ล่าสุด เครือข่ายกรณีทุจริตสินบนบ้านเอื้ออาทร ถูก ปปง.อายัดทรัพย์แล้ว มูลค่า 51 ล้านบาท
1. เว็บไซต์ ปปง. ได้รายงานข้อมูลการอายัดทรัพย์ตามกฎหมาย ปปง.
ระบุว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 คณะกรรมการธุรกรรม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งที่ ย.51/2562 เรื่องอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราว กรณีเรื่องร้องเรียนนายวัฒนา เมืองสุขอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)มีพฤติการณ์ทุจริต เรียกรับสินบนโครงการบ้านเอื้ออาทร อันเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ผู้ร้องเรียนได้แจ้งว่านายวัฒนา จะหาบริษัทหรือบุคคลมารับทำโครงการบ้านเอื้ออาทร และส่งเรื่องให้การเคหะแห่งชาติรออนุมัติ โดยมีข้อแม้ว่าผู้ร่วมโครงการจะต้องจ่ายค่าตอบแทนยูนิตละ 10,000 บาท
ปัจจุบัน คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
คำสั่งอายัดทรัพย์ระบุว่า กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายวัฒนา กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดดังกล่าว โดยทรัพย์สินที่ ปปง.อายัด เป็นที่ดิน 13 แปลง ในพื้นที่เขตลาดพร้าว และเขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
อยู่ในชื่อนางสุดา คุณจักร
รวมราคาประเมิน 51,532,950 บาท
ผู้ถูกอายัดสามารถขอให้เพิกถอนคำสั่งอายัดได้ โดยนำหลักฐานไปแสดงต่อ ปปง. ว่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดมิได้เกี่ยวข้องหรือได้มาจากการกระทำความผิดอย่างไร ภายใน 30 วัน
2. น่าสังเกตว่า คดีทุจริตสินบนบ้านเอื้ออาทร ที่อยู่ในชั้นศาลฎีกาฯ นั้น มีจำเลย 19 ราย
ประกอบด้วย
กลุ่มนักการเมือง ได้แก่ นายวัฒนา เมืองสุข รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ระหว่างวันที่ 2 ส.ค. 2548-19 ก.ย. 2549) นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย
กลุ่มเจ้าหน้าที่ ได้แก่ นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ กรรมการ กคช. และประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการ
กลุ่มเอกชน ได้แก่ นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย, นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร (เสี่ยเปี๋ยง), น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง (พนักงานบริษัท เพรซิเด้นท์ฯ ลูกน้องเสี่ยเปี๋ยง), น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว ลูกน้องเสี่ยเปี๋ยง, น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา, บริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริเทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท พาสทิญ่า ไทย จำกัด ผู้รับเหมาโครงการบ้านเอื้ออาทร, นายซาร์นน บินยาขอบ กรรมการบริษัท พาสทิญ่าฯ, นายโมฮ์ด ฮานาเปียร์ บิน อับดุล อาซิล กรรมการบริษัท พาสทิญ่าฯ, นายอาฮ์มัด บิน ฮารอน กรรมการบริษัท พาสทิญ่าฯ, นายศักดิ์สิทธิ์ หรือเดชวรกุล อลังการกุล กรรมการบริษัท พาสทิญ่าฯ, บริษัท นามแฟทท์คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด, นายลาว ซี ฮุง, บริษัท ไทย เฉนหยู อินเตอร์เนชั่นแนลคอนสตรัคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ บริษัท พรินซิพเทคไทย จำกัด, น.ส.สุภาวิดา คงสุข
ไม่ปรากฏชื่อ นางสุดา คุณจักร ที่มีชื่อครอบครองที่ดินที่ถูก ปปง.อายัดล่าสุดแต่อย่างใด
แต่ถ้าใครติดตามขบวนการของเสี่ยเปี๋ยง จะคุ้นชื่อนี้เป็นอย่างดี
เพราะนางสุดา คุณจักร เป็นอดีตผู้หุ้นใหญ่บริษัทสยามอินดิก้า จำกัด มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเสี่ยเปี๋ยง ผู้ต้องโทษคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ตามกฎหมาย ปปง. สามารถติดตามยึดอายัดทรัพย์ได้ แม้ทรัพย์นั้นจะไม่ได้อยู่ในชื่อของผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาด้วยก็ตาม
3. สำหรับคดีทุจริตสินบนบ้านเอื้ออาทร จำเลยยังไม่ได้ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิด ยังมีสิทธิต่อสู้พิสูจน์ตนเองในชั้นศาลฎีกาฯ ซึ่งศาลให้นำพยานขึ้นไต่สวนทั้งหมด 82 ปาก
กำหนดวันนัดไต่สวนพยานโจทก์ วันที่ 3, 10 มิ.ย. แล้วต่อไป 8, 12, 15, 19 ก.ค. และต่อไป 5, 16, 19, 26 ส.ค.2562 รวม 10 นัด และไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 4, 13, 20, 27 ก.ย.2562 รวม 4 นัด
ประเด็นของคดี ไม่ใช่ว่าบ้านสร้างเสร็จหรือไม่เสร็จ
ไม่ใช่เรื่องฮั้วประมูล
ไม่ใช่เรื่องผู้รับเหมาทิ้งงาน
ไม่ใช่เรื่องขาดทุนหรือกำไร
แต่ประเด็นที่ต้องพิสูจน์กันในศาลฯ คือ มีการเรียกรับสินบนในโครงการบ้านเอื้ออาทร หรือไม่?
และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือไม่?
นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ กรรมการ กคช. และประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการ รวมทั้งนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ฝ่ายการเมืองในขณะนั้น คือตัวละครหลักที่จะต้องพิสูจน์ความสุจริตของตนเอง
4. สำนักข่าวอิศรา ได้เคยรายงานสรุปประเด็นสำคัญของการตรวจสอบในเรื่องนี้
ระบุว่า ที่มาของคดีมาจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้กล่าวหา นายวัฒนา เมืองสุข ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเรียกรับสินบนจากบริษัท พาสทิญ่า จำกัด ผู้รับเหมาโครงการบ้านเอื้ออาทร ผ่านบริษัทและลูกจ้างบริษัท เพรซิเด้นท์ เทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 82.6 ล้านบาท
โครงการบ้านเอื้ออาทร มีเป้าหมาย 609,001 หน่วย มูลค่าลงทุน 2.86 แสนล้านบาท
เงินลงทุนก่อสร้างแล้วประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่ถูกตรวจสอบ ลงมือก่อสร้างจำนวน 347 โครงการ
ในช่วงปี 2548-2549 ที่นายวัฒนา เป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ได้ผลักดันให้เกิดการก่อสร้างแบบระบบเทิร์นคีย์ แทนแบบเดิมที่การเคหะฯ จ้างเอกชนมารับเหมาก่อสร้างบนที่ดินของการเคหะฯ (แบบเดิมใช้โครงการระยะ 1-2 ปีแรก หรือช่วงปี 2546-2547)
ระบบเทิร์นคีย์ มี 2 แบบ คือ ระบบเทิร์นคีย์เฉพาะโครงการ คือ การเคหะฯรับซื้อโครงการจากเอกชน ซึ่งรูปแบบนี้ใช้ในช่วงระยะที่ 3-4 ปี 2548 แต่มีความล่าช้า จึงเปลี่ยนมาใช้ระบบเทิร์นคีย์แบบเหมาโครงการ
นายวัฒนาเป็นคนผลักดันระบบเทิร์นคีย์แบบเหมาโควตา อ้างต้องการนำโครงการที่มีความล่าช้า 4 แสนหน่วย มาจัดสรรให้เอกชนแต่ละราย ซึ่งเอกชนเมื่อได้โควตาก็จะไปจัดหาที่ดินมาเสนอทำสัญญารับเหมากับการเคหะฯ เป็นลอตๆ เช่น โครงการละ 1,000 หน่วย หรือ 2,500 หน่วย เป็นต้น
บริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด เป็นหนึ่งในเอกชนที่ได้โควตารับเหมากับการเคหะฯ
วันที่ 31 ม.ค. 2549 บริษัท พาสทิญ่าไทย โดยนายฮาฮ์มัด บิน ฮารอน และนายซาร์นน บินยาขอบ กรรมการผู้จัดการ ได้ทำสัญญาร่วมดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทรกับการเคหะฯ จำนวน 7,500 หน่วย (สัญญาฉบับเลขที่ กคช.18/2549) ประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัยสูง 5 ชั้น ขนาด 33 ตารางเมตร
การเคหะฯ จ่ายค่าตอบแทนเป็นราคาเหมารวมต่อหน่วย ซึ่งเป็นราคาที่รวมค่าที่ดินและค่าก่อสร้าง ค่าวัสดุ ค่าแรงงาน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีอากรอื่นๆ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ในราคาหน่วยละ 420,000 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,150 ล้านบาท ได้แก่
1.โครงการสวนพลูพัฒนา ตามสัญญาเลขที่ บค.3-05/2548 จำนวน 560 หน่วย
2.โครงการผดุงพันธ์ ตามสัญญาเลขที่ บค.3-34/2548 จำนวน 1,385 หน่วย
3.โครงการนนทบุรี (วัดกู้ 3) จำนวน 1,200 หน่วย
4.โครงการบ้านเอื้ออาทรสมุทรปราการ 2 (วัดคู่สร้าง 1) จำนวน 1,080 หน่วย
5.โครงการบ้านเอื้ออาทรสมุทรปราการ 2 (วัดคู่สร้าง1 ) จำนวน 1,200 หน่วย
6.โครงการบ้านเอื้ออาทรปทุมธานี (ลำลูกกาคลอง 2) จำนวน 2,608 หน่วย
และ 7.โครงการบ้านเอื้ออาทรสมุทรสาคร (กระทุ่มแบน 3) จำนวน 2,160 หน่วย รวมมูลค่าโครงการ 2,500 ล้าน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี