“เสนีย์ เสาวพงศ์” เจ้าของวรรณกรรมอมตะเรื่องปีศาจ และคนดีศรีอยุธยา เคยกล่าวไว้ในหนังสือ “หยดหนึ่งของกาลเวลา” ว่า กาลเวลาไม่ว่าจะอยู่ในภาวะมืดหรือสว่าง แต่ก็ใส โปร่งและเปล่า ปราศจากสาระ ถ้าหากคนไม่ได้บรรจุกิจกรรม หรือการกระทำของเขาลงไป
จำได้ว่าเมื่อสี่ปีก่อนชายผู้หนึ่งซึ่งหนีคดีทุจริตจากแผ่นดินถิ่นเกิดของตน เดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขากำลังเลือกซื้อนาฬิกาหรูยี่ห้อ “Patek Philippe Grandmaster Chime Ref. 6300” ราคา 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณเกือบ 70 ล้านบาท ทำจากทองคำขาว 18K มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 47.4 มม. และหนา 16.1 มม. ตกแต่งด้านข้างด้วย Guilloched นับเป็นนาฬิกาข้อมือที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก
ชายในวัยสูงอายุผู้นี้ แม้ว่าเขาจะกลับแผ่นดินถิ่นเกิดไม่ได้ เพราะถ้ากลับมาจะต้องรับโทษทัณฑ์ตามที่ศาลพิพากษาตัดสินจำคุกเป็นเวลา 10 ปี เขาจึงเลือกที่จะหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ แต่ถึงกระนั้นเขาก็มีคฤหาสน์อันโอ่โถงอยู่ในหลายประเทศที่อ้าแขนต้อนรับให้เขาใช้อาศัยเป็นถิ่นพำนัก
แต่นั่นมิใช่เพราะว่าเขาทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่มวลมนุษยชาติ หากเป็นเพราะทรัพย์สินหลายแสนล้านที่เขาโกงจากชาติบ้านเมืองของตนแล้วนำไปลงทุนในประเทศนั้นๆ ต่างหาก ที่ทำให้เขาได้รับการต้อนรับ
วันนี้ชายผู้นั้นกลับมาแผ่นดินถิ่นเกิดแล้ว หลังจากหลบหนีคดีไปอยู่ต่างแดนกว่า 15 ปี และถึงแม้ว่าจะเป็นนักโทษ แต่กลับเป็นนักโทษผู้มีอภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมายของบ้านเมือง เหนือประชาชนคนไทยทุกคน คุกไม่ต้องเข้า มิหนำซ้ำยังเป็นผู้บงการและกำหนดชะตาชีวิตของคนในบ้านเมืองนี้ผ่านรัฐบาลที่เขามีอำนาจเหนือในฐานะเจ้าของพรรคตัวจริง
15 ปี ที่เขาต้องระเห็จหนีคดีทุจริตออกไปอยู่ต่างแดน เมื่อกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รัฐมนตรีในสมัยที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรี และเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุทำให้บริษัทการบินไทยขาดทุนถึง 6.2 หมื่นล้านบาท จากการซื้อเครื่องบินแอร์บัสจำนวน 10 ลำ ปรากฏว่า รัฐบาลที่มี “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ได้แต่งตั้งรัฐมนตรีผู้นั้นนามว่า "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานบอร์ดติดตามแผนฟื้นฟูการบินไทย และยังมีทนายถุงขนม “พิชิต ชื่นบาน” ทนายประจำตระกูลชินวัตรของนายใหญ่และนายหญิงพ่วงเข้ามาเป็นกรรมการอีกด้วย
ทั้งที่การบินไทยเพิ่งจะฟื้นคืนกลับมามีชีวิตจากสภาพที่ล้มละลาย จนวันนี้มีเงินสำรองมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท อันเป็นผลงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งจะไปเยี่ยมชมกิจการของการบินไทยก่อนพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง และได้กล่าวชื่นชมคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ฝ่ายบริหาร และพนักงานบริษัทการบินไทยที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูกิจการให้มีความรุดหน้าและรวดเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้
สุดท้ายแล้วก็เท่ากับว่า เมื่อได้รับการฟื้นฟูจนมีชีวิตกลับขึ้นมาใหม่ “อีแร้ง” ฝูงเดิมก็โฉบลงมาอีก
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดสำหรับรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งถือว่าไม่เข้าท่า ไม่รู้ว่าใช้สมองส่วนไหนคิดกัน คือวันหยุดปีใหม่ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเลื่อนวันหยุดช่วงปีใหม่ จากเดิมมีวันหยุดชดเชยปีใหม่วันอังคารที่ 2 มกราคม 2567 เปลี่ยนมาเป็นวันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2566 แทน ทำให้วันหยุดยาวเปลี่ยนใหม่เป็น หยุดตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2566-1 ธันวาคม 2567 ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
อันที่จริงหยุดอย่างเดิมก็ดีอยู่แล้ว คือระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม ก่อนสิ้นปีไปถึงวันที่ 2 มกราคมปีหน้า หรือถ้าอยากเพิ่มก็เพิ่มวันที่ 29 ธันวาคมขึ้นอีกหนึ่งวัน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวได้จริงๆ เพราะมีวันหยุดเพิ่มขึ้นพอกำหนดใหม่แบบนี้ ก็เกิดผลกระทบกันไปทั่วโดยเฉพาะคนที่ออกไปฉลองในต่างจังหวัด หรือคนที่ไปทำมาหากินจังหวัดอื่นและต้องเดินทางกลับไปฉลองที่บ้านกับครอบครัวญาติพี่น้อง
คิดง่ายๆ แต่ไหนแต่ไรมา เวลาฉลองปีใหม่กัน ส่วนใหญ่ฉลองกันข้ามวันข้ามคืนตั้งแต่เย็นวันที่ 31 ธันวาคม ยาวไปถึงค่อนคืนหรือรุ่งสางของวันที่ 1 มกราคม ใครที่ออกต่างจังหวัดก็ยังมีเวลาได้พักหนึ่งวันก่อนจะเดินทางกลับไปทำงานในวันที่ 2 มกราคม เมื่อเปลี่ยนมาหยุดวันที่ 29 ธันวาคม และยกเลิกวันที่ 2 มกราคม กลายเป็นว่าวันที่ 1 มกราคม ต้องตาลีตาเหลือกขับรถกลับ บ้างก็ยังเมาค้าง คิดดูแล้วไม่สมเหตุสมผล ควรจะเปลี่ยนแปลงกลับไปใช้ตามเดิม หรือไม่ก็เพิ่มวันที่ 29 ธันวาคม ให้อีกหนึ่งวัน เป็นของขวัญแก่ประชาชนเนื่องในเทศกาลปีใหม่-ยังมีเวลาให้คิดและควรจะทำ
ถ้านายเศรษฐา ทวีสิน ยังคิดไม่ได้ ก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้เป็นการบ้านให้ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร”ที่จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ในวันนี้ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์ พาวเวอร์ แห่งชาติ รับไปสะสาง
“คิดใหญ่ ทำเป็น” พรรคเพื่อไทย โดยทักษิณ ชินวัตร เพื่อทักษิณ ชินวัตร และตระกูลชินวัตร-ไชโย !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี