เราพักอยู่ที่ไชยเชษฐ์ Resort 2 คืน คืนแรกก็กินข้าวริมชายหาดทราย ท่ามกลางแสงจันทร์ หน้าบังกะโล ที่พักเรา มีเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระยะๆ โรแมนติกเป็นบ้า แต่อาหารไม่ค่อยอร่อยเท่าที่ควร เย็นไปหน่อย บริการช้าหน่อย เพราะเด็กๆ ต้องเดินไปมาไกลเพื่อเอาของ แต่เด็กเสิร์ฟก็น่ารัก มารยาทดี กว่าเราจะเปิดขวดไวน์ได้แทบตาย เก่าเก็บจนจุกก๊อกเปื่อยหมด แต่ไวน์ก็ยังอร่อย วันแรกเราดื่ม 2 ขวด วิสกี้นิดหน่อย ไม่กี่โมงเราก็เข้านอน ตื่นมาก็ไปว่ายน้ำทะเลหรือลงสระก่อนกินอาหารเช้าที่คนแน่นมาก พอ 9 โมงกว่าเราก็ออกไปดูวิว รอบแรกไปดูวิวทางด้านขวาของเกาะช้าง (ถ้านับจากขึ้นเรือferry) ข้างนี้เจริญ มีตึกรามบ้านช่อง Resort มากมาย รวมทั้งชายหาดสวยด้วย แต่ทางด้านซ้าย หลังขึ้นจากเรือ ferry ไม่ค่อยมีการพัฒนา บ้านเมืองน้อย ชายหาดที่เห็นก็เป็นหิน เราได้ไปดูวิวยังที่ต่างๆ สวยงามมาก ที่ๆ เราแวะแห่งหนึ่ง คือ จุดชมวิวไก่แบ้ ซึ่งเป็นจุดที่สวยงามมาก เรามองออกไปทะเลเห็น 4 เกาะ จากซ้ายไปขวาและที่ใกล้ที่สุดคือ เกาะมันใน ซึ่งช่วงน้ำทะเลลงสามารถเดินข้ามจากเกาะช้างไปได้ ตามด้วยเกาะมันนอก เกาะปลี และเกาะหยวก เราเดินชมวิว ดื่มกาแฟ ถ่ายรูปกันอุตลุด จนเจ้าเทพ ช่างภาพกิตติมศักดิ์ ทำโทรศัพท์มือถือป้าปิตกเนินเขาลงไป!? โชคดีที่ไม่ลึก ลงไปเก็บได้ ทั้งนี้เพราะเครื่องถ่ายตนเอง (selfie) ของป้าปิหลวม
จากนั้นเราก็ไปที่ที่เป็นชุมชนบ้านบางเบ้าที่มีทางเดินเป็นสะพานยื่นยาวเข้าไปในทะเล สุดทางมีประภาคาร รู้สึกว่าผมเดินไปคนเดียว ผมชอบไปให้ถึงที่สุดทุกแห่งที่ไป จึงรีบเดินเร็วๆ กลัวคนอื่นๆ จะรอ บนสะพานนี้มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ป้าปิเห็นผมสนใจชุดว่ายน้ำ เสื้อ กางเกงสีดำแขนยาว ขายาว จึงกรุณาเป็นผู้ต่อรองให้ ต่อรองได้ราคาดี คือ 600 บาทแล้วพอจะคืนตังค์ให้ยังไม่เอา บอกว่า “ก๊วน” ซื้อให้หัวหน้าเผ่า!? 555 เป็นหัวหน้าเผ่าก็ดีอย่างงี้แหละครับ ผมมาสนใจใส่เสื้อชุดว่ายน้ำ ทั้ง เสื้อกางเกง เพราะที่จุฬาฯ เวลาไปออกกำลังกายในน้ำ - ธาราบำบัด - เขาให้ใส่เสื้อด้วยวันแรกไม่มีใครบอก ผมเป็นคนเดียวที่ไม่ใส่เสื้อ และมีสุภาพสตรีไปทำธาราบำบัดด้วย ใส่เสื้อ กางเกง ใส่หน้ากากด้วย ธาราบำบัดเป็นเรื่องที่ดีมาก ประเทศไทยควรมีหลายๆ แห่งให้ทั่ว วันหลังผมจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้
ตอนกลางวันเราหาก๋วยเตี๋ยวกินเช่นเคย จุ๋มพบร้านก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิต สาขาเกาะช้าง จึงพาเราไปกิน ปรากฏว่าโชคดี ใครอายุ 80 ปีขึ้นไปกินฟรี!? โดยความกรุณาของคุณย่าแสวง มีผมกับพี่กิ่ง ที่อายุเกิน 80 ปี แต่เสียดาย เรากินกันคนละชามเท่านั้น (น่าจะคิดบวก ว่ากินฟรีตั้งชามหนึ่ง) เพราะไม่หิวเท่าไหร่ กินจบ จุ๋มยังบอกว่าเราน่ารัก กินจานเดียว แทนที่จะกิน 2 จาน หรือสั่งมาอีกจาน แต่ให้คนอื่นกิน! แสดงว่าผม พี่กิ่ง เป็นคนดีพอสมควร ที่แม้แต่คิด เรายังไม่คิดหรือคิดไม่ทัน! (5555!?) ตายไปไม่ตกนรกแน่ 555 คนดีอย่างนี้ผมยมบาล ไม่ต้องการเดี๋ยวทำให้นรกเสียมาตรฐาน !! 555
เจ้าของบอกว่า กำลังจะคิดลดอายุให้กินฟรีจากอายุ 80 เป็น 70 ปี แต่พอพบก๊วนเราและผมคุยเรื่องสังคมผู้สูงอายุให้แกฟัง (ถือโอกาสบรรยายนิดหน่อย ไหนๆ เคยเป็นอนุกรรมาธิการผู้สูงอายุของ สว. มาแล้ว!)แกเลยเปลี่ยนใจไม่ลด! ถ้าผมบ้านอยู่ใกล้ๆ คงเดินไปกินทุกวัน!?เช้า สาย บ่าย เย็น !? 555 เอาให้เจ๊งไปเลย
เราไปหาทุเรียนกินกันด้วย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลทุเรียน มีการเอามาขายแถวๆ หน้าอำเภอ ก๊วนเราพูดกันใหญ่ว่า จะกิน จะซื้อมากเท่าโน้นเท่านี้ แต่พอไปถึงกินกันไม่มาก และไม่มีใครซื้อกลับที่พัก คงเกรงใจผม กลัวรถเหม็น เพราะผมไม่กินทุเรียน ก๊วนผมช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ แต่ที่งาน ทุเรียนก็ใกล้หมดแล้ว
บ่าย 3-4 โมงเราก็กลับบังกะโลที่พัก และเราลงสระ หรือลงทะเล ตกเย็นเราก็นั่งรถหาร้านอาหารกิน ขับรถไปมาหลายรอบกว่าจะตัดสินใจกินที่ร้าน Siam Kitchen Thai Food Sea Food พนักงานร้านน่ารัก กันเองมาก ดูแลเราอย่างดีอาหารไม่แพงเลย รสชาติใช้ได้ ที่ดีด้วยคือ ใกล้โรงแรมเรามาก
เราพบว่าต่างจังหวัด ถ้าเราเลือกกิน กินก๋วยเตี๋ยว กินอาหารธรรมดาๆหรือถึงแม้จะเป็นอาหารทะเล มีกุ้ง ปลา ปูบ้าง อาหารก็ไม่แพงครับ
เช้าวันที่ 5 พฤษภาคม เรากะออกเดินทางแต่เช้า 09.00 น. หลังอาหารเช้า เพราะกลัวรถติดเวลาไปขึ้นเรือ ferry ปรากฏว่า เจ้ากรรมยางรถแบน 1 ข้าง ซึ่งคุณพรทิพย์ เจ้าของ Resort กรุณาโทรขอให้ช่างมาเปลี่ยนยาง ปะยางให้ เติมลมให้ถึงที่เลย!? โชคดีที่ทราบตอนอยู่ที่ Resort
เราไปถึงท่าเรือไม่มีรถมากเท่าไหร่ เราเป็นแถวที่ 4 ที่รอขึ้นเรือปรากฏว่า ต้องรอขึ้นเรืออีกลำ พอข้ามฟากขึ้นแผ่นดินใหญ่ได้เราก็มุ่งตรงไปร้านก๋วยเตี๋ยวริมเขื่อนตามที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ราชการุณย์แนะนำ ซึ่งอร่อยมาก มีก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ข้าวมันหน้าทะเล เลือดหมูแต่หมดแล้ว ฯลฯ แล้วเราขับรถตรงไปศูนย์เลย กะพบกัน 13.00 น. เพื่อจะพาเราไปพบทหารที่จะนำเราไปประเทศเขมร และทางศูนย์ได้คุณกรุณาทำเอกสารไว้ให้เราเข้าประเทศเขมรไว้ล่วงหน้าแล้ว
พอ 13.00 น. เป๊ะ ก็ผ่านหน้าศูนย์ฯ มีรถสภากาชาดนำหน้าเราไปเลย 1 คัน โดยไม่ได้จอดหยุดให้เราลงไปทักทายเลย แต่เขาทราบเบอร์รถเราแล้วตอนทำเอกสารเข้าประเทศเขมร ไปถึงที่ทำการทหารก็พบ จ่าสิบเอกเฉลิมพล ซึ่งได้กรุณาพาเราไปขับรถเยี่ยมชมประเทศเขมร เดิมผมได้ยินแต่เกาะกงๆ ก็นึกว่าเป็นเกาะจริงๆ จึงถามก่อนหน้าว่าไปเกาะกงต้องลงเรือไหม คนตอบยังตอบว่าไม่ต้อง มีสะพาน ผมจึงยังนึกว่าเป็นเกาะอยู่ แต่ที่ไหนได้ เกาะกงเป็นชื่อจังหวัดเขมรที่อยู่ติดกับเรา แต่ช่วงหนึ่งมีสะพานที่ต้องขับข้ามแม่น้ำหรือทะเลส่วนที่ไหลเข้ามาในแผ่นดิน “เกาะกง” จึงไม่ใช่เกาะตามที่ผมเข้าใจ แต่เกาะกงนอกที่เป็นเกาะจริงๆ ก็มี แต่ไกลมาก เราไม่ได้ไป
จากศูนย์ไปชายแดนก็ประมาณ 40 นาที พอข้ามชายแดนไปก็เป็นโรงแรมที่มีกาสิโนเลย เราก็แวะที่โรงแรมแต่ไม่ได้เข้ากาสิโนถ่ายรูปกันเล็กน้อย บางคนซื้อเสื้อผ้า ผมซื้อวิสกี้ single malt จาก Scotland หาซื้อชนิดที่ ไม่เคยเห็น แต่ราคาไม่แพง เพราะคอผมบอกไม่ได้อยู่แล้วว่าอันไหนแพง
หลังจากนั้น เราก็ขับรถชมประเทศเขมรเล็กน้อย ผ่านกาชาดจังหวัดเขมร เลยลงไปถ่ายรูปหน้าป้ายเขาเป็นที่ระลึก แล้วก็กลับเข้าสู่ที่พัก ณ ศูนย์ราชการุณย์
นึกว่าจะจบ ยังมีต่ออีกจนได้ สงสัยจะตก “ย่อความ”
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี