ผมได้ยินคนพูดบ่อยๆ ว่าจะไปเที่ยวทะเล ภูเขา ป่า เสียหน่อยจะไปสูด ozone (O3 โอโซน) ให้ฉ่ำปอด!
วันนี้จึงอยากเอาคำว่า โอโซน มาให้พวกเรารู้จักกันครับ
โอโซนเป็นแก๊ส พบได้ในโลกนี้ที่ 2 แห่ง คือ ที่ผิวโลกที่เราอยู่ (troposphere) และที่ความสูงจากผิวโลกประมาณ 10-15 กม. หรือที่เรียกว่า stratosphere ที่ที่ โอโซนอยู่ เราเรียกเป็นชั้นโอโซน (ozone layer)
โอโซนที่อยู่บนผิวโลกนั้นมีพิษต่อร่างกาย ถือว่าเป็น greenhouse gas (GHG ก๊าซเรือนกระจก) ตัวหนึ่ง แต่โอโซนที่อยู่ในชั้นโอโซนมีประโยชน์ต่อโลกและมนุษย์ เพราะช่วยดูดซึมรังสี (radiation) ultraviolet B ที่มีอันตรายต่อคนและสิ่งมีชีวิตรวมทั้งต้นไม้ พืช และยังช่วยทำให้โลกไม่ร้อนมากเกินไป
ช่วงปี ค.ศ. 1970 จน 1990 มนุษย์ผลิตสารต่างๆ ที่ไปลดปริมาณโอโซนในชั้นโอโซนทำให้เกิด “รู” ขึ้นในชั้นโอโซน ทำให้มนุษย์และสิ่งที่มีชีวิตในโลกเสี่ยงต่อการได้รับ UV-B มากขึ้นทำให้มนุษย์มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง และปัญหาอื่นๆ ในปี 1987 ประเทศต่างๆ จึงได้มีการตกลงกัน (Montreal Protocol 1987)ที่จะลดการใช้สารที่จะลดปริมาณโอโซนในชั้นโอโซนลง ซึ่งการตกลงนี้ได้ผลดีเป็นอย่างมาก คือ ได้ลดปริมาณสารต่างๆ นี้ลงถึง 99% ทำให้ “รู” ของชั้นโอโซนเริ่มปิด
สารที่ลดปริมาณโอโซนลงใน stratosphere คือสารในกลุ่ม fluorocarbons เช่น chlorofluorocarbons (CFCs), hydrochlorofluorocarbons (HFCs) และ halon ก๊าซ ฯลฯ ที่ใช้ในตู้เย็น ยาดับกลิ่น (deodorants) และในอุตสาหกรรมต่างๆ
โอโซนเป็นก๊าซที่พบได้ในธรรมชาติ เกิดจากการรวมตัวของ 3 atoms ของออกซิเจนทำให้โอโซนมีคุณสมบัติที่ไม่คงที่ (stable) ทำให้มีการสร้างและทำลายได้ง่าย
โอโซนที่อยู่บนผิวโลก troposphere ถือว่าเป็น “bad” (“ไม่ดี”) โอโซน แต่มีน้อยกว่าโอโซนที่อยู่ใน stratosphere แต่โอโซนบนผิวโลกบางครั้ง บางแห่ง ก็มีมากได้ เพราะเกิดขึ้นได้จากท่อไอเสียรถ อุตสาหกรรม การใช้ไฟฟ้า และ chemical solvents (สารที่ละลายสารอื่นๆ ได้) ต่างๆ โอโซนที่ผิวโลกจึงเป็นสารก่อมลพิษ มีผลไม่ดีต่อมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีปัญหาทางระบบหายใจ ฯลฯ
ส่วนโอโซนในชั้นโอโซนดีต่อโลก เพราะมันดูดซึม 97-99%ของ UV-B-radiation ทำให้มนุษย์อยู่บนโลกนี้ได้
โอโซนมีผลต่อพันธุ์พืช (vegetation) และระบบนิเวศ เช่น ป่า สวน สัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผลไม่ดีต่อการเจริญเติบโตของพืช เมื่อโอโซนเข้าไปในใบของพืชจะลดการสังเคราะห์แสงของพืช (photosynthesis) ทำให้ต้นไม้ พืช ไม่เจริญเติบโต และยังทำให้ต้นไม้ พืช มีความเสี่ยงต่อการทำลายจากแมลง รวมทั้งจากสารที่ก่อมลพิษทั้งหลายที่เกิดจากสภาพดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปมาก
ทั้งหมดนี้ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของพืชต่างๆ ในระบบนิเวศ คุณภาพของที่อยู่อาศัย ระบบน้ำและอาหาร
โอโซนที่อยู่ในอากาศบนผิวโลกที่เราอยู่มีอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในวันที่มีแดดจัด ร้อน ซึ่งจะมีโอโซนในระดับสูงที่มีอันตราย แต่ถึงแม้มีโอโซนไม่มาก ก็ยังมีผลไม่ดีต่อสุขภาพได้
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการสูดโอโซนเข้าไปคือ ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด (asthma) เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่ทำงานหรือมีกิจกรรมนอกบ้าน รวมทั้งผู้ที่มีพันธุกรรมบางอย่าง ผู้ที่ขาดสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินซี และอี
เด็กมีอันตรายสูงสุด เพราะปอดกำลังเจริญเติบโต และเด็กๆ มักจะมีกิจกรรมนอกบ้าน และมักเป็นโรคหอบหืดมากกว่าผู้ใหญ่
โอโซนทำให้กล้ามเนื้อในระบบหายใจหดตัว(constrict) ทำให้กักลมในถุงลมเล็กๆ (alveoli) ทำให้หายใจเสียงดังฮืดฮาด และหายใจถี่ขึ้น (wheezing and shortness of breath) จนถึงหอบหืด
โอโซนทำให้มีอาการไอ เจ็บ หรือคันคอ หายใจลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหายใจลึกๆ แรงๆ หรือเจ็บเวลาหายใจลึกๆทำให้ระบบทางเดินหายใจอักเสบ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทำให้เกิดโรคปอดต่างๆ เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพอง(emphysema) หลอดลมอักเสบเรื้อรัง (chronic bronchitis)เป็นมากขึ้น ทำให้มีอาการหอบหืดบ่อยครั้ง
คนปกติก็เป็นได้ แต่ผู้ที่เป็นโรคปอดอยู่แล้ว จะเป็นมากกว่า มีอันตรายกว่า
ฉะนั้นขอให้ทุกๆ คนทราบว่าโอโซนที่อยู่กับเรานั้นไม่ดี ที่ดีที่สุดคือการสูดอากาศที่มีออกซิเจนมากๆ และอากาศที่ไม่มีมลพิษ ซึ่งก็คือ ที่ที่มีต้นไม้มากๆ หรือป่านั่นเอง เพราะต้นไม้จะดูดซึม carbon dioxide (คาร์บอนไดออกไซด์) และปล่อยออกซิเจนออกมา
เราทุกๆ คนต้องช่วยกันลดสภาวะโลกร้อน (global warming หรือ climate change) ซึ่งจะมาควบคู่กับair pollution (อากาศเป็นพิษ) ซึ่งโอโซนก็เป็นส่วนหนึ่งของ air pollution และก๊าซเรือนกระจก
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี