ในตอนที่ผ่านมา ได้พูดให้ฟังว่าปัญหาความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ยังเผชิญอยู่กับความไม่สงบสุขจากการก่อการร้ายของบุคคลพวกหนึ่งมาโดยตลอดเวลา แม้กระทั่งในขณะนี้ภายใต้อำนาจรัฐบาลทหารชุดนี้
และได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับมูลเหตุสำคัญๆ ไว้ 8 อย่างด้วยว่ามีอะไรบ้าง ที่สมควรหยิบยกมาแก้ไขให้เป็นรูปธรรมในความสำเร็จของความไม่สงบสุขในชายแดนใต้ที่ว่า
วันนี้มาว่ากันต่อ
คนมีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองขณะนี้ซึ่งเป็นทหารส่วนใหญ่ ต้องตระหนักและใส่ใจให้มากกว่านี้ในการทำงานร่วม 4 ปีของตนที่ผ่านมา ว่าเป็นเพราะอะไรบ้างที่เป็นข้อบกพร่องในทางปฏิบัติ ซึ่งทำให้ชายแดนใต้ดังกล่าวยังวิกฤติซ้ำซากอยู่อย่างนี้ เพื่อจะได้จัดการได้ตรงจุด
อยากให้พิจารณาดูไปถึงสิ่งต่างๆต่อไปนี้
1. ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการก่อการร้าย
เจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ในการรักษาความสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการของการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน หรือไม่รู้อะไรเลยแต่ต้องลงไปทำงานเกี่ยวกับเรื่องอย่างนี้ โดยเฉพาะในเชิงลึกทางด้านการข่าวกรอง ที่จะต้องรู้ไปถึงปัญหาเชิงอุดมการณ์ ปัญหาทางการเมืองการปกครองในพื้นที่ ปัญหาทางสังคมจิตวิทยา ในการต่อสู้กับพวกเหล่านี้
2. การขาดความมีส่วนร่วมในกระบวนการแบ่งความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา การจัดสรรความ
รับผิดชอบ และการร่วมติดตามตรวจสอบการปฏิบัติ เป็นต้น
ทั้ง 2 ประการดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญในการต่อสู้ป้องกันการก่อการร้าย และการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ที่คนมีอำนาจระดับสูงต้องใส่ใจ โดยเฉพาะพวกที่ถือปืนเข้ามาใช้อำนาจในการบริหารบ้านเมืองอยู่ในขณะนี้
โดยเฉพาะในเรื่องการปฏิบัติการทางทหารและทางการเมือง ต้องทำควบคู่กันไปตลอดเวลาในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ขณะนี้ เมื่อทหารสามารถเปิดพื้นที่ให้มีความปลอดภัยได้ระดับหนึ่งแล้ว การปฏิบัติงานด้านการเมืองจะต้องตามเข้าไปทันที เป็นการรุกทางการเมืองในพื้นที่ เฉพาะในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนในพื้นที่นั้นๆ
ต้องมีความเข้าใจว่า ปัญหาชายแดนในจังหวัดภาคใต้ดังกล่าว ต้องเข้าใจในหลายเรื่องหลายราวของปัญหา
ที่ผสมผสานกัน ถ้าจะแก้ไขก็ต้องแก้ไขให้ครบวงจร
โดยเฉพาะในเรื่องภารกิจหลักที่ต้องจัดการให้ถูกต้องและเหมาะสมกับขีดความสามารถหน่วยปฏิบัติงานในการแบ่งมอบด้วย เฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องสำคัญต่อไปนี้
1. ด้านการใช้กำลังปราบปราม
ต้องแบ่งภารกิจกันให้ชัดเจน โดยฝ่ายทหารเป็นหน่วยหลัก ฝ่ายตำรวจและพลเรือนคอยช่วยเหลือ และเมื่อพื้นที่ใดปลอดภัยแล้วก็ส่งมอบให้ฝ่ายปกครองและตำรวจเป็นผู้ดูแลรักษาพื้นที่นั้นๆต่อไป
2. ด้านการพิทักษ์ประชาชนและทรัพยากร
ฝ่ายตำรวจเป็นหน่วยงานหลัก โดยฝ่ายพลเรือนหน่วยอื่นๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมทำงานในด้านนี้ ส่วนฝ่ายทหารนั้นจะคอยให้ความช่วยเหลือ เป็นการสกัดกั้นและป้องกันพวกก่อความไม่สงบให้มีโอกาสใช้ทรัพยากรหรือประชาชนที่ไม่รู้เท่าทันเป็นประโยชน์ได้
ต้องทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องขจัดความระแวงซึ่งกันและกันให้ได้ด้วยมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องต่อไปนี้
2.1 มาตรการทางการเมืองการปกครอง มีการสำรวจปัญหาต่างๆของประชาชนในพื้นที่ ทั้งจำนวนประชากร ปัญหาความยากจนและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อจัดการแก้ไขเพื่อให้ปัญหาต่างๆดังกล่าวคลี่คลายลง
2.2 มาตรการด้านต่างประเทศ ต้องสร้างความเข้าใจที่ดีและถูกต้องระหว่างกัน โดยเฉพาะในด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนข้อเท็จจริงที่เกิด
2.3 มาตรการด้านการข่าวกรอง เป็นมาตรการที่สำคัญมากในทางปฏิบัติงาน เพื่อมิให้ทุกมาตรการปฏิบัติผิดพลาด
2.4 การปฏิบัติการทางจิตวิทยาประชาสัมพันธ์อย่างถูกต้องและทันเวลา เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเชื่อถือ แต่ไม่ใช่การกระทำแบบโฆษณาชวนเชื่อ
ทุกมาตรการดังกล่าวต้องทำให้ได้ครบ
เพราะผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ต่างๆนั้นแฝงตัวอยู่ทั่วไป หรือบางคนอาศัยอยู่กับเครือญาติในพื้นที่ และมีอิทธิพลต่อชาวบ้านในรูปแบบต่างๆ จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่กล้าให้ข่าวสารเกี่ยวกับคนร้ายพวกนี้ ทำให้แกนนำของพวกก่อการร้ายสามารถควบคุมประชาชนในพื้นที่ได้แทบจะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
การแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ที่ยังไม่ประสบผลสำเร็จทุกวันนี้ คงเป็นเพราะคนมีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองไม่ค่อยจะให้ความสนใจในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง หรือมีการใช้มาตรการที่หละหลวม ไม่ถูกต้อง
หรือมัวไปใช้เวลายุ่งอยู่กับเรื่องอื่นๆที่เป็นประโยชน์ตน หรือประโยชน์ของหมู่คณะ โดยเฉพาะคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านความมั่นคงของรัฐบาล ที่ดูจะมัวเสียเวลาไปกับเรื่องยุ่งๆของตัวเองในหลายเรื่องหลายราวขณะนี้
มีปืน มีอำนาจ แต่ถ้าขาดความเข้าใจหรือขาดความรู้ความเข้าใจในการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนใต้ที่เป็นระบบแล้ว บอกได้คำเดียวว่าสงสารประชาชนที่นั่น และสงสารประเทศไทย
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี