จิตใจ มีหน้าที่สำหรับคิดและรู้สึก
ถ้าคิดดี คิดเป็น ก็มีความสุข ถ้าคิดไม่ดีคิดไม่เป็น ก็จะเติมความทุกข์ให้ชีวิตทุกๆ วัน
ผมมีผู้ทุกข์ที่มาปรึกษา อายุ 50 ปี เป็นนักบริหารชาย ฐานะการเงินดีแต่ไม่มีคู่ครอง อยากมีเหลือเกินแต่ก็หาไม่ได้ ทุกๆ วันคิดแต่เรื่องอยากมีคู่ครอง ทำให้ทุกข์มากขึ้นจนรู้สึกเป็นปมด้อย เลยยิ่งโหมงานหนักและอารมณ์เสียบ่อยมากขึ้น เขาพยายามแล้วทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่พบคนถูกใจ เขาทุกข์มากจนไม่อยากทำงาน เพราะมัวหมกมุ่นกับความคิดที่ว่าหาคู่ครองไม่ได้สักที และคิดซ้ำๆ อยู่เสมอ
ความทุกข์ของผู้ทุกข์รายนี้เป็นความทุกข์แบบซ้ำซ้อน เพราะคิดซ้ำไปซ้ำมาในเรื่องที่ตนเองไม่มี จึงทุกข์กว่าคนอื่นที่คิดไม่ซ้ำมากนัก เขาทุกข์มากจนจะเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องอื่นๆ ที่เขามีอยู่แล้วดีอยู่แล้วเสียด้วยซิ
การจะแก้ไขความคิดซ้ำๆ ถึงสิ่งที่ไม่มีนี้ ทำได้ไม่ง่ายนัก เพราะเป็นบุคลิกภาพของแต่ละคน บางคนจะหาทางออกได้ง่าย บางคนยาก...มาก
ลองๆ ฟังนิทานเรื่องนี้ดูบ้างซิ เผื่อบางคนจะหาทางออกได้จากนิทานเรื่องนี้บ้าง...
มีเศรษฐีคนหนึ่งเป็นคนหัวล้านเขามักจะโกรธมากถ้ามีใครมาพูดอะไรเกี่ยวกับคำว่า หัวล้าน หัวโล้นเศรษฐีคนนี้จึงมีลักษณะหัวล้าน ใจน้อย และมีความทุกข์มาก
วันหนึ่งมีเพื่อนมาเยี่ยมซื้อแตงโมมาฝาก เศรษฐีคิดว่าเขาแกล้งซื้อเอามาล้อเลียนจึงโกรธเพื่อนมากเดินลงจากบ้านไป ขณะที่เขาเดินผ่านคนตาบอดคนหนึ่ง เขาได้ยินเสียงคนตาบอดหัวเราะ ใจก็ระแวงว่าคนตาบอดคงจะหัวเราะเยาะเขาจึงถามด้วยเสียงโกรธว่า หัวเราะทำไม อยากมีเรื่องหรือ?
ชายตาบอดตอบว่าเขาตาบอดเขามองอะไรในโลกของความจริงไม่เห็นเลย เขามีความทุกข์มากอยู่แล้วจากการตาบอด เขาจึงใช้จินตนาการนึกถึงภาพที่มีความสุขสนุกอยู่เสมอๆ ยามได้ยินเสียงอะไรมากระทบหู ซึ่งจะทำให้เขามีความสุขเพิ่มขึ้นได้และเขาจะไม่คิดถึงความเป็นคนตาบอดของเขาเลย
เขาบอกว่าเกิดเป็นคนตาบอดก็ทุกข์อยู่แล้ว ยังจะให้คิดถึงความทุกข์จากการเป็นคนตาบอดซ้ำๆ อยู่อีกหรือ?
เศรษฐีได้ฟังแค่นั้นก็เกิดความคิดนึกได้ว่าแม้ตัวเขาเองจะหัวล้านแต่ก็สามารถจะหาความสุขได้โดยไม่ต้องคิดถึงการมีหัวล้านตลอดเวลา และควรคิดถึงสิ่งอื่นเสียบ้าง
เศรษฐีดีใจมากจึงผูกมิตรกับคนตาบอดที่ให้สติ ให้ความคิด จึงชวนคนตาบอดไปทำบุญถวายอาหารพระที่วัด เมื่อไปถึงวัดเศรษฐีก็กราบพระที่นั่งอยู่ตรงหน้า และบอกให้คนตาบอดกราบพระด้วย
คนตาบอดก้มกราบพระแต่กราบผิดทิศเพราะมองไม่เห็น จึงกราบไปอีกทางหนึ่งที่มีสุนัขนอนอยู่ เศรษฐีจึงบอกว่าเขากราบผิดทิศกลายเป็นกราบสุนัขไป จะให้เขากราบใหม่
คนตาบอดบอกว่าเขากราบไม่ผิดหรอกเพราะเขากราบทุกครั้งก็ถูกทิศทางพระถึงพระทุกที เพราะใจเขาคิดถึงพระทุกครั้งที่กราบ ใจของเขาจะจดจ่ออยู่ที่พระอยู่แล้ว เศรษฐีจึงเข้าใจเรื่องของจิตใจและความคิดได้ดีขึ้น
ฟังนิทานเรื่องนี้แล้วได้คิดอะไรบ้างไหม? คนจะมีความทุกข์ความสุขนั้นอยู่ที่ใจของเรารู้จักคิดอย่างไรถ้าใจคิดดี คิดเป็น ก็จะเกิดความสุข ถ้าคิดไม่ดี คิดไม่เป็น ก็จะมีความทุกข์
การคิดถึงสิ่งที่ไม่มีซ้ำๆ จะเป็นการสร้างภาพของความขาดให้ชัดขึ้น ใหญ่โตขึ้น จึงทำให้เป็นทุกข์ได้มาก เหมือนชายที่ไม่มีคู่ครองหรือเศรษฐีหัวล้านของนิทานเรื่องนี้ที่คิดซ้ำๆ จนมีความทุกข์มาก
ถ้าเรารู้อย่างนี้แล้วเราก็ไม่ต้องคิดซ้ำๆ ในเรื่องที่เราไม่มีหรือขาดอยู่อีกต่อไปนะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี