ผมโชคดีที่ได้มีโอกาสเดินทางกับหน่วยทางเดินอาหารจุฬา (GICU) ไปที่รพ.ประจำจังหวัดเพชรบุรี หรือ รพ.พระจอมเกล้า เพชรบุรี เพื่อตรวจคัดกรองประชาชนที่มีความเสี่ยงต่อการมี “ว่าที่”มะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะเริ่มแรก รวมทั้งตรวจคัดกรองหาโรคไขมันสะสมในตับด้วยการตรวจด้วยเครื่องมือ fibroscan ที่เป็นเครื่องมือที่ดีมาก แพงมาก แต่รพ.จังหวัด ศูนย์ ควรมีทุก รพ. เพราะตรวจง่ายมากไม่เจ็บตัว ใช้เวลา5-10 นาที แทนการตรวจด้วยการเจาะเนื้อตับ สามารถตรวจดูไขมันในตับในปริมาณต่างๆ รวมทั้งว่ามีพังผืด (fibrosis) หรือไม่ การมีพังผืดไม่ดีถ้ามีมากๆ อาจเป็นได้ถึงโรคตับแข็ง และต่อมาเป็นมะเร็งของตับได้
ในการไปครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 6 ที่เราไปตรวจด้วยวิธีการต่างๆ นี้ให้ประชาชนในจังหวัดเพชรบุรี และเป็นครั้งที่ 2 ที่มีนิสิตแพทย์ (นสพ.)หลักสูตรนานาชาติ รุ่นที่ 2 ประมาณ 34 คนร่วมไปด้วย และผมได้รับเชิญให้พูดคุยกับ นสพ.ว่าทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมีความสุข และทางหน่วยยังได้เชิญอดีตท่านเอกอัครราชทูตพิศาล มาณวพัฒน์ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นสมาชิกวุฒิสภา และเป็นกรรมาธิการการสาธารณสุขไปร่วมบรรยายด้วย นสพ.หลักสูตรนี้จบ ป.ตรีมาแล้วทั้งนั้น บางคนจบโท และบางคนจบ ป.เอก มาแล้ว
วิธีการที่จะช่วยทำให้ทุกๆ คนประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมีความสุขมีความสำคัญมากต่อทุกๆ คนในโลกนี้ บางคนอาจจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่ไม่มีความสุข บางคนอาจรวยมาก แต่ไม่มีความสุข บางคนอาจรวยมาก แต่มีปัญหาเรื่องสุขภาพของตนเอง หรือมีปัญหาทางครอบครัว ฯลฯ
ผมจึงขอเอาประสบการณ์จริงของผมที่สะสมมาอย่างนานนมเน รวมแล้วถึง 80 ปี รวมทั้งจากการอ่านเกี่ยวกับประเด็นนี้ มาสอนให้ นสพ.ฟัง และเมื่อสอนเสร็จจึงขอนำข้อมูลต่างๆ นี้มาเสนอให้ท่านผู้อ่านพิจารณา เผื่ออาจเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน ลูกหลาน หรือเพื่อนฝูงได้บ้าง
ก่อนอื่นคำว่า success หรือการประสบความสำเร็จมีความหมายไม่เหมือนกันในแต่ละคน และความต้องการหรือเป้าหมายอาจจะเปลี่ยนไปตามอายุ เช่น ตอนเป็นเด็กขอให้เรียนดี สอบเข้า รร.อนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัยได้ ต่อมาอาจเป็นการหางานที่ดีทำ ที่มีรายได้ดี อีกหน่อยอาจจะเป็นการหาคู่ครองที่ดี มีลูกหลานที่ดี เก่ง รอบรู้ สุขภาพดี มีฐานะดี มีสุขภาพที่ดี เป็นแพทย์ที่ดี เป็นศาสตราจารย์ ฯลฯ
ผมต้องขอบอกก่อนเลยว่า ทุกๆ คนสามารถที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ถ้ามีนิสัยต่างๆ ดังต่อไปนี้
ต้องมี growth mindset หรือทัศนคติที่เป็นบวก ทัศนคตินี้มาจาก Carol Dweck Carol เป็น Lewis and Virginia Eaton ศาสตราจารย์ทางจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัย Stanford University ของอเมริกา
Carol บอกว่า Growth mindset คือ การมีทัศนคติที่เป็นบวก คือมีความเชื่อว่า “ทุกๆ คนสามารถพัฒนาตนเองได้ด้วยความขยัน และการกระทำ หรือถ้าจะพูดแบบภาษาผมคือ “ความโง่พัฒนาได้” (คือให้ฉลาดขึ้นนะครับ ไม่ใช่ให้โง่มากขึ้น 555)
ส่วนทัศนคติที่ตรงข้ามกับ Growth mindset คือ fixed mindset คือมีความเชื่อว่าคนเราเกิดมาฉลาดได้แค่นั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ คนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยสู้ จะไม่ค่อยลุย จะยอมแพ้ง่ายๆ
ฉะนั้นประเด็น คือ ทุกๆ คนสามารถพัฒนาตนเองได้ในทุกเรื่องถ้ามี growth mindset และถ้าขยัน กัดไม่ปล่อย ไม่ยอมแพ้ ฯลฯ
แต่ต้องรักในสิ่งที่ทำ และต้องทำในสิ่งที่รักและต้องทำ (ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอะไร) เต็มที่ 100%
เพราะถ้าเราไม่รักในสิ่งที่ทำ หรือทำในสิ่งที่ไม่รัก เราจะไม่ค่อยสนุกกับสิ่งที่เราทำ จะไม่ค่อยมีกำลังใจ ไม่มีอะไรมากระตุ้นเรา ทุกๆ นาทีจะเป็นการทรมาน ทำให้เหนื่อยง่าย เบื่อ เหมือนตกนรกทั้งเป็น!?
อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอังกฤษ Dame Margaret Thatcher เคยกล่าวว่า “I do not know anyone who has got to the top without hard work. That is the recipe. It will not always get you to the top but should get you pretty near”
หรือแปลเป็นไทย คือ ท่านไม่รู้จักใครที่ไปถึงจุดสุดยอดโดยไม่ทำงานอย่างหนัก นั่นคือ เคล็ดลับ ถึงแม้มันอาจไม่ทำให้เราไปถึงยอดสุดทุกครั้ง แต่ก็จะทำให้ไปถึงแถวๆ นั้น หรือใกล้เคียง
สรุปคือ ต้องคิดบวก ต้องขยันสุดๆ ต้องรักในสิ่งที่ทำ ต้องไม่ยอมแพ้ และต้องพยายามทำทุกวิถีทางที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ
Maya Angelou เคยกล่าวไว้ว่า “You may encounter manydefeats, but you must not be defeated” หรือแปลเป็นไทยก็คือ “อาจพบปัญหาระหว่างทางมากมาย แต่ต้องไม่ยอมแพ้” ซึ่งผมเองคิดว่าถ้าเข้าใจภาษาอังกฤษดี ภาษาอังกฤษให้ความหมายดีกว่า หรืออาจจะพูดเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า “You may lose the battle but you mustnot lose the war” และคำกล่าวอีกอันหนึ่งที่ผมชอบมาก คือ “When the going gets tough, the tough gets going” ซึ่งแปลเป็นไทยความหมายอาจไม่ซึ้งเท่า แต่ก็เป็นอะไรทำนองนี้คือ “เมื่อการทำอะไรมีปัญหา นักสู้จะถลกแขนเสื้อและลุย”
ในการทำงาน เราทำงานคนเดียวไม่ได้ ฉะนั้นเราต้องหามีทีมงานที่ดี ที่คิด มีปรัชญาเดียวกับเรา
การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าวางแผนดีๆ จะกำชัยชนะไปแล้วครึ่งหนึ่ง ฉะนั้นการคิดเก่ง คิดนอกกรอบ คิดสร้างสรรค์ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมาก ฉะนั้นการมีข้อมูลที่ดีจึงสำคัญมาก
และแน่ละการที่จะขยันเต็มที่ กัดไม่ปล่อย บางครั้ง บางวัน หลายๆ วัน ต้องทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำ ร่างกายจึงต้องแข็งแรง ฉะนั้นเราต้องมีสุขภาพที่ดี จะได้ทำงานเต็มร้อย เกินร้อยได้
และต้องมีทัศนคติที่ต้องการ อยากเรียนรู้ อยากพัฒนาตลอดชีวิต และไม่ต้องกลัวความผิดพลาด แต่เมื่อผิดพลาดแล้วต้องเอามันมาเป็นบทเรียน
คุณสมบัติที่เราต้องมีเพื่อที่จะประสบความสำเร็จที่ผมสอน นสพ.แพทย์ ประชาชนมานานแล้ว คือ ต้องเป็นคนดี (จะมีความสุข) ที่เก่ง รอบรู้ และมีสุขภาพดี ซึ่งรายละเอียดผมเขียนไว้บ่อยแล้ว
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี