เมื่อวันก่อน,..เมื่อวานนี้..และวันนี้ 29 พฤษภาคม..เรื่องราวของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร..ก็ยังมีประเด็นให้พูดถึง..อันต่อเนื่องมาจาก“ทักษิณ”โผล่ไปปรากฏตัวที่สำนักงาน ป.ป.ส. เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม..แล้วก็สำแดงตนแสดงอำนาจ..ชนิดที่ไม่“สนหัว”ใครทั้งสิ้น..ทั้งเกรี้ยวกราด..ฟาดงวงฟาดงาไปยังบุคคลทั่วทุกวงการ..ที่ไม่สนองประโยชน์ให้แก่ตน

อาการที่“ทักษิณ ชินวัตร”แสดงออกเช่นนั้น..ไม่ต่างจากคนที่กำลังหลงเงาตนเอง คิดว่าใหญ่คับฟ้า..และมีความอาฆาตโกรธแค้นฝังอยู่ในก้นบึ้งหัวใจ..ซึ่งท่าน“พุทธทาสภิกขุ”เคยแสดงธรรมเอาไว้ว่า..“มนุษย์เราจะอยู่เป็นมนุษย์ได้..ก็เพราะกำลังประกอบอยู่ด้วยธรรม,..มนุษย์ที่ไม่ประกอบอยู่ด้วยธรรม..ก็ต้องประกอบอยู่ด้วยอธรรมเป็นธรรมดา..และจะต้องเป็นอมนุษย์ในร่างของมนุษย์ด้วย”

ท่าน“พุทธทาสภิกขุ”ผู้เป็นเนื้อนาบุญแห่งพระพุทธศาสนา..ได้ตั้งปุจฉาเป็นปริศนาธรรมไว้ว่า..“โลกนี้จะเป็นอย่างไร..ถ้าหากเป็นโลกที่ประกอบด้วยอมนุษย์ในร่างของมนุษย์เต็มไปเสียทั้งโลก ?”

บ้านเมืองของเราเวลานี้..ก็คือส่วนหนึ่งของโลกใบนี้..ที่ดูเหมือนว่า“อมนุษย์”กำลังขึ้นมามีอำนาจ..และนับวันยิ่งเดินห่างออกจาก“ศีลธรรมและจรรยา”ทุกชั่วขณะ..ซึ่งการไปปรากฏตัวของ“ทักษิณ ชินวัตร”ที่สำนักงาน ป.ป.ส. เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา..“ทักษิณ”ได้“ส.ท.ร.”ตามฉายาที่ตนตั้ง..คือ“แส่และเสือก”ไปหมดทุกเรื่อง..และเรื่องที่จะต้องหมายเหตุเป็นบันทึกไว้..ก็คือ..กรณี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”ที่“ทักษิณ”เป็นผู้ก่อ..และทำให้ผู้ที่ยอมทอดตัวรับใช้ต้องมีเคราะห์กรรมไปตามๆ กัน

คำแรกที่“ทักษิณ ชินวัตร”เอ่ยปากกับผู้สื่อข่าวที่แห่ไปทำข่าวกันเป็นกองทัพ,..ภาษา“ขาโจ๋”ก็ต้องบอกว่า..“ยียวนกวนโอ๊ย”ตามนิสัยถาวรของ“ทักษิณ”ที่ไม่เคยแปรเปลี่ยน..และยังถ่ายทอดดีเอ็นเอสืบสันดานตกทอดมาถึง“แพทองธาร ชินวัตร”ผู้เป็นบุตรสาว..ชนิดที่ไม่ผิดฝาผิดตัวว่าเป็นทายาทมีสายเลือดเดียวกัน..นั่นก็คือ “ยังอยู่ดีกินดี..ไม่ได้ไปไหน”

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องมติของแพทยสภากรณี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”..ที่เวลานี้อยู่ในมือของ“สมศักดิ์ เทพสุทิน”..ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภา,..ปรากฏว่า“ทักษิณ”ตอบแบบ“ไปไหนมาสามวาสองศอก”ว่า.."แก่แล้ว..70 กว่าแล้วนะ..ใจเย็นๆ" 

ในระหว่างที่กล่าวปาฐกถาเรื่องยาเสพติด..ที่ได้รับเทียบเชิญจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง..รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม..ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดประชุม..ในหัวข้อ“ยาเสพติด..อาชญากรรมข้ามชาติ..มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ก็อีกเช่นกัน,..“ทักษิณ ชินวัตร”ยังส่อแสดงถึงอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในแต่เก็บไว้ไม่อยู่..โดยกล่าวแบบโพล่งขึ้นมาว่า..“วันนี้มีคนปล่อยข่าวว่าผมหนีไปแล้ว..และผมเพิ่งกลับมาวันนี้..ซึ่งหนีไปทางช่องทางธรรมชาติ..แต่เครื่องบินจอดไว้ที่นี่..ออกช่องทางธรรมชาติและบินไปที่อื่น..ไปกันใหญ่..ผมไม่อยากให้ทุกท่านแต่งนิยาย"

และ“ทักษิณ ชินวัตร”พูดต่อ..“อย่าง เจ.เค.โรว์ลิง..ที่ไปนั่งดื่มกาแฟทั้งวันและแต่งนิยายเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์..จนดัง..จนรวย..อันนี้เขาใช้จินตนาการแต่งนิยายให้เกิดประโยชน์..แต่ของเรานิยายน้ำเน่าชิบหาย..สงสัยว่าช่องเจ็ดสีสอนไว้ดี..ก็เลยทำให้แต่งนิยายจินตนาการเลอะเทอะ..หลอกไปหลอกมา..เชื่อตัวเองอีก..บอกว่านายกฯอิ๊งค์ไปรอลอนดอน..และผมก็จะหนีตามไป..เป็นเรื่องที่ตลก..วันนี้คนไทยต้องตั้งหลักให้ดี..อย่าให้คนจูงได้ง่าย..เฟกนิวส์มาจากสองช่องทาง..คือหนังสือพิมพ์ที่ไม่มีคนอ่าน..และทีวีตกรุ่น”

ภายหลังจบจากการกล่าวปาฐกถา,..“ทักษิณ ชินวัตร”ยอมเปิดใจให้สัมภาษณ์..ซึ่งผู้สื่อข่าวถามว่า..จะไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง..ตามที่ศาลฯนัดไต่สวนคดี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”ในวันที่ 13 มิถุนายนเดือนหน้าหรือไม่ว่า..“ก็ถามทนายอยู่ว่า..เขาให้ไปหรือไม่..เพราะความจริงแล้ว..จะไปหรือไม่ไปก็ได้..แต่ต้องมีทนายไป..ซึ่งยังมีเวลาตั้งหลายวัน..วันที่ 12 มิถุนายนตอนเที่ยงคืนค่อยตัดสินใจ..อย่ามาตื่นเต้นแทนสิ”

มิหนำซ้ำ“ทักษิณ ชินวัตร”ยังอ้างสถาบันมาบังหน้า..เหมือนที่เคยอ้างหากินอยู่บ่อยๆ..ทั้งตอนเดินสายช่วยลูกพรรคเพื่อไทยหาเสียงช่วงเลือกตั้งนายก อบจ. และในวาระต่างๆ..ว่า..“ไม่มีเหตุผลอะไรเลย..แหม ! อุตส่าห์กลับมาแล้ว..ก็มาทำงาน..และมีพระบรมราชโองการ..มีพระมหากรุณาธิคุณลดโทษแล้ว..บอกให้ผมใช้ความรู้ความสามารถช่วยเหลือประชาชนในบ้านเมือง..ผมก็ต้องรับด้วยเกล้าฯ..รับใส่เกล้าฯ ไว้..เพราะเป็นเรื่องที่เป็นหน้าที่ผม"

ผู้สื่อข่าวถามจี้เรื่องแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คนกรณี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”ที่โรงพยาบาลตำรวจ,..คำถามนี้ทำให้ถูกช่องถูกจริต“ทักษิณ ชินวัตร”..โดยตอบแบบใส่ความหาเรื่องไปยังแพทยสภาทันทีว่า..“แพทยสภามีหน้าที่ดูเรื่องจริยธรรมของแพทย์..บางทีแพทยสภาก็ไม่มีจริยธรรมเสียเองก็มี..บางคนไลน์กลุ่มหลุดออกมา..แพทยสภาบางคนด่าผมอยู่ในไลน์กลุ่ม..แล้วแพทยสภาอีกคนหนึ่งก็ตอบเป็นสติกเกอร์ไปว่า.. YES..ซึ่งยังไม่ทันพิจารณาเลย..อย่างนี้เรียกว่าจริยธรรมมีปัญหาซะเอง..ถ้าทุกฝ่ายรักษากติกา..และรักษาจริยธรรมในวิชาชีพ..ไม่มีปัญหา"

อย่างไรก็ดี..ผู้สื่อข่าวถามว่า“หากผลออกมาเป็นลบจริงๆ..ก็พร้อมใช่หรือไม่”,..“ทักษิณ ชินวัตร”ตอบว่า..“โอ้ ! อย่าเพิ่งสรุป..ไม่มีอะไรต้องสรุปล่วงหน้า..ผู้พิพากษาที่พิจารณาก็ยังไม่สามารถสรุปได้..เพราะต้องดูพยานหลักฐาน..ดูการสืบพยานโจทก์..พยานจำเลย..ฉะนั้น..อย่าไปสืบเอง..อย่าไปทำนายอะไรล่วงหน้า..อย่าไปคาดการณ์ล่วงหน้า..ไม่มีอะไร”

คำถามสุดท้ายเกี่ยวกับมติแพทยสภาที่ผู้สื่อข่าวถาม“ทักษิณ ชินวัตร”ว่า..“แสดงว่าได้สัญญาณบวกจากกระบวนการใช่หรือไม่”,..“ทักษิณ”ตอบว่า..“ไม่ต้องมีสัญญาณ..ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน..บ้านเรามีกฎหมาย..มีพยานหลักฐานอยู่..ทุกอย่างไม่ต้องมีสัญญาณหรอก..ทำไมชอบไปฟังสัญญาณ”

บรรทัดนี้คงพูดได้คำเดียวว่า..ถ้า“ทักษิณ ชินวัตร”รู้แกวล่วงหน้า..ว่าศาลฎีกาฯมีพยานหลักฐานชี้ชัดว่า“ป่วยเท็จ”..และจะต้องถูกจับกลับไปติดคุก..เหมือนข่าววงในที่“ไลน์กลุ่ม”ของกรรมการแพทยสภาหลุด

หลังเที่ยงคืนวันที่ 12 มิถุนายน,..“ทักษิณ ชินวัตร”ก็ยังสามารถมุดช่องสุนัขรอดหนีได้ทันก่อนรุ่งสาง -และคนก็ยังเชื่อว่า“ทักษิณ”หนีแน่นอน !

รุ่งเรือง ปรีชากุล