของคนทำงานสายไอทีในอเมริกาที่แท้ทรูเพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ปลดพนักงานเป็นหมื่นๆ คน ไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์แอมะซอน ไมโครซอฟท์ และล่าสุดคือกูเกิล
เริ่มต้นที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอมะซอน ปลดพนักงานมากกว่า 18,000 ตำแหน่ง ส่วนมากเป็นผู้ที่ทำงานด้านอีคอมเมิร์ซและด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทดูทรงแล้วนี่คือหายนะของบรรดาไวท์คอลาร์ที่แท้ทรู
การเลย์ออฟคราวนี้ลดคนลงไปประมาณ 6% นี่คือการกลับลำอย่างรวดเร็วแบบหน้ามือเป็นหลังเท้าทั้งที่เดือนก่อนยังตั้งเงินเดือนไว้สูงลิบลิ่วตอนประกาศรับสมัครงานเพื่อดึงคนเก่งมาทำงานด้วยแต่ตอนนี้อยู่ในภาวะพร้อมรับมือกับอัตราการเติบโตชะลอตัวลงขณะที่ภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจตัดลดการใช้จ่ายและราคาหุ้นของบริษัทลดฮวบลงถึงครึ่งหนึ่งในปีที่ผ่านมา
บริษัทเทคของสหรัฐฯโดยเฉพาะพวกบริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มใหญ่ๆที่ใช้โมเดลธุรกิจแบบอิงอาศัยรายได้จากการโฆษณาต่างประสบปัญหาที่พวกผู้ลงโฆษณาหั่นงบประมาณทำให้หาทางออกด้วยการลดค่าใช้จ่ายเมื่อเผชิญกับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ
เมตา บริษัทแม่ของ เฟซบุ๊ก ลดตำแหน่งงานอีก 11,000 ตำแหน่งหรือราว 13% ของกำลังแรงงานทั้งหมดของเครือบริษัทสแนปแชตหั่นลดลูกจ้างพนักงานไปราว 1,200 คน หรือเท่ากับ 20%ของพนักงานลูกจ้างทั้งหมดที่มีอยู่ทีเดียว
ในปี 2022 อุตสาหกรรมเทคสหรัฐฯหั่นลดคนงานไปรวมแล้วมากกว่า 50,000 คนเซลส์ฟอร์ซซึ่งเป็นบริษัทไอทีที่โด่งดังเรื่องโซลูชั่นสำหรับการบริหารจัดการและเรื่องเทคโนโลยีคลาวด์ จะเลย์ออฟพนักงานราว 10% หรือประมาณ8,000 คน
คงไม่ต้องพูดถึงทวิตเตอร์เพราะหนักหนาสาหัสตั้งแต่พี่อีลอนซื้อกิจการ ไม่รู้ว่าบริหารยังไงนับวันยิ่งเตี้ยลงๆ ผู้ลงโฆษณาของทวิตเตอร์กว่า 500รายระงับไม่ลงโฆษณา นับตั้งแต่ปลายเดือนต.ค.อีลอนปลดพนักงานไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 7,500 คนและยกเลิกสวัสดิการต่าง ๆ เช่น อาหารฟรีและมีแผนว่าจะปลดพนักงานเพิ่มอีกโดยวางแผนเลิกจ้างพนักงานฝ่ายผลิตภัณฑ์โซเชียลมีเดียจำนวน 50คนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
ล่าสุดเริ่มเอาข้าวของเครื่องใช้สำนักงานออกมาขายรูปปั้นรูปนกสีฟ้าอันโด่งดังของทวิตเตอร์กลายเป็นของที่ถูกประมูลได้ในราคาแพงที่สุดที่ 100,000 ดอลลาร์ ไม่รู้ว่าจนหรือเหนียวหนี้ทวิตเตอร์ไม่จ่ายค่าเช่าสำนักงานทั่วโลกซึ่งรวมถึงสำนักงานใหญ่ในซานฟรานซิสโกเจ้าของที่ดินกำลังฟ้องร้องดำเนินคดีเรื่องผิดนัดชำระค่าเช่ากับทวิตเตอร์อยู่ในขณะนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศแผนปลดพนักงาน 10,000 คน บางคนทำงานมายาวนาน 16 ปี หรือ 21 ปี แม้แต่พนักงานหญิงที่ท้องได้ 8เดือนก็โดนปลดขณะที่บริษัทเองเตรียมพร้อมรับมือภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นความเคลื่อนไหวคราวนี้ตอกย้ำแนวโน้มขาลงของอุตสาหกรรมไฮเทค
ข้อมูลของชาเลนเจอร์ เกรย์ แอนด์ คริสต์มาสซึ่งเป็นบริษัทช่วยจัดหางานใหม่ระบุว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังเผชิญแนวโน้มขาลงประกาศปลดพนักงานไปมากกว่า 97,000 คนนับว่าสูงที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมนี้
แอนดรูว์ ชาเลนเจอร์ รองประธานอาวุโสชาเลนเจอร์ เกรย์ แอนด์คริสต์มาส กล่าวว่าไม่ได้เห็นกิจกรรมแบบนี้มาตั้งแต่ที่ฟองสบู่ดอตคอมแตก
ไม่เกินความคาดหมาย กูเกิลปลดพนักงานออกอีกเพียบ บริษัทอัลฟาเบต (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google)ประกาศปลดพนักงานออกชุดใหญ่กว่า 12,000 คน หรือคิดเป็น 6%ของจำนวนพนักงานทั่วโลกที่มีมากกว่า 186,700 คน
บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกากำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เริ่มจากช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา ธุรกิจหลักของบริษัทอัลฟาเบตเกี่ยวข้องกับบริการเสิร์ชเอนจินค้นข้อมูลและโฆษณาบนกูเกิล (Google)รวมไปถึงวิดีโอบนยูทูบ (Youtube)ที่มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจต่าง ๆจึงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่น่าเชื่อว่าพนักงานที่ทำงานกับเทคโนโลยีทุกวี่วันกลับต้องพ่ายแพ้ต้อเทคโนโลยี่
ส่วนหนึ่งของการปลดพนักงานคือมีการนำปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)มาทดแทนมากขึ้น ความสามารถฉลาดเฉลียวของปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)บางชนิดทำให้ต้องออกประกาศ “แบน” กันเลยทีเดียว
มีปรากฏการณ์แชทบอทอัจฉริยะที่พัฒนามาจากปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่เรียกว่า “ChatGPT” ของบริษัท OpenAIซึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก เพราะทำได้ทุกสิ่งอย่าง เช่นสนทนาโต้ตอบทุกหัวข้อที่อยากรู้ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ ปรัชญาไปจนถึงวิทยาศาสตร์ และทฤษฎีวิชาการต่าง ๆ เพราะเก่งเกินไปทำให้โรงเรียนในนิวยอร์กสั่งห้ามนักเรียนใช้ ChatGPTเพราะกังวลเกี่ยวกับการเรียนรู้ของนักเรียนและอาจมีการคัดลอกผลงานผู้อื่นด้วย
สถาบันการศึกษาหลายแห่งในออสเตรเลียแสดงความกังวลเกี่ยวกับ ChatGPT ในการเลี่ยงซอฟต์แวร์ตรวจจับการคัดลอกผลงานพร้อมกับช่วยนักศึกษาเขียนงานวิชาการได้อย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือเสมือนเขียนด้วยตัวเอง
Group of Eight หรือกลุ่ม 8 มหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัยระดับชั้นนำของออสเตรเลีย ระบุว่าได้แก้ไขวิธีสอบวัดผลในปีการศึกษานี้หลังการถือกำเนิดของเทคโนโลยีแชทบอทอัจฉริยะโดยกลับมาใช้วิธีสอบข้อเขียนด้วย “กระดาษ” และ “ปากกา”แทนระบบอิเล็กทรอนิกส์
ด้านมหาวิทยาลัยซิดนีย์เจาะจงว่าการเขียนเนื้อหาโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ถือเป็นการทุจริตรูปแบบหนึ่ง แม้เอไอสามารถช่วยนักศึกษาเรียนรู้แต่จำเป็นต้องสอนให้นักศึกษาตระหนักถึงวิธีใช้เอไออย่างถูกต้องเหมาะสม
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามสถานการณ์เลย์ออฟพนักงานสายไอทีในอเมริกายังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ตั้งแต่ปลายปีจนถึงต้นปีนี้จึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำงานสายไอทีที่แท้จริง
.....................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี