วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 02.00 น.
เรื่องที่รัฐบาลใหม่ควรสานต่อ

ดูทั้งหมด

  •  

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้แถลงข่าว “ประเมินผลงาน ปฏิรูป 5 ปี รัฐบาลประยุทธ์ (1): ติดตามความคืบหน้าแก้ปัญหาประเทศ”


ทีดีอาร์ไอได้ชี้ให้เห็นทั้งเรื่องที่รัฐบาล คสช.ทำสำเร็จ และเรื่องที่ควรสานต่อในรัฐบาลต่อไป

ยกตัวอย่างบางประเด็นที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้

1. เรื่องเกี่ยวกับการเกษตร

ทีดีอาร์ไอระบุว่า รัฐบาล คสช.สามารถผลักดันให้เกิดผลสำเร็จในหลายเรื่อง เช่น

การขายข้าวจากโครงการจำนำข้าว 17.76 ล้านตัน ได้ในเวลาไม่ถึง 4 ปี ถือว่าเร็วกว่าในอดีต (ยกเว้นส่วนที่ติดคดีประมาณ 3.45 แสนตัน) โดยใช้วิธีประมูลอย่างโปร่งใส ซึ่งช่วยลดภาระการขาดทุน และลดแรงกดดันราคาข้าวไทยให้อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ชาวนาได้ประโยชน์และการค้าข้าวกลับสู่ภาวะปกติ และไทยสามารถทวงคืนส่วนแบ่งตลาดข้าวหอมในฮ่องกงที่สูญเสียให้แก่เวียดนามในช่วงนโยบายจำนำข้าวทุกเมล็ด

การอุดหนุนโดยตรงแก่เกษตรกร องค์กรของเกษตรกรและโรงสี เช่น การช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว การให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าว การชดเชยดอกเบี้ยให้โรงสีในการเก็บสต๊อกข้าว เป็นต้น ซึ่งโดยรวมแล้ว ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิสูงขึ้น โดยรัฐไม่เข้าแทรกแซงหรือสร้างผลกระทบต่อตลาดมาก

การแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานหรือขาดการควบคุม (IUU) โดยรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วตามแรงกดดันของสหภาพยุโรป ทำให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าประมงไปสหภาพยุโรปได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาในระยะแรกละเลยผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวประมงพื้นบ้าน และให้การเยียวยาผู้เสียหายล่าช้ากว่า 4 ปี โดยเพิ่งชดเชยค่าซื้อเรือในงวดแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 นอกจากนี้ ยังมีปัญหาขัดแย้งระหว่างประมงชายฝั่งกับประมงเชิงพาณิชย์ที่ยังไม่ได้รับแก้ไขอย่างเพียงพอ

ทีดีอาร์ไอระบุว่า รัฐบาลใหม่ควรดำเนินการพัฒนา ดังนี้

จัดให้มีการวิจัยที่อิงความต้องการของตลาด โดยเน้นการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มการผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง และช่วยเกษตรกรปรับตัวรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ โดยให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมกำหนดทิศทาง เป้าหมายและออกค่าใช้จ่ายบางส่วน

ปรับบทบาทของรัฐจากผู้ดำเนินการส่งเสริมเอง มาเป็นผู้สนับสนุนทุนและทรัพยากรในการส่งเสริมการเกษตรของภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน มหาวิทยาลัยและกลุ่มเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพิ่มผลิตภาพ และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อย่างเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เกษตรกรและระบบการผลิตที่แตกต่างกัน

ปรับโครงสร้างภาคเกษตรให้มีความสามารถในการแข่งขัน โดยส่งเสริมให้เกษตรกรลงทุนปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตในระยะยาว ทั้งการเปลี่ยนชนิดพืช เทคโนโลยี ลงทุนปรับปรุงที่ดินเพื่อทำเกษตรมูลค่าเพิ่มสูง หรือเกษตรแปลงใหญ่ โดยให้เกษตรกรผู้เช่าและเจ้าของที่ดินร่วมกันลงทุนระยะยาวในรูปนิติบุคคลหรือในระบบพันธสัญญา เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน โดยรัฐบาลสนับสนุนด้านความรู้และการเงิน และขจัดอุปสรรคด้านกฎระเบียบต่างๆ เช่น กฎหมายเช่าที่ดินเกษตรและกฎหมายบังคับคดี ซึ่งทำให้ต้นทุนทางการเงินเพื่อลงทุนการเกษตรอยู่ในระดับสูง

2. เรื่องการปฏิรูปการศึกษา

ทีดีอาร์ไอระบุว่า รัฐบาล คสช.สามารถผลักดันให้เกิดผลสำเร็จในหลายเรื่อง เช่น

การตั้ง “กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา” สร้างระบบสารสนเทศเพื่อระบุตัวตนเด็กยากไร้ รายงานสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำ และจัดสรรเงินช่วยเหลือ
เด็กยากจน โดยได้จัดสรรไปแล้วราว 4 แสนคน

การจัดตั้ง “พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา” ขึ้นมาใน 6 พื้นที่ เพื่อใช้กลไกจังหวัดขับเคลื่อนการศึกษา ขยายผลนวัตกรรมการเรียนรู้รูปแบบใหม่ และเพิ่มอิสระให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ซึ่งเข้าร่วม

การออก พ.ร.บ. การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 เพื่อสร้างหลักประกันให้เด็กเล็กได้รับการดูแลพัฒนาการอย่างเหมาะสม

ทีดีอาร์ไอระบุว่า รัฐบาลใหม่ควรดำเนินการ ดังนี้

เพิ่มทรัพยากรให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ให้สามารถลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้มากขึ้น

สนับสนุนการจัดการการศึกษารูปแบบใหม่ในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 6 พื้นที่ซึ่งดำเนินการไปแล้ว โดยออกกฎระเบียบระดับรองเพื่อลดอุปสรรคในการสร้างนวัตกรรมทางการศึกษา กระตุ้นให้หน่วยงานด้านการศึกษาของรัฐในพื้นที่ให้การสนับสนุน และส่งเสริมการประเมินผลการดำเนินงานบนฐานของข้อมูลจริง

เพิ่มการพัฒนาทักษะผู้อำนวยการโรงเรียนให้สามารถเป็น “ผู้นำวิชาการ” ที่ทำให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู (PLC) ได้จริง และเพิ่มช่องทางในการจัดสรรเงินงบประมาณการพัฒนาครูโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ซึ่งจะทำให้ครูไม่ต้องออกนอกพื้นที่และสามารถร่วมพัฒนาโรงเรียนไปในทิศทางเดียวกันได้

ลดภาระจากการประเมิน โดยลดจำนวนโครงการต่างๆ ที่สร้างภาระการประเมินให้แก่ครูเพื่อคืนครูสู่ห้องเรียนเพิ่มขึ้น โดยสำรวจโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่และบูรณาการโครงการที่มีเป้าหมายคล้ายคลึงกันเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะโครงการด้านคุณธรรมและจริยธรรมที่ซ้ำซ้อนกันจำนวนมาก

3. เรื่องการคมนาคม

ทีดีอาร์ไอระบุว่า รัฐบาล คสช.สามารถขับเคลื่อนสำเร็จ เช่น

โครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งได้อนุมัติให้เริ่มก่อสร้างไปแล้ว 5 เส้นทาง เพิ่มเติมจากเส้นทางเดิมที่มีการก่อสร้างอยู่แล้ว ซึ่งจะมีผลให้มีการเปิดรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ อย่างน้อยปีละหนึ่งเส้นทาง ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปต่อเนื่องไปหลายปี

โครงการรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งได้อนุมัติให้เริ่มก่อสร้างไปแล้วหลายช่วง ซึ่งจะทำให้ระบบรถไฟระหว่างเมืองซึ่งเดิมเป็นทางเดี่ยว มีความจุและมีคุณภาพของบริการที่ดีมากขึ้นในอนาคต และคาดว่าจะทำให้เกิดการลงทุนในการก่อสร้างและงานระบบกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี ต่อเนื่องไปตลอด 3-4 ปีข้างหน้า

การจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่งสามารถย้ายจุดจอดรถตู้โดยสารระหว่างจังหวัดไปยังสถานีขนส่ง ซึ่งช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด แม้จะทำให้เกิดความไม่สะดวกของผู้ใช้บริการบางส่วน

การจำกัดอายุรถตู้โดยสารสาธารณะไว้ที่ 10 ปี และติดตั้ง GPS กับรถโดยสารประจำทางเพื่อกำกับดูแลด้านความเร็ว ซึ่งช่วยลดอุบัติเหตุร้ายแรงได้บางส่วน

สิ่งที่รัฐบาลใหม่ควรดำเนินการ เช่น

วางกลไกให้ระบบรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางต่างๆ สามารถใช้งานร่วมกันได้ เพื่อสร้างการประหยัดจากขนาด และเพิ่มประสิทธิภาพของบริการ, วางกลไกบริหารจัดการสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ เพื่อแก้ไขปัญหาค่าโดยสารที่จะมีราคาแพงในอนาคต, จัดระเบียบรถแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ตลอดจนเปิดเสรีบริการการใช้แอพพลิเคชั่นเรียกรถรับจ้างสาธารณะ ควบคู่ไปกับการปรับอัตราค่าโดยสารขั้นต่ำของรถแท็กซี่

4. เรื่องสวัสดิการสังคมและการลดความเหลื่อมล้ำ

ทีดีอาร์ไอระบุว่า รัฐบาล คสช.มีผลงานสำคัญ เช่น

การจัดทำโครงการ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ซึ่งมุ่งช่วยเหลือประชาชนยากจนแบบเจาะจง ประมาณ 14.5 ล้านคน โดยบูรณาการข้อมูลจากแหล่งต่างๆ จำนวนมาก 
แทนการให้สวัสดิการถ้วนหน้าที่ใช้ในรัฐบาลก่อนหน้า (เช่น โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุถ้วนหน้า) ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ จากโครงการนี้มีส่วนช่วยลดภาระทางการเงินที่เป็นรายจ่ายประจำ ทำให้ผู้ถือบัตรสามารถวางแผนการใช้จ่ายระยะปานกลางได้ดีขึ้น

โครงการให้เงินอุดหนุนการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดในครอบครัวยากจน ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาวที่มีผลตอบแทนการลงทุนทางสังคมสูงมาก

การออก พ.ร.บ. ภาษีการรับมรดก พ.ศ. 2558 ได้สำเร็จภายในเวลา 1 ปีหลังรับตำแหน่ง และออก พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ในช่วงปลายรัฐบาล ทั้งที่รัฐบาลก่อนหน้าไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ในความพยายามลดความเหลื่อมล้ำ แม้มาตรการนี้มีประสิทธิผลน้อย

ทีดีอาร์ไอระบุว่า รัฐบาลใหม่ควรดำเนินการ ดังนี้

พัฒนาโครงการ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ต่อเนื่องไป โดยปรับปรุงรายละเอียดของโครงการตามผลการประเมิน ซึ่งควรดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ ในขณะเดียวกัน ควรใช้สวัสดิการแบบถ้วนหน้าสำหรับสวัสดิการที่สำคัญและมีผลตอบแทนในการลงทุนสูง เช่น สวัสดิการเด็กปฐมวัย

เร่งเตรียมความพร้อมของแรงงานกลุ่มเสี่ยง ทั้งการพัฒนาระบบเพื่อสร้างทักษะที่เหมาะสมกับประชากรกลุ่มเสี่ยง และเตรียมสร้างตาข่ายสังคม (Safety Net) เพื่อรองรับแรงงานที่ตกงานจากการตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

5. ทีดีอาร์ไอได้สรุปภาพรวมไว้อย่างน่าสนใจว่า “ตลอดระยะเวลา 5 ปีในการดำรงตำแหน่ง รัฐบาลประยุทธ์ได้สร้างผลงานที่สำเร็จออกมาเป็นรูปธรรมไว้หลายด้าน ริเริ่มโครงการใหม่ๆ ที่มีประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งสมควรได้รับการสานต่อ ในทางกลับกัน รัฐบาลก็ดำเนินนโยบายอีกหลายด้านที่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือแม้กระทั่งก่อให้เกิดปัญหา ซึ่งเกิดขึ้นจากทั้งความเข้าใจผิด การกำหนดนโยบายโดยไม่ผ่านการปรึกษาหารืออย่างรอบด้าน การรวมศูนย์อำนาจ การใช้ระบบราชการและรัฐวิสาหกิจเป็นหลักในการขับเคลื่อนนโยบาย โดยละเลยกลไกอื่นที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ตลอดจนการที่รัฐบาลถูกแทรกแซงโดยกลุ่มผลประโยชน์ นโยบายในกลุ่มหลังนี้สมควรได้รับการทบทวนและปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งยกเลิกไปโดยรัฐบาลใหม่”

สมควรที่รัฐบาลใหม่ นำโดยพลเอกประยุทธ์ จะได้พิจารณาประกอบการตัดสินใจต่อไป โดยยึดถือเอาประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติเป็นสำคัญ

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:16 น. ‘ชัยวุฒิ’จี้‘พรรคประชาชน’เลิกโฟกัสแก้รัฐธรรมนูญ เรียกร้องทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย
12:01 น. ‘นักวิชาการ’ขยี้‘ระบอบฮุน เซน’ต้นตอขัดแย้ง‘ไทย-กัมพูชา’ ชม‘อนุทิน’เปิดหน้าชน‘มหาอำนาจ’
11:46 น. ‘กต.’เปิดสมรภูมิโซเชียล ‘สถานทูตไทย’ 90 แห่งทั่วโลกโพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริง‘ชายแดนไทย-กัมพูชา’
11:30 น. ถอดจุดแข็ง‘นักต่อรอง’ 3 รูปแบบผสานกันในศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่หลงเล่ห์‘3 เฒ่า’
11:21 น. สาวไทยไม่พลาด! คว้าทองตะกร้อทีมชุดหญิง
ดูทั้งหมด
(คลิป) สีหศักดิ์ย้ำ! กัมพูชา มีทางเลือกแค่ 2 ทาง
หนาวมาแน่! มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จ่อถล่มอีสาน เหนือ-ใต้รับมือฝนตก-คลื่นสูง
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 12-18 ธ.ค.68
เขมรหน้าแหกคาบ้าน! โพสต์ชวน'ลาว-เมียนมา-มาเลย์'มาสู้ไทย แต่เจอคอมเมนต์สวนกลับหงายเงิบ
เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33
ดูทั้งหมด
เขียนให้คิด : เงินสีเทา นักการเมืองสีเทาในเมืองไทย
บุคคลแนวหน้า : สิบแปดสิงห์
ผศ.นพ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย 2537-2568
เส้นใต้บรรทัด : เพราะ‘พรรคส้ม’จะล้ม‘อนุทิน’
บทบรรณาธิการ : 14 ธันวาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘นักวิชาการ’ขยี้‘ระบอบฮุน เซน’ต้นตอขัดแย้ง‘ไทย-กัมพูชา’ ชม‘อนุทิน’เปิดหน้าชน‘มหาอำนาจ’

สาวไทยไม่พลาด! คว้าทองตะกร้อทีมชุดหญิง

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันอาทิตย์ 14 ธันวาคม 2568

‘กองทัพ’ลั่น‘กัมพูชา’ไม่หยุดยิง ย้ำไทยมุ่ง‘สถาปนาความมั่นคงชายแดน-ทำลายขีดความสามารถทางทหาร’

เจอจะๆหลักฐานมัด‘กัมพูชา’ พบขุดคูเลต-สร้างบังเกอร์-ฐานยิงปืนใหญ่รอบ‘ปราสาทคนา’

พบโดรนปริศนาบินว่อนทั่วเมืองตราด ไทย-เขมรปะทะเดือดกลางดึก แนวรบบ้านชำราก

  • Breaking News
  • ‘ชัยวุฒิ’จี้‘พรรคประชาชน’เลิกโฟกัสแก้รัฐธรรมนูญ เรียกร้องทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ‘ชัยวุฒิ’จี้‘พรรคประชาชน’เลิกโฟกัสแก้รัฐธรรมนูญ เรียกร้องทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย
  • ‘นักวิชาการ’ขยี้‘ระบอบฮุน เซน’ต้นตอขัดแย้ง‘ไทย-กัมพูชา’ ชม‘อนุทิน’เปิดหน้าชน‘มหาอำนาจ’ ‘นักวิชาการ’ขยี้‘ระบอบฮุน เซน’ต้นตอขัดแย้ง‘ไทย-กัมพูชา’ ชม‘อนุทิน’เปิดหน้าชน‘มหาอำนาจ’
  • ‘กต.’เปิดสมรภูมิโซเชียล ‘สถานทูตไทย’ 90 แห่งทั่วโลกโพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริง‘ชายแดนไทย-กัมพูชา’ ‘กต.’เปิดสมรภูมิโซเชียล ‘สถานทูตไทย’ 90 แห่งทั่วโลกโพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริง‘ชายแดนไทย-กัมพูชา’
  • ถอดจุดแข็ง‘นักต่อรอง’ 3 รูปแบบผสานกันในศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่หลงเล่ห์‘3 เฒ่า’ ถอดจุดแข็ง‘นักต่อรอง’ 3 รูปแบบผสานกันในศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่หลงเล่ห์‘3 เฒ่า’
  • สาวไทยไม่พลาด! คว้าทองตะกร้อทีมชุดหญิง สาวไทยไม่พลาด! คว้าทองตะกร้อทีมชุดหญิง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อกัมพูชาทำให้โบราณสถาน-กาสิโน เป็นฐานทหาร

เมื่อกัมพูชาทำให้โบราณสถาน-กาสิโน เป็นฐานทหาร

12 ธ.ค. 2568

การค้าขาย การบริโภค และการออม

การค้าขาย การบริโภค และการออม

11 ธ.ค. 2568

ไทยป้องกันตนเอง

ไทยป้องกันตนเอง

10 ธ.ค. 2568

ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้

ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้

9 ธ.ค. 2568

รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง  รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ

รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ

8 ธ.ค. 2568

รูปถ่ายเก่า ไม่ชัดเท่าการกระทำ และเส้นเงิน

รูปถ่ายเก่า ไม่ชัดเท่าการกระทำ และเส้นเงิน

5 ธ.ค. 2568

พูดแล้วทำ  กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?

พูดแล้วทำ กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?

4 ธ.ค. 2568

ตรรกะสักแต่จะด่าหาแสง

ตรรกะสักแต่จะด่าหาแสง

3 ธ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved