ในตอนนี้จะได้กล่าวถึงบทสรุปของความเป็นอิสระทางการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทยซึ่งเป็นตอนสุดท้าย
๔.บทสรุป
เนื่องจากความเป็นอิสระทางการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลักการกระจายอำนาจการปกครองตามที่กล่าวมาข้างต้น ดังนั้น ประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยจึงได้บัญญัติรับรองหลักความอิสระทางการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไว้ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศโดยการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดหารายได้และการจัดการรายจ่าย (จัดทำงบประมาณ) ของตนเองเพื่อจัดทำบริการสาธารณะตามอำนาจหน้าที่ตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างอิสระ
และการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะสามารถจัดหารายได้และการจัดการรายจ่าย(จัดทำงบประมาณ) ของตนเองได้อย่างอิสระดังกล่าว จะกระทำได้ก็แต่โดยการที่รัฐต้องกระจายอำนาจทางการคลังดังต่อไปนี้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแยกต่างหากจากรัฐ คือ (๑) การกระจายอำนาจในการจัดเก็บภาษีและการแสวงหารายได้อื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้หลักมาจากความพยายามและความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเองและพึ่งพารายได้หรือเงินอุดหนุนจากรัฐให้น้อยที่สุด และ (๒) การกระจายอำนาจด้านการจัดทำงบประมาณและการเบิกจ่าย
ทั้งนี้ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจในการจัดทำงบประมาณ (กำหนดการใช้จ่าย) ของตนเองได้โดยอิสระตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น และเมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการกระจายอำนาจทางการคลังทั้งสองประการดังกล่าวจากรัฐแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นย่อมมีความสามารถในการจัดหารายได้ด้วยตนเองโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องพยายามจัดหารายได้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ตามที่กฎหมายกำหนดและพึ่งพารายได้หรือเงินอุดหนุนจากรัฐให้น้อยที่สุด
ทั้งนี้ เพื่อความเป็นอิสระในการดำเนินงานต่างๆ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นย่อมมีความเป็นอิสระในการกำหนดการใช้จ่ายของตนเองและสามารถดำเนินการหรือริเริ่มงานอื่นๆ ได้อย่างอิสระตามที่ตนเห็นว่าจำเป็นและเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นโดยที่รัฐหรือส่วนกลางไม่สามารถเข้ามาควบคุมสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินกิจการต่างๆ ได้ตามใจชอบดังเช่นกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐและการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดเก็บรายได้ด้วยตนเองดังกล่าวจะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มมากขึ้นซึ่งจะมีผลทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพียงพอกับรายจ่ายที่จะต้องจ่ายไปเพื่อจัดทำบริการสาธารณะตามอำนาจหน้าที่และเมื่อใดก็ตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำบริการสาธารณะไม่ต้องตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นย่อมจะต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้เสียภาษีโดยตรง
และในการใช้จ่ายรายได้ที่จัดเก็บได้ดังกล่าวองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของรายได้ที่จัดเก็บได้นั้นและจะใช้จ่ายเงินนั้นด้วยความระมัดระวังภายในกรอบวงเงินที่ตนเองจัดเก็บได้และการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเป็นอิสระทางการเงินการคลังทั้งในด้านรายได้และรายจ่ายดังกล่าว ย่อมมีผลทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดทำบริการสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นและสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเป็นอิสระทางการเงินการคลังแยกต่างหากจากรัฐดังกล่าวย่อมมีผลทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเป็นอิสระในการปกครองตนเองอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ตามที่บัญญัติรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับต่างๆ ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
อย่างไรก็ตาม แม้ความเป็นอิสระทางการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีความสำคัญกับการเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าการที่องค์กรใดจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือไม่ไม่จำเป็นที่องค์กรนั้นจะต้องมีรายได้เพียงพอกับความต้องการหรือรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่เพิ่มมากขึ้นตามความเปลี่ยนแปลงของสังคมที่มีความเป็นพลวัตรตลอดเวลาในขณะที่รายได้ที่รัฐกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บได้เองมีจำนวนจำกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงไม่สามารถหารายได้ของตนเองมาใช้จ่ายให้เพียงพอกับอำนาจหน้าที่ที่เพิ่มมากขึ้นได้
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องเข้าดำเนินการดังกล่าวโดยการให้เงินอุดหนุนแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดทำบริการสาธารณะได้ตามอำนาจหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว และโดยเฉพาะอำนาจหน้าที่ในการ จัดทำบริการสาธารณะพื้นฐานให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นหรือบริการสาธารณะที่เกินขีดความสามารถที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะสามารถดำเนินการได้ด้วยงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเองรัฐต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการดังกล่าวโดยการให้เงินอุดหนุนตามความจำเป็นหรือเข้าดำเนินกิจการนั้นเองด้วยงบประมาณของรัฐเพราะรัฐยังมีหน้าที่ในการจัดทำบริการสาธารณะโดยรวมของประเทศแม้จะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินกิจการนั้นๆ แล้วก็ตาม
แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐทุกรัฐต่างก็มีความพยายามที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถพึ่งพาตนเองได้โดยการเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บได้เองให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้นและกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถหารายได้อื่นๆ ได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพียงพอกับรายจ่ายตามอำนาจหน้าที่และสามารถใช้จ่ายรายได้นั้นได้อย่างอิสระเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ
นางสาวกฤฏิฎีกา ทองเพ็ชร
นิติกรปฏิบัติการ สำนักงานคดีปกครองระยอง
หมายเหตุ : โปรดดูบทความนี้ทั้งหมดที่หนังสือ “อาจาริยบูชา 80 ปี ศาสตราจารย์(พิเศษ) ดร.ปรีชา สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี