กกต.พลิกความคาดหมายที่มีมาแต่เดิมว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งประมาณ 95% ก่อน เพื่อให้การเลือกตั้งแล้วเสร็จภายในเวลาที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ คือภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 แต่ปรากฏว่า กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเกือบทั้งหมด ยกเว้นเขตเลือกตั้งเดียวที่ต้องเลือกตั้งใหม่
ซึ่งเป็นหนทางแห่งความสวัสดีของ กกต. เพราะทำให้ผู้เดือดร้อนเสียหายมีน้อยลง อันจะเป็นทางหลีกเลี่ยงไม่ต้องถูกกล่าวหาฟ้องร้องโดยไม่จำเป็น
ดังนั้นเมื่อ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งแล้ว และศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยแล้วว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งมาตรา 128 ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 กกต.จึงสามารถประกาศรับรอง สส. แบบบัญชีรายชื่อได้เกือบทั้งหมดด้วยเช่นเดียวกัน
และเมื่อประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเกิน 95% แล้ว ภายใน 15 วันก็จะมีการประกอบรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก จากนั้นก็จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อเลือกประธานแห่งสภานั้นๆ ซึ่งน่าจะไม่ช้ากว่า 10 วัน หลังจากรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาแล้ว
ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นตำแหน่งของประธานรัฐสภาตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติด้วย โดยประธานวุฒิสภาจะเป็นรองประธานรัฐสภา จากนั้นก็จะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธานรัฐสภา จะเป็นประธานในการประชุม
ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญมากในหลายสถาน โดยปกติจึงเป็นตำแหน่งของพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและตำแหน่งประธานรัฐสภานั้นมีบทบาทสำคัญต่อการดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพและความราบรื่นในกิจการรัฐสภาและการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลด้วย
ความสำคัญของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและตำแหน่งประธานรัฐสภาที่สำคัญมีดังต่อไปนี้
ประการแรก ต้องเป็นผู้ที่มีบารมีในทางการเมืองเพียงพอ มีมิตรไมตรีกับทุกพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อให้สามารถประสานงานในการทำงานร่วมกันในกิจการรัฐสภาได้ มิฉะนั้นก็จะมีความวุ่นวายสับสนขึ้น เช่นการนับองค์ประชุมบ้าง หรือการเล่นเกมพิลึกพิลั่นในสภาบ้าง จนทำให้กิจการสภามีปัญหาและกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
ประการที่สอง ประธานรัฐสภาต้องได้รับความเชื่อถือว่ามีความเป็นกลางทางการเมืองพอสมควรที่สามารถผ่อนปรนหรือประสานงานต่างๆ ให้กับสมาชิกได้ จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางแห่งความสามัคคีของสมาชิก และเป็นศูนย์กลางแห่งความเชื่อมประสานสมาชิกจากทุกพรรคการเมือง ซึ่งเพื่อทำหน้าที่นี้ก็ต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มาก เป็นที่รู้จักและยอมรับกันของสมาชิกโดยทั่วไป ที่สำคัญคือต้องมีฐานะอันสมควรในการจัดประสานงานทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กับสมาชิกด้วย
ประการที่สาม ประธานรัฐสภาคือประมุขฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นตัวแทนฝ่ายนิติบัญญัติในการประสานงาน ในการเยี่ยมเยือน และในการดำเนินกิจกรรมของรัฐสภาในต่างประเทศ คือต้องมีความเป็นสากลที่พูดจาภาษาอังกฤษได้อย่างแคล่วคล่อง รู้ขนบธรรมเนียมต่างประเทศเป็นอย่างดี รู้ระบบ protocol หรือพิธีการทางการทูตต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และเป็นที่รู้จักของสมาชิกรัฐสภา
ต่างประเทศเป็นการทั่วไปด้วย มิฉะนั้นก็จะกระทบต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของชาติอย่างร้ายแรง
ประการที่สี่ ต้องแม่นยำในรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และข้อบังคับสภา ตลอดจนมีบารมีเป็นที่นับถือของข้าราชการทั้งปวงของรัฐสภา
ประการที่ห้า ต้องมีความสง่างามและองอาจที่จะปฏิบัติภารกิจการงานต่าง ๆ ของรัฐสภา ซึ่งรวมทั้งการเข้าร่วมการพระราชพิธีต่าง ๆ ตามภารกิจของประธานรัฐสภา
ประการที่หก ต้องมีประสบการณ์และความสามารถในการประคับประคองให้การทำงานของสภาและรัฐบาลเป็นไปโดยราบรื่น แม้จะยึดหลักข้อบังคับในการดำเนินงานกิจการรัฐสภา ก็ยังต้องมีถ้อยทีถ้อยท่าอาศัยกันกับรัฐบาลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการพิจารณาเบื้องต้นว่ากฎหมายใดเกี่ยวกับการเงินหรือไม่ และกฎหมายหรือการดำเนินการใดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติที่จะต้องนำเสนอคณะกรรมการร่วมเพื่อพิจารณาว่าจะต้องให้สมาชิกวุฒิสภาเข้าร่วมประชุมพิจารณาด้วยหรือไม่
ดังนั้นเมื่อตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและตำแหน่งประธานรัฐสภามีความสำคัญมากถึงปานนี้ การจัดวางตัวบุคคลที่เหมาะสมและปรีชาสามารถเข้าดำรงตำแหน่งจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นตำแหน่งที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายต่างก็เฝ้าปองหมายตาเป็นมัน
เพราะเนื่องจากถ้าผิดไปจากพรรคที่เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลแล้ว และตำแหน่งนี้ไปตกอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล ก็หมายความว่านับแต่นั้นไปความเป็นตายร้ายดีของรัฐบาลก็จะอยู่ในกำมือของพรรคร่วมรัฐบาล และอาจเป็นหนทางให้รัฐบาลต้องจำยอมต่อการเรียกร้องต่างๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่สอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดินหรือนโยบายแห่งรัฐ หรือนโยบายของรัฐบาลก็ได้
ดังนั้นใครจะได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรจึงเป็นเรื่องที่คนไทยทั่วประเทศจะต้องจับตาดูให้ดี!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี