วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ความฝันของ “ลัทธิเอเลี่ยน” คือสังคมที่ไร้ชนชั้น ไม่มีผู้ปกครอง ไม่มีผู้ถูกปกครองทุกคนมีกินมีใช้ อยู่ในสังคมที่สันติ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เท่าเทียมเพียบพร้อม คือ “สังคมคอมมิวนิสต์” อย่างที่ดร.ปรีดีเรียกว่า “สังคมพระศรีอาริย์”
แต่ก่อนจะถึงวันนั้นจะต้องผ่านสังคมที่เรียกว่า “สังคมนิยม” อันเป็นช่วงต้นของคอมมิวนิสต์ก่อน ซึ่งจำเป็นต้องมี 2 ชนชั้น คือ “ชนชั้นผู้ปกครอง” กับ “ชนชั้นผู้ถูกปกครอง”
ชนชั้นผู้ปกครองมาจากชนชั้นกรรมาชีพ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชนชั้นกรรมาชีพ (ถ้าดูของจริงในสหภาพโซเวียตกับจีนในยุคปฏิวัติสังคมนิยม ผู้ที่เป็นตัวแทนของชนชั้นกรรมาชีพก็คือพวกหัวโจกที่ปลุกปั่นคนทั้งประเทศและนำการปฏิวัติ ส่วน “ชนชั้นผู้ถูกปกครอง” ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน....ก็พวกชนชั้นกรรมาชีพ ชาวไร่ ชาวนา ประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมปฏิวัติ
ก่อนการปฏิวัติก็เป็นชนชั้นกรรมาชีพ เช่นเป็นชาวนา ชาวไร่ กรรมกร เมื่อปฏิวัติเสร็จก็ยังคงทำหน้าที่อย่างเดิม แต่ต้องทำมากขึ้น ตามคำขวัญที่ว่า “ทำงานเต็มกำลังความสามารถ กินใช้เท่าที่จำเป็น” เพื่อส่งผลผลิตและสิ่งของที่ผลิตได้ให้ชนชั้นผู้ปกครองหรือรัฐบาล เพื่อ “บริหารจัดการ” นำไปพัฒนาประเทศและระบอบสังคมนิยมให้รุ่งเรือง
สังคมนิยมและคอมมิวนิสต์นั้นเป็นภาพฝันอันแสนโรแมนติก จึงมีคนมหาศาลฝันค้างมาจากการปฏิวัติสังคมนิยมในประเทศต่างๆ เมื่อศตวรรษที่แล้ว และดื่มด่ำกับฝันนั้นมาจนวันนี้ หลายคนตายคาภาพฝันไปแล้ว หลายคนยังดื่มด่ำกับความฝันนั้นอยู่ และยุงยงปลุกปั่นคนรุ่นหลังให้หลงใหลใฝ่ฝันภาพฝันนั้น เพื่อจะได้ต่อสู้แทนพวกตน ทำภาพฝันให้เป็นความจริง เรียกอย่างเท่ว่า “อุดมการณ์”
ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่จึงตกเป็นเครื่องมือ เป็นเหยื่อของกันและกัน เพื่อบรรลุถึงภาพฝันนั้น
มีคนรุ่นหลังมหาศาลที่หลงเชื่อเข้าไปในกับดักแห่งความฝันนั้น และด้วยพลังแห่งวัยหนุ่มสาวจึงเสี่ยงชีวิต เสี่ยงคุก เสี่ยงการเนรเทศตัวเอง และตาย เพราะทำผิดกฎหมาย หลายคนก็ประสบชะตากรรมดังกล่าวไปแล้ว
แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่ฝันต่อตามที่ถูกฝังหัวมาว่า “ตายสิบ เกิดแสน”! เพื่อต่อสู้จนประเทศนี้จะเป็นรัฐสังคมนิยมในที่สุด!
แต่ถ้าคนพวกนี้หยุดฝันชั่วครู่ แล้วดูสังคมในปัจจุบันให้เห็นความจริงที่กำลังเป็นอยู่ ก็คือ “ระบบทุนนิยมหรือตลาดเสรี” กำลังสร้างสังคมขั้นต้นที่จะนำไปสู่สังคมนิยมอยู่อย่างทุ่มเท!
นั่นคือ...พวกอภิมหาเศรษฐีกำลังยึดครองเพิ่มพูนทรัพย์สินกันมากขึ้น มันเป็นการปลาใหญ่กินปลาเล็ก จนกลายเป็นการผูกขาดมากขึ้นเรื่อยๆด้วยการร่วมมือกับอำนาจรัฐ (นักการเมืองและข้าราชการ) อีกไม่นานนักทรัพย์สินและทรัพยากรธรรมชาติจะถูกมหาเศรษฐีพวกนี้ยึดครองมากขึ้น จนผู้คนทั่วไปกลายเป็นพนักงานของพวกเขา และต้องปฏิบัติตามกฎกติกาของพวกเขา (รัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระเบียบ) แม้แต่พวกอาชีพอิสระและเกษตรกรก็ไม่พ้นเงื้อมเงาแห่งอำนาจพวกเขา
คนเหล่านี้จะไร้สมบัติ เรียกตามศัพท์แบบเท่ว่า “ชนชั้นที่ไร้สมบัติ” เรียกแบบสังคมนิยมก็คือ “ชนชั้นกรรมาชีพ”
ส่วนพวกอภิมหาเศรษฐีนั้นคือเจ้าของรัฐหรือเจ้าของประเทศ เรียกแบบสังคมนิยมก็คือ “เผด็จการชนชั้นผู้ปกครอง” แต่ซ่อนรูปแปลงร่างอยู่ในเสื้อคลุมประชาธิปไตย
ผู้ปกครองในระบอบสังคมนิยมกับระบบทุนนิยมหรือตลาดเสรี จึงไม่ต่างกันโดยสาระ แต่แตกต่างกันเพียงวิธีการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น
สังคมนิยมได้ครองอำนาจรัฐจากการปฏิวัติ ใช้กำลังและความรุนแรง เข่นฆ่าทำลายล้าง ควบคุมบังคับ เป็นเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ผู้ปกครองในระบอบทุนนิยมหรือตลาดเสรีนั้นใช้วิธีการผลิตสินค้าและการตลาด กับอำนาจรัฐที่พวกตนสนับสนุนและควบคุมอยู่ พวกเขาใช้อำนาจรัฐทั้งโดยตรงและโดยอ้อม โดยตรงนั้นใช้ในองค์กรต่างๆ ของรัฐ โดยอ้อมนั้นผ่านระบอบเลือกตั้ง...ที่ผู้รับเลือกตั้งและผู้เลือกตั้งส่วนมากโง่และโลภ จนไม่รู้ว่าตนกำลังจะถูกเขมือบ
หรือแม้แต่การรัฐประหารก็ยังอยู่ในอำนาจควบคุมของพวกเขา
เผด็จการในระบอบทุนนิยมหรือตลาดเสรีจึงเป็นเผด็จการแบบเขมือบ หรือ “น้ำร้อนปลาเป็นน้ำเย็นปลาตาย” ในระบอบประชาธิปไตย (มันเป็นอีกชื่อหนึ่งของระบอบทุนนิยมหรือตลาดเสรี เช่นเดียวกับเหรียญมี 2 ด้าน)
ดังนั้น ภาพฝันของสังคมนิยมนั้นเป็นจริงได้ ซึ่งไม่ใช่วิธีของสังคมนิยมแบบเก่าแต่เป็นวิธีของทุนนิยมหรือตลาดเสรีที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือและอาวุธ โดยมีอภิมหาเศรษฐีเป็นชนชั้นผู้ปกครอง และประชาชนเป็นชนชั้นกรรมาชีพ!
(เขียนจบก็อยากหัวเราะ)
วิมล ไทรนิ่มนวล

ปชป. ร่อนแถลงการณ์ ซัด พรรคส้ม ออกลูกงอแงหวังประโยชน์แก้ รธน. ยอมเอา ‘อธิปไตยชาติ’ มาเสี่ยง
ยุบสภา อนุทิน ยันแล้ว คืนอำนาจให้ประชาชน
คอนเฟิร์ม! นายกฯอนุทิน ยื่นยุบสภาแล้ว เผยต่อรอง ปชน. ชี้ สั่ง สว.ไม่ได้ ไม่โหวตตัดอำนาจ
สะพัด อนุทิน ยื่นยุบสภาคาไว้แล้ว ตั้งแต่เย็นวันนี้ ตัดหน้า ‘ปชน.’ ล่าชื่อซักฟอกรัฐบาล
สื่อนอกตีข่าว เหตุปะทะเดือดชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือน2ประเทศอพยพแล้วครึ่งล้านคน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี