มนุษย์ทุกคนที่จะมีชีวิตอยู่ได้จะต้องมีอวัยวะต่างๆ ที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น หัวใจ ปอด สมอง ไต ระบบทางเดินอาหารที่ประกอบด้วย หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ตับ ตับอ่อน ถุงน้ำดี ระบบต่อมไร้ท่อ ที่รวมทั้งต่อมไทรอยด์ ตับอ่อน ที่ส่วนหนึ่งผลิตฮอร์โมนอินซูลิน glucagon ต่อม parathyroid ที่ดูแลเรื่อง calcium, phosphate ฯลฯ
แต่ก็ยังมีระบบหลอดเลือด ซึ่งมีความสำคัญมากอีกด้วย ระบบหลอดเลือดจะประกอบด้วย หัวใจ ที่จะส่งเลือดจากหัวใจออกไปยังอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งสมอง ปอด กล้ามเนื้อโดยจะมีหลอดเลือดที่ใหญ่มาจากหัวใจ (aorta) ไปเลี้ยงทั่วร่างกายจากหลอดเลือดใหญ่สุดจนเป็นหลอดเลือดฝอย (capillary) เพื่อนำอาหาร ออกซิเจน ฯลฯ ไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกาย หลังจากนั้นจะมีระบบหลอดเลือดที่เราเรียกว่าหลอดเลือดดำเก็บสารต่างๆ รวมทั้ง carbon dioxide ของเสียต่างๆ กลับมายังปอด เพื่อเอา CO2 ออก และนำออกซิเจนจากลมหายใจเข้าไปในร่างกาย รวมทั้งนำของเสียต่างๆ ออกมากลั่นออกจากร่างกายผ่านตับ ไต ปอด ฯลฯ
เลือด (blood) มี 4 ส่วน คือ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และพลาสมา (plasma)
หน้าที่ของเลือดแบ่งออกได้เป็น 4 อย่างคือ
1) นำออกซิเจนและอาหารไปทั่วร่างกาย
2) สร้างลิ่มเลือดโดยอาศัยเกล็ดเลือดเพื่อป้องกันการที่มีเลือดออก เช่น ในกรณีที่โดนมีดบาด ร่างกายจะสร้างลิ่มเลือดให้แข็ง เพื่ออุดตันแผลไม่ให้เลือดไหลออกได้
3) ป้องกันการติดเชื้อ (โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาว) และกำจัดของเสียโดยนำของเสียไปให้ตับ ไต ขับออกจากร่างกาย
4) ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เช่น เลือดจะไหลไปที่ผิวหนังมากๆ เพื่อระบายความร้อน หรือถ้าอากาศหนาว หลอดเลือดที่ผิวหนังจะหดตัว เพื่อลดการระบายความร้อน
เม็ดเลือดแดงและพลาสมาเป็นส่วนใหญ่ของเลือด เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือด (buffy coat) เป็นส่วนประกอบไม่ถึง 1% ของเลือด
เม็ดเลือดแดง (red blood – erythrocytes) เป็นส่วนประกอบประมาณ 45% ของเลือด มีหน้าที่นำพาออกซิเจนไปทั่วร่างกาย
เม็ดเลือดแดงมีชีวิตอยู่เพียง 100-120 วัน
เม็ดเลือดขาว (leukocyte – white cell) เป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อมีผู้บุกรุกร่างกาย เช่น เชื้อไวรัส แบคทีเรีย (bacteria) หรือเซลล์มะเร็ง เม็ดเลือดขาวจะรีบทำลายผู้บุกรุกเหล่านี้ เม็ดเลือดขาวมีด้วยกัน 5 ชนิด
1) neutrophils เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และกำจัด “ขยะ” ออกไป
2) lymphocytes ซึ่งประกอบด้วย T-cells, natural killer cells, B-cells ซึ่งป้องกันภัยจากไวรัส และช่วยผลิต antibodies เพื่อป้องกันเชื้อต่างๆ
3) basophils ซึ่งจะมีปฏิกิริยาต่อ allergens (สารก่อภูมิแพ้)
4) eosinophils ค้นหาและทำลาย parasites และเซลล์มะเร็ง และช่วย basophils กับการต่อต้านสารก่อภูมิแพ้
5) monocytes ค้นหาและทำลายไวรัส แบคทีเรียเชื้อรา และเชื้อ protozoa และกำจัดเซลล์ที่ตายแล้ว
เกล็ดเลือด (platelet ที่มาจาก thrombocytes) จะปรากฏตัวทันทีที่หลอดเลือดมี damage (มีความเสียหาย) หรือมีเลือดออก ในเลือดหยดเดียวมีเกล็ดเลือดเป็นหมื่น
พลาสมา (plasma) เป็นน้ำสีเหลือง ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเลือดถึง 55% พลาสมามีหน้าที่และทำหน้าที่ได้หลายอย่าง เช่น
1) ช่วยทำให้มีลิ่มเลือดเกิดขึ้น (clot) และป้องกันร่างกายจากผู้บุกรุก
2) นำฮอร์โมน สารอาหาร โปรตีน ไปทั่วร่างกาย
3) เอาของเสียออกจาก cells และขนส่งไปที่ตับ ปอด ไต เพื่อขับถ่ายออก (excrete)
4) ควบคุมระดับ ความดันโลหิต และระบบไหลเวียน (circulation)
5) ควบคุมอุณหภูมิด้วยการ absorb (ดูดจับความร้อน) and releasing (ปล่อย)
ไขกระดูกเป็นแหล่งที่ผลิตเซลล์ต่างๆ ของร่างกายเป็นล้านๆ ตัว โดยมีการผลิตโดย stem cell (เซลล์ต้นกำเนิด) รวมทั้งเม็ดเลือดแดง ขาว และเกล็ดเลือด ด้วย
เลือดมีประมาณ 8% ของน้ำหนักตัว หรือประมาณ 4-5 ลิตร
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี