สังคมทุกวันนี้ต้องการการปรองดอง

ต้องการการก้าวผ่านอดีตที่ไม่ดี ไม่พอใจ

ต้องการการเข้าใจ ยอมรับ ว่าไม่มีใครเป็นคนดีบริสุทธิ์เต็มร้อย และไม่มีใครไม่เคยทำผิด

และการ “จับผิด” กันจะทำให้เกิดการแก้ตัวและย้อน“จับผิด” อีกฝ่ายหนึ่งกลับไป

ต่างก็สร้างความอหังการ ยกตัวเองและอีโก้ให้สูงขึ้นแบบจอมปลอม สร้างรอยแค้นและความแตกแยกให้มากขึ้น แล้วสังคมเราจะอยู่อย่างไร?

สังคมเราก็เหมือนสังคมทั่วไปในโลกทั้งที่เจริญสุดขีดหรือต่ำต้อยด้อยพัฒนาที่มีคนปะปนกัน และทุกคนในสังคมต่างก็มีข้อบกพร่องมากบ้างน้อยบ้าง ทุกคนในสังคมก็ไม่เท่าเทียมกัน ไม่เหมือนกัน...ทั้งนั้น เป็นสังคมของคนธรรมดา...ไม่ใช่สังคมเทวดา

ผมอยากจะบอกว่าสังคมจะปรองดองได้ก็ด้วยรอยยิ้มเท่านั้น

ธรรมชาติของจิตใจมนุษย์ชอบเกาะติดอยู่กับอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง

ถ้าจิตเกาะติดอยู่กับอารมณ์ดี มีรอยยิ้ม จิตก็จะสนุกและเป็นสุข

ถ้าจิตเกาะติดอยู่กับอารมณ์ไม่ดี มีแต่รอยแค้นและรอยเหยียดหยัน ติดอยู่กับอดีตที่ไม่ดี จิตก็จะเป็นทุกข์

การจะเลือกให้อารมณ์ของเราเกาะติดกับอารมณ์ดี เราต้องก้าวผ่านอดีต ไม่กังวลอนาคต ตั้งใจมีสติมั่น ให้จิตอยู่กับปัจจุบันให้ได้

อยากแนะนำว่า...ลองๆ ฝึกสติแบบมีเมตตาโดยการหายใจเข้า...ให้รู้ตัวว่าหายใจเข้า และหายใจออกให้นึกถึงคำว่า “ยิ้ม” ดูซิ แล้วท่านจะยิ้มได้มากขึ้น สงบได้มากขึ้น รอยยิ้ม
จะทำให้ท่านเมตตาตัวเองและเพื่อนมนุษย์ หลังจากนั้นพฤติกรรมความคิดทั้งหลายก็จะอ่อนโยนมากขึ้น

นี่เป็นการฝึกระดับส่วนตัวเพื่อให้จิตตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน ไม่ฟุ้งซ่าน จิตจะเกาะเกี่ยวกับอารมณ์ปัจจุบันที่เป็นบวก(+)มากขึ้น จนสามารถถอนตัวจากอดีตได้ หลุดพ้นจากความทุกข์ ความโกรธ เกลียดชัง อาฆาตแค้นได้

แล้วการตัดสินใจดำเนินชีวิตต่อไปภายใต้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติและกฎหมายสำหรับทุกๆ ฝ่ายก็จะง่ายเข้า นุ่มนวลขึ้น เพราะจิตจะเริ่มมีเมตตากับตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น

เมตตาเท่านั้นจะทำให้โลกและชีวิตงดงามขึ้น มีความหมายมากขึ้น ทุกคนต้องฝึกการมีสติแบบเมตตาให้ได้ ไม่ใช่เพียงแค่พูด แต่จิตใจเข้าไม่ถึง

เมื่อผู้นำและทุกคนเริ่มมีสติแบบมีเมตตาอยู่กับปัจจุบัน เลือกที่จะทำให้จิตเกาะติดอารมณ์ดี มีความสุขและรอยยิ้มแล้ว รอยยิ้มจะเกิดมากขึ้น เสียงที่พูดก็จะยิ้ม...ดวงตาก็จะยิ้ม

การปรองดองของทุกฝ่ายก็จะง่ายเข้า มีรอยยิ้มและเมตตาเป็นตัวสมานรอยร้าว

แม้จะมองเห็นรอยร้าวในจิตใจและสังคมอยู่บ้าง เราก็ทนได้ ยอมรับได้ เพราะมันจะเป็นรอยแผลเป็นทั้งหมด ไม่เจ็บปวดต่อไป

ทุกคนจะมีรอยยิ้มที่กว้างและยาวนานมากขึ้นเมื่อคนในสังคมใช้สติแบบมีเมตตาและเกิดปัญญา เลือกที่จะอยู่อย่างมีความสุข มีอารมณ์ดี

การสร้างสติอย่างมีเมตตาและเกิดปัญญาอย่างที่ผมกล่าวถึงนี้ ไม่ยากเกินไปหรอกสำหรับคนไทยและสังคมไทยครับ