“ลัทธิคอมมิวนิสต์” นั้นใครเสพแล้วก็จะหน้ามืดตามัว อารมณ์รุนแรง และอันตรายยิ่งกว่าเสพยาบ้ามากนัก
ในยุค 6 ต.ค.2519 ที่ผมเริ่มอ่านหนังสือและสนใจการเมือง ก็ได้รู้ว่ามีคนก่นด่าศาสนาว่าเป็นยาเสพติด มอมเมาประชาชนให้หลงเชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรม ได้รู้ว่ามีคนก่นด่าพ่อแม่ที่ทำให้พวกเขาเกิดมา เพียงเพราะต้องการเสพกามารมณ์กัน พ่อแม่จึงไม่มีบุญคุณต่อเขาตรงกันข้ามกลับจะต้องรับผิดชอบชีวิตของพวกเขา ด้วยการเลี้ยงดูและส่งเสียให้เรียนสูงๆ
ก่นด่าครูอาจารย์ที่ให้ความรู้แก่พวกเขาว่าเป็นพวกศักดินาเผด็จการ นิยมการใช้อำนาจบังคับบงการพวกเขาให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ แม้กระทั่งการเรียนก็มีตารางสอนบังคับ เขาไม่สามารถตัดสินใจเลือกวิชาและเวลาเรียนด้วยตัวเองได้! ครูอาจารย์จึงไม่มีบุญคุณกับพวกเขาเพราะกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน
ก่นด่ากฎหมายว่าไม่เป็นธรรม ไม่เท่าเทียม กดขี่คนให้ลงเป็นทาสของพวกนายทุน ขุนศึก ศักดินา และ เผด็จการ
ก่นด่าขนบธรรมเนียม จารีต ประเพณีว่าล้าหลัง เป็นเรื่องของพวกไดโนเสาร์เต่าล้านปี ที่พวกศักดินาใช้กดขี่และฉุดรั้งสังคมให้จมอยู่ในปลักตม ไม่สามารถพัฒนาประเทศได้
พวกเขาแค้นใจและละอายใจที่เกิดในประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ เพราะหลายประเทศที่ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมนั้นจึงเจริญรุ่งเรืองกว่าประเทศไทยมาก สังคมมีความเป็นธรรม มีความเท่าเทียมอย่างแท้จริง!
พวกที่เกิดในครอบครัวเก่าแก่ มีชาติตระกูลสูง หรือเคยมีอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมือง ก็ละอายใจที่ตนเกิดใน “ชนชั้นผู้ปกครอง” หรือ “ชนชั้นนายทุน ขุนศึก ศักดินา” เพราะตระกูลของพวกเขากดขี่ขูดรีดสังคม เป็นเหตุให้มีคนจน-คนยากไร้มหาศาลในประเทศนี้!
ขณะที่พวกเขาก่นด่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่นั้นก็ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในประเทศนี้...ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ และใช้ชีวิตอย่างอภิสิทธิชน ยังใช้เงินของพ่อแม่ อวดร่ำอวดรวยอวดชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เพื่อยกตนให้ได้รับการชื่นชมยกย่องและได้เฉิดฉายอยู่ในสังคม
พวกเขาได้ไปเรียนสูงๆ ในเมืองนอก ในเป็นประเทศที่พวกตนยกย่องว่ามีอารยะ ทั้งที่ก่นด่าว่าเป็นประเทศจักรวรรดินิยม! อันเป็นปรปักษ์กับลัทธิคอมมิวนิสต์ เมื่อกลับมาเมืองไทยก็มีหน้ามีตาในสังคม ได้ทำงานที่ดีกว่า-สูงกว่าพวกชนชั้นกรรมาชีพ ที่พวกเขาสงสารน้ำตาจะไหลทุกครั้ง เมื่อนึกถึงขณะที่กินอาหารในร้านหรูเมนูแพง
พวกเขามั่วสุมกันพูดเรื่องการปฏิวัติประเทศให้เป็นธรรม มีความเท่าเทียม
นั่นคือ “การปฏิวัติสังคมนิยม” เพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในปัจจุบันเป็นระบอบสังคมนิยม(คอมมิวนิสต์)
เพื่อจะได้ทำลาย “ชนชั้นผู้กดขี่” และ “สร้างชนชั้นของผู้ถูกกดขี่” ขึ้นปกครองประเทศ ที่พวกเขาเรียกว่า “ตัวแทนของชนชั้นผู้ถูกดขี่”!
ยุคนั้นผ่านไป เชื้อความคิด-ความเชื่อดังกล่าวก็ยังมีคนจำนวนมากสืบทอดมาจนถึงวันนี้ มันถูกบ่มเพาะอยู่ในสถาบันการศึกษาและแพร่กระจายออกไปสู่สังคมวงกว้าง เราจึงยังพบผู้คนที่รับเชื้อความคิด-ความเชื่ออย่างนั้นมากขึ้นทุกวัน
ซ้ำยังมีพรรคการเมืองเป็นแกนหลักสำหรับพวกเขาด้วย!
คนในยุค 6 ต.ค.2519 มีพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเป็นแกนหลัก แต่เป็นพรรคที่ผิดกฎหมาย แต่ในปัจจุบันพวกเขามีพรรคการเมืองที่เป็นแกนหลักถูกต้องตามกฎหมาย จึงปฏิบัติงานทั้งใต้ดิน-บนดินได้อย่างกว้างขวางและแทรกซึมไปได้ทั่วทุกพื้นที่ในสังคมไทย
ผมจึงไม่แปลกใจว่าทำแม้ล่วงมาถึงยุคนี้แล้ว...ผู้คนอยู่ดีกินดีมากขึ้น มีการศึกษามากขึ้นความเจริญรุ่งเรืองทางวัตถุมากขึ้น แต่กลับโง่เขลาและอวดรู้มากขึ้น เสพติดลัทธิสังคมนิยม(คอมมิวนิสต์) ปลอมๆ ได้ง่ายขึ้น สามารถนำมันมาใช้สร้างและอวดอัตตาได้รวดเร็ว ใช้หาแสงเพื่อความโด่งดัง-สร้างมูลค่าเพิ่มให้ตนได้ง่ายขึ้น และมีอาการคลั่งลัทธิยิ่งกว่าเสพยาบ้ามากนัก
การเป็นนักสังคมนิยม หรือนักต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม เพื่อความเท่าเทียมในปัจจุบัน ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ไม่ต้องแม้แต่จะศึกษาหาความรู้ แค่ประกาศว่าตนเป็น
นักสังคมนิยมก็พอแล้ว จนลัทธิสังคมนิยมกลายเป็น “ลัทธิบริโภคนิยม” อย่างหนึ่ง แต่มันอันตรายกว่าเสพติดการบริโภควัตถุสิ่งของในโลกมากนัก
มันอันตรายกระทั่งลัทธิสังคมนิยมเอง!
พวกคลั่งยาบ้านั้นทำร้ายคนไม่กี่คน แต่พวกเสพติดลัทธิสังคมนิยม(คอมมิวนิสต์)นั้น “คลั่งความคิด-ความเชื่อ” และพยายามจะทำลายคนทั้งประเทศที่ไม่ได้เสพติดลัทธิอย่างพวกเขา
อย่าให้คนพวกนี้มีอำนาจครองประเทศ
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี