เรื่องของ“ศรีสุวรรณ จรรยา”ผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักร้องเรียนรายวัน ถูกเจ้าหน้าที่สามหน่วยงาน คือตำรวจกองปราบปราม ป.ป.ท. และป.ป.ช. “ล่อซื้อ”จากการใช้แผนซ้อนแผนรวบตัวพร้อมเงินของกลาง 5 แสนบาทคาบ้านพักที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันศุกร์ 26 มกราคมที่ผ่านมา เสียงอื้ออึงของสังคมที่พูดถึงนายศรีสุวรรณ จาก“พี่ศรีนักร้อง”ก็กลายเป็น“พี่ศรีนักตบ”ขึ้นมาโดยพลัน
ในวรรณกรรมเรื่อง“ยอดมือปราบ”ของโกวเล้งนั้น เรื่องราวของ“เล้งโหงว”ตัวเอกเป็นผู้ที่มีเกียรติภูมิสูงส่ง เต็มไปด้วยการต่อสู้ผจญภัย ทั้งปราดเปรื่องหลักแหลม มีอุดมการณ์ มีคุณธรรมและมีความกล้าหาญ มักกระทำในเรื่องที่ทั้งผู้อื่น
ไม่ลดตัวลงกระทำ ไม่กล้ากระทำ และทำไม่ได้ ด้วยเหตุดังนี้ “เล้งโหงว”ในยุทธจักรนิยายกำลังภายในเรื่องนี้จึงเปรียบเสมือน“มังกรในมวลมนุษย์”
นั้นคือตัวละครในนิยาย แต่สำหรับ“ศรีสุวรรณ จรรยา”ซึ่งเวลานี้เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา จาก“นักร้องยอดมือปราบ”ก็กลับกลายเป็น“ยอดนักตบ”ในสายตาของผู้คนในสังคมไทยที่ไม่นิยมชมชอบในวีรกรรมที่ผ่านมาของเขา
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเรื่องราวในนิยายหรือเรื่องจริงบนโลกใบนี้ของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับอำนาจและผลประโยชน์ของบุคคลในแวดวงการเมืองและในหน่วยงานราชการ ล้วนมีที่มาที่ไป และมีเบื้องหลังให้ต้องติดตาม
คดีลึกลับซับซ้อนในนวนิยายต้องมีตัวละครที่เกี่ยวข้อง มีการสร้าง“พล็อตเรื่อง”ที่มีทั้งความซับซ้อนและ“จุดหักมุม”อันเป็นบทอวสานของเรื่อง นอกจากนั้นตัวละครก็มีทั้งพระเอก ผู้ร้าย และตัวประกอบ ซึ่งบางเรื่องตัวประกอบก็สำคัญ เพราะผู้ประพันธ์สร้างขึ้นมาให้เป็นตัวเดินเรื่องและเป็นตัวแปรให้เหตุการณ์ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น อันยากที่จะคาดเดาเรื่องราวทั้งหมดจนกว่าจะถึงบทสุดท้าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความบันเทิงเริงรมย์สำหรับผู้อ่านเป็นประการสำคัญ
แต่เรื่องราวคดี“ตบทรัพย์”หรือคดี“ข่มขู่เรียกเงินเจ้าหน้าที่รัฐแลกกับการไม่ร้องเรียน”ของนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ที่กลายเป็นข่าวใหญ่รับต้นปีมังกรทองนั้น มีตัวละครอย่าง“เจ๋ง ดอกจิก” หรือนายยศวริศ ชูกล่อม ประธานกลุ่มรวมไทยสร้างชาติ อดีตนปช.ของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งปัจจุบันมาเป็นนักการเมืองสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติและน.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ เลขานุการของนายยศวริศ และเป็นอดีตผู้สมัคร สส.จังหวัดอุตรดิตถ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และยังเกี่ยวพันไปถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ที่มีสถานะเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติที่แม้จะไม่เกี่ยวแต่ก็ต้องพลอยเปลืองตัวไปด้วย
นั่นก็เพราะในวันที่มีการสนธิกำลังจับกุมตัวนายศรีสุวรรณ จรรยา นายยศวริศ ชูกล่อม และนางสาวพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ใน“คดีข่มขู่เรียกรับเงิน”จากนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว จำนวน 3 ล้านบาทและมีการต่อรองจนเหลือ 1.5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการปลูกข้าว และโครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าวในวงเงินงบประมาณ 19,609 ล้านบาท นั้น นายยศวริศ ถูกจับกุมในทำเนียบรัฐบาล และวันเดียวกันนั้น คือวันที่ 26 มกราคมก็เป็นวันที่นายพีระพันธุ์ ได้ลงนามตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีตั้งนางสาวพิมณัฏฐาเป็นคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องประจวบเหมาะที่จะทำให้คนนำไปพูดในทางที่เสื่อมเสียได้ แม้จะไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการ“เรียกรับเงิน”ก็ตาม
ที่สำคัญที่สุด“เจ๋ง ดอกจิก”หรือนายยศวริศ ชูกล่อม ยังเกี่ยวพันไปถึง“คุณนาย”หรือนางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ที่มีการเจรจาต่อรองกับทั้งกับนายยศวริศ และนายศรีสุวรรณ จรรยา ตามที่ปรากฏในคลิปเสียง ซึ่งนางธัญญรัตน์เปิดเผยว่า ตั้งแต่สามีรับตำแหน่งอธิบดีกรมการข้าว ก็ถูกกลุ่มผู้ต้องหาร้องเรียนมาโดยตลอด ทั้งที่เคยชี้แจงไปแล้วว่าไม่เป็นความจริง แต่ผู้ต้องหายังพยายามเกลี้ยกล่อมให้ยอมจ่ายเงิน แลกกับการยุติการร้องเรียนเช่นเดิม ส่วนข้อสงสัยสังคมที่ว่า ถ้าไม่ผิดจริงแล้วจ่ายเงินทำไมนั้น นางธัญญรัตน์ชี้แจงว่า “ตอนแรกก็เป็นทุกข์มาก แต่เมื่อฉุกคิดได้ว่า เมื่อไม่ผิดทำไมไม่ลุกขึ้นมาสู้ปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง หรือสู้ให้คนอื่นรู้ความจริง”
ส่วนนายศรีสุวรรณ จรรยา ก็ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อหาและได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวด้วยเงินสด 4 แสนบาท หลังถูกสอบสวนนานกว่า 9 ชั่วโมง และให้สัมภาษณ์สื่อว่า การถูกดำเนินคดีครั้งนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา การทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตก็เหมือนการเดินฝ่าฝน ต้องเปียกเป็นธรรมดา แน่นอนว่าต้องมีไปเหยียบตาปลาผู้มีอำนาจ
“การทำให้ศรีสุวรรณล้มลงได้ก็ทำให้คนเหล่านี้ผยองขึ้น ผมทำใจได้มาโดยตลอด ครั้งนี้ผมก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ก็จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อร้องเรียนการทุจริตของผู้มีอิทธิพลต่อไป ทั้งการฟ้องร้องคดีความให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนให้ได้รับความเป็นธรรม และการจับผิดนักการเมืองข้าราชการที่ทุจริตคอร์รัปชั่น”นายศรีสุวรรณ จรรยา กล่าว
ที่สุดแล้วคดีนี้จะไปจบในชั้นศาล-ต้องติดตามดูกันต่อไป !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี