ทำไมกองทัพถึงต้องออกมาก่อรัฐประหารล้มระบอบประชาธิปไตยและล้มรัฐบาลในระบอบทักษิณถึง2 ครั้ง ในวันที่ 19 กันยายน 2549 และวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งเหตุผลที่เกิดความจำเป็นเพราะมีประชาชนออกมาต่อต้านขับไล่รัฐบาลของระบอบทักษิณ ชินวัตร ที่สร้างพฤติกรรมทางด้านการเมืองที่ไม่ชอบและถูกต้องทำนองคลองธรรมใช้เสียงข้างมากออกพระราชบัญญัติที่เอื้อผลประโยชน์ให้แก่ตัวเองและพวกพ้องแบบไม่ละอาย
การรัฐประหารของคณะทหารในกองทัพถูกผู้สื่อข่าวพวกพ้องระบอบทักษิณในประเทศและในต่างประเทศโจมตีอย่างหนักเพราะอำนาจเงินของระบอบทักษิณใช่หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องนำมาวิเคราะห์กันให้ถ่องแท้โดยการโจมตีทหารในกองทัพเป็นเรื่องที่ต้องมองกันให้รอบด้านว่าทหารมีความจำเป็นต้องกระทำโดยเฉพาะการรัฐประหาร 2 ครั้งหลังในปี 2549 และปี 2557 นั้นถ้าหากทหารไม่กล้าตัดสินใจก่อรัฐประหารแล้วอนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
อาจจะเหมือนสถานการณ์ในเวเนซุเอลา หรือสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย ในอดีตยุค 1990ที่ทหารตัดสินใจช้าไม่รัฐประหารหรือเหมือนเหตุการณ์ในราชอาณาจักรสเปนยุคปี 1930 ที่ในท้ายที่สุดแล้วประเทศเหล่านั้นก็ก้าวไปสู่ความแตกแยกในหมู่ประชาชนอย่างรุนแรงจนนำไปสู่สงครามกลางเมืองระหว่างประชาชนฝ่ายต่างๆ ซึ่งผลที่เกิดตามมาก็คือความสูญเสียมีคนได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็นล้านๆ คน และทรัพย์สินได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่ามหาศาล
ดังนั้นหากคณะทหารกล้าตัดสินใจก่อรัฐประหารก่อนจะทำให้ความสูญเสียไม่เกิดขึ้นดังกรณีรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ในประเทศไทยนั้น เป็นรัฐประหารที่เกิดขึ้นเพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลายออกไปเพราะประชาชนร่ำๆจะจับอาวุธออกมาเข่นฆ่ากันเต็มทีซึ่งจากข้อเท็จจริงนั้นมีประชาชนที่มาชุมนุมใจกลางกรุงเทพมหานคร ได้รับบาดเจ็บล้มตายไปแล้วเป็นจำนวนถึง 24 ศพ
หากวิเคราะห์เจาะลึกไปถึงข้อเขียนและบทความของสำนักข่าวในต่างประเทศ เช่น สำนักข่าวของอังกฤษหรือบีบีซี การวิเคราะห์ไม่ได้มองถึงการรัฐประหารแต่ละครั้งว่าที่มาที่ไปเป็นมาอย่างไรโดยเฉพาะการกระทำของรัฐบาลในระบอบทักษิณได้สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะการใช้นโยบายประชานิยมแบบสุดขั้วและสุดลิ่มทิ่มประตู อย่างกรณีใช้นโยบายรับจำนำข้าวทุกเมล็ดทำให้รัฐบาลเสียเงินไปในโครงการนี้ เป็นจำนวนสูงถึง1 ล้านล้านบาท
หากมองลึกลงไปในรายละเอียดของโครงการจะพบว่ามีช่องโหว่ก่อให้เกิดการทุจริตตามมาสร้างความเสียหายอีกเป็นแสนๆ ล้านบาท เมื่อมีผู้ต่อต้านเรียกร้องให้รัฐบาลยุติหรือระงับนโยบายไว้ก่อน รัฐบาลในระบอบทักษิณกลับไม่ยอมฟังและดำเนินการตามโครงการต่อไปแบบดื้อดึงคล้ายๆกับว่าจะต้องทำให้ได้
โดยอ้างว่าประชาชนต้องการทั้งๆ ที่ไทยนั้นมีกฎหมายประมวลรัษฎากรที่ล้าสมัยโดยเฉพาะการไปให้อภิสิทธิ์เกษตรกรไทยทุกๆ ประเภทไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ ไม่ว่าจะเป็นใครซึ่งเป็นกฎหมายเก่าที่ใช้มาถึง 70-80 ปีแล้วน่าจะต้องมีการทบทวนใหม่เพราะเกษตรกรไทยปัจจุบันที่มีฐานะร่ำรวย มีรายได้ปีละหลายล้านบาทก็มีเป็นแสนๆ คน ทำไมถึงได้รับยกเว้นไม่ต้องมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ถือว่าเป็นการเอาเปรียบประชาชนในอาชีพอื่นๆ เป็นเรื่องที่ถือว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี