ดูเหมือนว่าอเมริกันใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะไม่รู้ว่าเงินฝากในธนาคารจะลูกผีหรือลูกคน แม้ว่าทางธนาคารจะรับประกันความเสี่ยงให้ในระดับหนึ่ง อาทิตย์ที่ผ่านมามีแต่ข่าวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ หุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ ร่วงลง 49% หลังสถาบันการเงินแห่งนี้รายงานว่ามีคนแห่ถอนเงินฝากเป็นจำนวนมหาศาล
ธนาคารที่มีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่าสูญเสียเงินฝากในช่วงไตรมาสแรกมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เรื่องนี้โหมกระพือความกังวลให้หนักหน่วงขึ้น ตามหลังการล่มสลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (เอสวีบี) และธนาคารขนาดกลางอื่นๆ อีก 2 แห่ง
แรงเทขายอย่างหนักหมายความว่าหุ้นของเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ สูญเสียมูลค่าไปแล้วมากกว่า 90% นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม เฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ ยังเปิดเผยด้วยว่า กำลังปรับลดพนักงานราว 20-25%
ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็แทรก อาทิตย์นี้มีข่าวมาอีกแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่ข่าวดี นั่นคือ เกือบครึ่งหนึ่งของธนาคาร 4,800 บริษัทในสหรัฐฯ ใกล้ล้มละลาย ขณะที่ผลาญเงินกองทุนส่วนเพิ่มเพื่อสํารองไว้ยามฉุกเฉินเกือบหมดสิ้นแล้ว
ข้อมูลนี้มาจากหนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานโดยอ้างความเห็นของศาสตราจารย์อามิต เซรู ผู้เชี่ยวชาญด้านธนาคารแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ระบุว่าสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ราวครึ่งหนึ่งจมอยู่ใต้น้ำ ที่น่าตกใจคือนักวิชาการท่านนี้เตือนว่า
“อย่าอ้างว่านี่เป็นแค่เรื่องเกี่ยวกับซิลลิคอน วัลเลย์ แบงก์ และเฟิร์สท์ รีพับลิก แต่ธนาคารมากมายในระบบธนาคารของสหรัฐฯ มีความเป็นไปได้ว่าจะล้มละลาย”
คนฝากเงินฟังแล้วสะบัดร้อนสะบัดหนาวชอบกลต้นเดือนพฤษภาคม เฟิร์สท์ รีพับลิก ถูกคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านการเงินของสหรัฐฯ เข้ายึดและขายกิจการให้แก่เจพี มอร์แกน ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้ เฟิร์สท์ รีพับลิก ได้รับสายเลี้ยงชีพ 30,000 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มสถาบันการเงินในวอลล์สตรีท ที่ให้ความช่วยเหลือผ่านรูปแบบของเงินฝาก แต่ก็ไปต่อไม่ไหว
การขายกิจการของเฟิร์สท์ รีพับลิก เกิดขึ้นตามหลังการแห่ถอนเงินในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้ธนาคารระดับภูมิภาค 2 แห่ง ซิลลิคอน วัลเลย์ แบงก์ และซิกเนเจอร์ แบงก์ ต้องล้มครืนภายในเวลาไม่กี่วัน
หนังสือพิมพ์เลเลกราฟ อ้างอิงจากรายงานของสถาบันอูเวอร์ และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางธนาคาร ระบุว่าปัจจุบันธนาคารราว 2,315 ธนาคารทั่วสหรัฐฯ มีมูลค่าสินทรัพย์น้อยกว่าหนี้สิน มูลค่าตลาดของสินเชื่อทั้งหมดที่สถาบันการเงินทั้งหลายเหล่านี้ปล่อยเงินทุนไป มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
ศาสตราจารย์เซรูยังได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ที่คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบทางการเงินของสหรัฐฯ นำมาใช้จัดการกับปัญหาต่างๆ ที่บรรดาธนาคารขนาดกลางต้องเผชิญ โดยเซรูบอกว่าคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสามารถควบคุมวิกฤตสภาพคล่องได้ทันที ด้วยการคุ้มครองเงินฝากทั้งหมดชั่วคราว อย่างไรก็ตาม จะไม่สามารถจัดการกับวิกฤตล้มละลายที่ใหญ่โตกว่านี้
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยรอบที่ 10 อีก 0.25% เฟดเริ่มนโยบายขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกในวงจรนี้ มาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้วเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ผ่านมาปีกว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 2% กว่า 2 เท่าตัว สำหรับการขึ้นดอกเบี้ยครั้งล่าสุด ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 5.0-5.25% ถือว่าสูงสุดในรอบ 16 ปี
นาทีนี้เลิ่กลั่กกันทั่วหน้า ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยบริษัทวิจัยแกลลัป (Gallup) ระบุว่า ชาวอเมริกันเกือบครึ่งหนึ่งวิตกกังวลความปลอดภัยของเงินที่ฝากอยู่ในบัญชีธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นๆ ท่ามกลางความปั่นป่วนของระบบการธนาคารสหรัฐ
ผลสำรวจพบว่า 48% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐกังวลเกี่ยวกับเงินของตัวเอง ซึ่งแบ่งเป็นผู้ที่มีความกังวล “มาก” (19%) และผู้ที่มีความกังวล “ปานกลาง” (29%) โดยมีเพียง 30% ที่ “ไม่รู้สึกกังวล” และ 20% ที่ “ไม่กังวลเลยสักนิด”
การสำรวจข้างต้นจัดทำระหว่างวันที่ 3-25 เม.ย. หลังจากการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน แวลลีย์ แบงก์ เมื่อวันที่ 10 มี.ค. และธนาคารซิกเนเจอร์ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา
แกลลัป ระบุว่าผลสำรวจนี้คล้ายคลึงกับช่วงวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 โดยช่วงเดือนก.ย.ปีนั้น ประมาณ 45% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐมีความกังวลมากหรือปานกลางเกี่ยวกับความปลอดภัยของเงินตัวเอง หลังจากการล้มละลายของธนาคารเลห์แมน บราเธอร์ส การล้มละลายของธนาคารเลห์แมน บราเธอร์ส ยังคงเป็นการล้มละลายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐตราบจนทุกวันนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี