สวัสดีปีใหม่อีกครั้งหนึ่งนะครับ หวังว่าทุกๆ ท่านและครอบครัวคงได้ไปพักผ่อนหย่อนใจ ไปเติมพลังชีวิตให้แก่ตนเองมาเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้พร้อมทั้งกายและใจที่จะทำงานที่ท่านรัก ถนัดต่อไป เพื่อที่จะมีส่วนในการช่วยพัฒนาประเทศชาติให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป
ปีใหม่นี้คงจะเป็นปีที่ดีของทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดหรือทีมปีศาจแดง หรือผีแดง ภายหลังที่ท่าน Sir Alex Ferguson เกษียณตัวเองในปี ค.ศ.2013 หรือเกือบ 9 ปีมาแล้ว แมนยูตกต่ำมากมี David Moyes, Louis Van Gaal, Jose Mourinho และ Ole Gunnar Solskjaer มาเป็นผู้จัดการเรียงตามลำดับ มี Ole คนเดียวเท่านั้นที่เป็นลูกหม้อ นักฟุตบอลเก่าของแมนยู เป็นคนที่น่ารัก มีจิตใจดี เป็นนักเตะกองหน้าที่เป็นตัวสำรองที่ยิงประตูได้ระเบิดเถิดเทิง แต่ช่วงเวลา 3 ปีที่เป็นผู้จัดการได้พิสูจน์ให้ทุกๆ คนเห็นแล้วว่าการที่จะเป็น “nice guy” หรือนักเตะที่เก่ง ไม่ได้การันตีว่าจะเป็นผู้จัดการที่ดี ผู้จัดการที่ดีนอกเหนือจากส่วนดีที่ Ole มีแล้ว ยังต้องมีความอำมหิต กล้าตัดสินใจ กล้าชนกับนักกีฬา กล้าเลือก กล้า drop (ทิ้ง) นักเตะออกจากทีม ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนถ้าอยู่ในช่วงที่เล่นไม่ดี หรือมีนิสัยที่ไม่ดี
และจะต้องดูผู้เล่นออกว่า เก่งอย่างไร เก่งอะไร เล่นที่ไหนจึงจะดีที่สุด กองหน้า กองกลาง กองหลัง กองกลางตัวรับ กองกลางตัวรุก เป็นกองหน้าเล่นเป็นตำแหน่งอะไร ปีกซ้ายหรือขวา ฯลฯ ต้องรู้จักเอาคนต่างๆ ตามความสามารถของแต่ละคนมาผนึกรวมกันให้เป็นทีมที่เข้มแข็ง ต้องมีความสามารถในการปลุกระดมลูกทีม ให้สามารถเล่นเหนือความสามารถ ทักษะที่ตนเองมี อย่างเช่น Sir Alex สามารถทำให้นักกีฬาที่เล่นไม่เก่งมาก เล่นได้ดีเกินคาด ทำให้เกิดความเชื่อมั่น ฮึกเหิม
Ole ยังเลือกคนไม่เป็น ผสมคนต่างๆ ให้เป็นทีมที่เข้มแข็งไม่เป็น ยังใช้คนไม่ตรงกับความสามารถ ความถนัดของเขา เช่น Sancho ซื้อมามีค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ถนัดเล่นปีกขวาแต่ดันให้ไปเล่นปีกซ้าย Fred ถนัดเป็นกองกลางตัวรุกเอาไปเป็นกองกลางตัวรับทำให้เล่นไม่ดีเลย ทั้งๆ ที่พอเล่นให้ทีมชาติ Brazil ในตำแหน่งที่ถนัด เล่นได้ดีมาตลอดเวลา ซื้อ Donny van de Beek มา 35 ล้านปอนด์ แต่ไม่เรียกให้ลงสนามเลย ฯลฯ
Ole มี tactic หรือระบบการเล่นไม่ดี พอ Raft Rangnick มาคุมเกมๆ เดียวเปลี่ยนวิธีเล่นเป็น 4-2-2-2 Man U ก็เล่นได้ดีเลย ทั้งๆ ที่ผู้เล่นก็คนเดิม แต่เปลี่ยนวิธีเล่น ตำแหน่งที่ยืน เล็กน้อย ก็ดีขึ้นผิดหูผิดตา และเล่นบุกล่าลูกตลอด ไม่ยอมให้คู่แข่งครองลูกได้นานๆ
ผมเองก็เสียดาย และสงสาร Ole มาก ซึ่งเป็นคนดีมาก มองคน ลูกทีมในแง่ดี ไม่ด่าใคร ชมทุกคนตลอด แม้กระทั่งหลังถูกไล่ออกแล้วก็ยังพูดดีต่อทุกๆ คน ตั้งแต่เจ้าของสโมสร ผู้บริหารสโมสร นักฟุตบอลทุกคน ทั้งๆ ที่เล่นไม่เอาไหนเลย จะว่าเป็นความผิดของผู้จัดการก็ใช่ แต่ก็เป็นความผิดของนักเตะด้วยทุกๆ คนดัง เก่ง กินเงินเดือนไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่เล่นแบบไม่รับผิดชอบเอาเสียเลย ผมว่าทีมแมนยูจ้างนักกีฬาแพงไป แพงกว่าหลายๆ ทีมในระดับเดียวกันด้วยซ้ำไป
ในความเห็นของผม ผู้จัดการทีมมีความสำคัญเป็นที่สุด แต่สโมสรต้องสนับสนุนเต็มที่ด้วย ตัวอย่างคือ Frank Lampard ดาราดังของทีม Chelsea พอมาเป็นผู้จัดการไม่เอาไหนเลย พอสโมสรเปลี่ยนมาเป็น Tuchel นักกีฬาเดียวกันด้วยซ้ำไป Tuchel ในฤดูกาลนั้นยังสามารถทำให้ Chelsea เป็นแชมป์ยุโรปได้!!? ก็หวังว่า
Raft Rangnick จะช่วยกอบกู้สถานการณ์ของแมนยูไว้ได้อย่างน้อยก็จบฤดูกาลด้วยการเป็นที่ 4 ของ Premier Leagueซึ่งจะทำให้มีสิทธิ์ไปเล่นถ้วยยุโรป
ผมชอบ Raft เพราะพูดจาเก่ง ดี วิเคราะห์บอลเป็น เคยมาเรียนที่อังกฤษ 1 ปีที่ University of Sessex ทำให้เข้าถึงภาษาอังกฤษ คนอังกฤษ football อังกฤษ รู้วัฒนธรรมอังกฤษ แมนยูได้เป็นอย่างดี ผมฟังการสัมภาษณ์ของเขา เขาพูดดีมาก มีเหตุผลไม่เพ้อเจ้อ มีที่มาที่ไปของคำพูดต่างๆ ทำให้ผมคิดว่าผู้บริหารแมนยูน่าที่จะพิจารณาให้เขาคุมทีมแบบถาวรไป 2-3 ปีไปเลยถ้าสัญญา 6 เดือนนี้จบลงด้วยดี
ผมดีใจที่ Raft Rangnick เอานักจิตวิทยาทางด้านกีฬามาช่วยทีมแมนยู แต่แปลกใจที่เขาพูดว่า ประเทศเยอรมนีใช้นักจิตวิทยาทางด้านกีฬามาไม่กี่ปี สำหรับผม ผมมองเห็นความสำคัญของจิตวิทยาต่อการกีฬาเป็นอย่างมาก สมัยที่ผมได้รับเชิญจากท่าน พล.อ.ชัยณรงค์ หนุนภักดี ที่ล่วงลับไปแล้ว ตอนที่ท่านเป็นนายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยให้ผมเป็นประธานฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา ผมได้รวบรวมบุคลากรทางด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์การกีฬามารวมตัวกันเป็นทีมทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาคือ มีแพทย์ยี่ห้อต่างๆ เช่น หัวใจ กระดูก เวชศาสตร์ฟื้นฟู ระบบทางเดินอาหาร สูตินรีวิทยา สรีรวิทยา โภชนาการ จิตวิทยา ฯลฯ มาร่วมกันเป็นฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญทางสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ไม่ใช่แพทย์อีกด้วย เช่น นักพละ นัก biomechanics ฯลฯ ผมได้เห็นความสำคัญของนักจิตวิทยาสำหรับนักกีฬามานานแล้ว ตอนเป็นประธานฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาของกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา 2551-2554 ยังได้เชิญจิตแพทย์มาเป็นอนุกรรมาธิการอีกด้วย
สำหรับผมในวันแข่ง เช่น ชิงแชมป์วิมเบลเดิล French,US, Australia Open หรือ FA Cup Final, European Cup Final etc. สิ่งที่สำคัญที่สุดในวัน “D Day” นั่นก็คือ พละกำลังต้องไม่ตก จิตใจต้องนิ่ง เข้มแข็ง ต้องสู้ตาย กัดไม่ปล่อย ไม่ยอมแพ้ “มีสิบนิ้วเหมือนกัน” “ไม่ต้องกลัวมัน ไม่ใช่พ่อแม่เรา อะไรทำนองนั้น” ฯลฯ
ไม่ใช่ว่าเรื่องอื่นๆ ไม่สำคัญ แต่วิธีการเล่น เทคนิคระบบการเล่นดีแล้วในวันแข่ง หรือสายไปแล้ว (ยกเว้นการแก้เกมถ้าผลออกมายังไม่ดี) แต่วันนั้นแรงเราต้องไม่ตก และใจเราต้องนิ่ง เราต้องไม่ปอดแหกใคร ไม่กลัวใคร ซึ่ง 2 อย่างนี้นักโภชนาการ และนักจิตวิทยาเท่านั้นที่จะช่วยเราได้
ผมจึงแปลกใจที่ Ralf พูดว่า Germany เอานักจิตวิทยามาช่วยภายในไม่กี่ปี ทั้งๆ ที่ผมทำมานานแล้ว!!?
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี