จากประเด็นดราม่า “ยายบุรีรัมย์ ขายข้าวหมากห่อละ 5 บาท ถูกสรรพสามิตจับ 5 หมื่น”
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร? และมีประเด็นน่าคิดอะไรอีกบ้าง?
1. กรมสรรพสามิตชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
ตามที่ข่าวมีการระบุว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตได้จับกุมยายชาวบุรีรัมย์วัย 60 ทำข้าวหมากขายตลาดนัด ข้อหาจำหน่ายสุราสาโทโดยไม่ได้รับอนุญาต ขู่ติดคุกหากไม่จ่ายค่าปรับ 5 หมื่น อ้อนวอนสุดท้ายยอมลดเหลือ 1 หมื่นบาท
ข้อชี้แจง
คุณยายตามที่ระบุในข่าวมีอาชีพขายข้าวหมากเป็นอาชีพหลัก ซึ่งเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตได้รับแจ้งจากราษฎรว่า มีการจำหน่ายสุราแช่เพื่อดื่มกินที่ตลาดคลองถม สี่แยกไฟแดง ตำบลกระสัง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและพบคุณยายดังกล่าวมีสุราแช่บรรจุถุงพลาสติกขนาดถุงละ 1 ลิตร จำนวน 11 ถุง รวม 11 ลิตร จึงมีการจับกุมคุณยายพร้อมของกลางที่เป็นสุรา มิได้มีการจับกุมข้าวหมากดังที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และข้าวหมากมิใช่สินค้าในพิกัดสินค้าสรรพสามิต
ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหามีไว้ครอบครองซึ่งสุราที่ผลิตโดยฝ่าฝืนมาตรา 153 วรรค 1 มีโทษตาม ม. 192 เป็นเงินค่าปรับจำนวน 1 หมื่นบาท
ทั้งนี้ อธิบดีกรมสรรพสามิตได้มอบนโยบายให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมาโดยตลอดว่า ให้เข้าไปให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาแก่ชาวบ้านเพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจถึงการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ดี ประเด็นข่าวดังกล่าวน่าจะมีเจตนาที่ไม่ดีเพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการและรัฐบาลได้รับความเสียหายในด้านลบ
2.สรุปว่า ยายไม่ได้ถูกจับเพราะขาย “ข้าวหมาก”
แต่ถูกจับปรับเพราะ “ขายสาโท” ซึ่งเป็นสุราแช่ โดยไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย
พูดง่ายๆ ว่า ผลิตและขาย “เหล้าเถื่อน”
ในความเป็นจริง เจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้บอกกับยายด้วยว่า ยายสามารถขายข้าวหมากต่อไปได้ แต่สุราแช่นั้นจะต้องขออนุญาตและเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงจะสามารถผลิตและจำหน่ายได้
3.“ข้าวหมาก” จัดเป็นขนมหวานชนิดหนึ่ง ผลิตได้โดยการนำข้าวเหนียวนึ่งมาหมักกับรา และยีสต์ ในรูปของ “ลูกแป้ง” เพื่อให้ราและยีสต์เปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลหรือเป็นแอลกอฮอล์เล็กน้อย ข้าวหมักจะมีลักษณะยุ่ย นุ่ม มีรสหวาน และมีกลิ่นหอม สามารถผลิตและขายได้โดยไม่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต ไม่ต้องขออนุญาต
แต่ “สาโท” เป็นสุราชนิดหนึ่ง ผลิตโดยนำข้าวเหนียวขาวมาแช่น้ำ จากนั้นนำไปนึ่งให้สุก ผึ่งให้เย็น แล้วเอาลูกแป้งมาบดให้ละเอียด ผสมลูกแป้งกับข้าวเหนียวนึ่ง ใส่ภาชนะสำหรับหมัก หมักทิ้งไว้ 1-2 วัน จากนั้นเติมน้ำ หมักต่อประมาณสองอาทิตย์ แล้วนำไปกรอง ก็จะได้สาโท ซึ่งมีแอลกอฮอล์ต่ำ ไม่เกิน 10 ดีกรี ถ้านำไปกลั่นก็จะกลายเป็นสุรากลั่น ใสๆ ดีกรีแรงขึ้น
ทีเด็ดอยู่ที่ “ลูกแป้ง หรือหัวเชื้อส่าเหล้า” ทำจากแป้งข้าวเหนียว ผสมกับสมุนไพรและเครื่องเทศ ปั้นเป็นลูกกลมๆ แต่ละท้องถิ่น แต่ละตำรับ จะมีสูตรการทำลูกแป้งแตกต่างกันไปอีก ถือเป็นความลับ ทำให้รสชาติของสุราพื้นบ้านแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน
4.ปัจจุบัน ผู้สนในประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายสุราพื้นบ้าน สามารถดำเนินการได้ง่ายกว่าสมัยก่อน
กรมสรรพสามิตออกประกาศ ลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 24 พ.ค. 2561 ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการผลิตสุราฯ
ในส่วนของสุราแช่พื้นบ้าน เช่น อุ น้ำขาว สาโท จะประกอบการในรูปของบุคคลธรรมดา นิติบุคคล คณะบุคคล หรือวิสาหกิจชุมชน ก็ได้
แต่ก่อนจะนำผลิตภัณฑ์สุราแช่ออกวางจำหน่าย ต้องดำเนินการกับกรมสรรพสามิต ดังนี้ ขออนุญาตจำหน่ายสุราแช่, แจ้งราคาขายสุรา ณ โรงงานสุรากรณีผลิตสุราชนิดหรือประเภทใหม่ ต้องแจ้งราคาขายก่อนดำเนินการขายไม่น้อยกว่า 15 วัน, ปิดแสตมป์สุราบนปากภาชนะสุรา และแสดงเครื่องหมายรับรองคุณภาพสุรา ตามที่กรมสรรพสามิตกำหนด รวมทั้งแสดงฉลากผลิตภัณฑ์สุราให้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข คือ ภาชนะบรรจุสุรา และฉลากสุราแช่พื้นเมืองต้องแสดงปริมาณของสินค้าที่หีบห่อ ฉลากต้องมีคำเตือนเป็นภาษาไทยที่มองเห็นได้ง่าย และต้องมีคำเตือนบนฉลาก, ต้องจัดทำบัญชีและงบเดือน เพื่อแสดงจำนวนสุราต่อเจ้าพนักงานสรรพสามิตภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
สุราแช่ ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง?
ภาษีสุราแช่พื้นเมือง ปัจจุบันอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 25 หรือ 70 บาท/ลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ทำสุราโรงหนึ่ง ปีละ 5,000 บาท
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้เก็บหรือรักษาสุราไว้ ณ ที่อื่น ปีละ 1,000 บาท
ค่าใบอนุญาตให้ทำเชื้อสุราสำหรับใช้ในโรงงาน เครื่องจักรกลกำลังรวมต่ำกว่า 5 แรงม้า/ใช้คนงานน้อยกว่า 7 คน ปีละ 250 บาท
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสุราจะต้องมีหน้าที่เสียภาษีเก็บเพิ่มเพื่อกระทรวงมหาดไทย จำนวน 10% ของภาษีสุรา
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสุราจะต้องมีหน้าที่เสียภาษีบำรุงกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน 2% ของภาษีสุรา
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสุราจะต้องมีหน้าที่เสียภาษีเงินบำรุงเข้าองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย จำนวน 1.5% ของภาษีสุรา
5. จะเห็นได้ว่า มีรายละเอียด ขั้นตอน แนวทางปฏิบัติ เปิดช่องอยู่ เพราะถือเป็นการประกอบธุรกิจ
หากรัฐต้องการจะส่งเสริมภูมิปัญญาชาวบ้าน ก็ควรอำนวยความสะดวกมากกว่านี้
หรือมีมาตรการส่งเสริม ยกเว้นภาษี คล้ายๆ กับการส่งเสริมการลงทุนของธุรกิจใหญ่ๆ น่าจะเกิดประโยชน์ และได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนรากหญ้า
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี