แต่หลักฐานที่เชอร์ล็อก โฮล์มส์ พูดถึงนั้นคือ“ลายนิ้วมือแฝง” ที่เป็นหลักฐานสำคัญอย่างยิ่งในสมัยศตวรรษที่ 20 แต่สำหรับยุคดิจิทัลในศตวรรษที่ 21 นี้พยานหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายไม่ว่าคดีใด ล้วนไม่ยากเย็นอีกต่อไปแล้ว เพราะอาชญากรย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ ทั้งในกล้องวงจรปิดและคลิปเสียง
คดีครึกโครม “ข่มขู่เรียกรับเงิน” นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนที่มีนายศรีสุวรรณ จรรยา, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และ นางสาวพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นเลขานุการส่วนตัวของเจ๋ง ดอกจิก เป็น 3 ผู้ต้องหาในคดีนี้นั้น แม้จะมีการทิ้งร่องรอยไว้ในคลิปเสียงที่มีการบันทึกไว้ก็ตาม แต่พิจารณาดูแล้วก็เหมือน “หนังลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน” เป็นหนังเรื่องยาวที่ยังมิอาจด่วนสรุปได้
ตัวเอกของเรื่องกลับกลายเป็น “เจ๋ง ดอกจิก” และ “คุณนาย” ในคลิป ซึ่งทั้งคู่เป็นตัวประกอบที่เดินเรื่องจนเป็นคดี ขณะที่อธิบดีกรมการข้าวในฐานะรับบทพระเอกที่เป็นฝ่ายถูกกระทำกลับไม่มีบทในเรื่อง เช่นเดียวกับ“ศรีสุวรรณ จรรยา”นักร้องที่กลายเป็นนักตบและนักรีดเพียงชั่วข้ามคืน ก็มาปรากฏตัวตอนบทอวสานที่ตำรวจมารวบตัวที่บ้านพักและมีเสียงที่ถูกปล่อยออกมาจากคลิป คาดว่าเป็นเจรจาโต้ตอบหลังจากที่ “เจ๋ง ดอกจิก” เปิดหน้างานนำร่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่ต้องตั้งข้อสังเกตกันต่อไปก็คือ ในเมื่อโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการปลูกข้าวและโครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าวในวงเงินงบประมาณ 19,609 ล้านบาท ที่กรมการข้าว ตั้งไว้ในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ไม่มีอยู่จริง เนื่องจากมีการยกเลิกและมีการโอนเงินไปให้กระทรวงพาณิชย์และ ธ.ก.ส.แล้ว ถามว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้อธิบดีกรมการข้าวต้องจ่ายเงินให้กับนายศรีสุวรรณ จรรยา
ส่วนข้อร้องเรียนที่ “เจ๋ง ดอกจิก” เจรจาเรียกรับเงินกับ “คุณนาย” ตามที่มีเสียงปรากฏอยู่ในคลิปนั้นความจริงก็ได้เปิดเผยจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร จากการโพสต์ข้อความผ่านเพจ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ว่าเรื่องการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ จรรยา และนายยศวริศ ชูกล่อม ที่มายื่นต่อคณะกรรมาธิการฯในวันที่ 20 ธันวาคม 2566นั้น คือเรื่องการขอให้ตรวจสอบการใช้งบกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีเรียกตบทรัพย์จากอธิบดีกรมการข้าวที่ถูกล่อซื้อแต่อย่างใด
เมื่อฟังข้อเท็จจริงจากที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เปิดเผย ก็ทำให้รู้ว่านายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก กล่าวกับ “คุณนาย” ตามเสียงในคลิปว่าสามารถเคลียร์ได้กับประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมทั้งสำทับกับคุณนายว่า “จ่ายมาก็จบ” นั้น เป็นการกล่าวอ้างเพราะเรื่องที่ร้องไม่เกี่ยวกับกรมการข้าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้กล่าวไว้ชัดเจนในเพจที่โพสต์ลงว่า “ที่มีการกล่าวอ้างว่าบุคคลผู้นั้นผู้นี้สามารถเคลียร์กับผมได้ สามารถขอให้หยุดการดำเนินเรื่องในคณะกรรมาธิการฯได้ เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือส่วนได้ส่วนเสียใดๆ กับคดีการเรียกตบทรัพย์ในครั้งนี้ และขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ที่เจตนาทุจริตอย่างเต็มที่ที่สุด หากมีผู้ใดพยายามใช้คณะกรรมาธิการฯเป็นเครื่องมือในการเรียกตบทรัพย์ ผมพร้อมให้ความร่วมมือในการเข้าให้การ และให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏครับ”
ถึงที่สุดแล้ว คดีนี้มีเงื่อนงำซับซ้อน และต้องติดตามดูกันต่อไป น่าเสียดายก็ตรงที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้เคยทำเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการเปิดโปงการทุจริตประพฤติมิชอบของรัฐมนตรีในรัฐบาลและข้าราชการในหน่วยงานของรัฐ และยังมีเรื่องที่จะต้องดำเนินการต่อเกี่ยวกับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่กลับต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียงแบบ “ตกม้าตาย” เอาได้ง่ายๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร นั้นถือว่าสำคัญ นอกจากนายศรีสุวรรณ จรรยา จะไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบหน่วยงานรัฐอนุญาตให้ “ทักษิณ” ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ก็ยังมีการยื่นฟ้องอธิบดีกรมราชทัณฑ์, ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาล ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งที่ให้นักโทษรายนี้ออกไปนอนพักรักษาตัวนอกเรือนจำรวมทั้งเพิกถอนระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 และขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้ระเบียบดังกล่าวไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
งานนี้ทำไปทำมา “นักโทษเทวดาชั้น 14” นอนยิ้มอย่างมีความสุข ทั้งๆ ที่คนละเรื่องเดียวกันแท้ๆ
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี