น่าอัศจรรย์ใจเสียเหลือเกินที่ประเทศไทยมีนักการเมืองจำนวนไม่น้อยใช้คำนำหน้าชื่อว่า ดอกเตอร์ หากมองแบบผิวเผินและไม่จริงไม่จังแล้ว ก็อาจจะทำให้เรารู้สึกหลงภาคภูมิใจว่า นักการเมืองในรัฐสภาไทยเป็นผู้ใฝ่เรียนเป็นผู้มีการศึกษาสูงระดับดุษฎีบัณฑิต แล้วก็อาจทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม หลงใหลได้ปลื้มคิดเอาเองว่า เมืองไทยมีนักการเมืองซึ่งเป็นนักวิชาการผู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรียนอยู่เต็มรัฐสภา
แต่ครั้นเมื่อพิจารณาประเด็นข้างต้นให้ลึกซึ้งถึงแก่นแล้ว กลับทำให้เกิดอาการตกใจจนแทบสิ้นสติด้วยเหตุที่ต้องตั้งคำถามซ้ำๆ และย้ำๆ ว่า ปริญญาเอกสารพัดชนิดที่นักการเมืองไทยอ้างว่ามีอยู่นั้น เป็นของจริง หรือของปลอม แล้วที่ต้องถามไถ่ให้หนักก็คือ นักการเมืองจำนวนไม่น้อยรู้ดีใช่ไหมว่าตนเองถือปริญญาเอกปลอม
กรณีศึกษาเรื่องนี้ ซึ่งกำลังเกิดขึ้นกับนักการเมืองรายหนึ่งซึ่งมีตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเพียงเรื่องบนยอดภูเขาน้ำแข็งในสังคมไทย เพราะหากพินิจพิเคราะห์ให้ถึงแก่นแล้วจะพบว่ามีประเด็นปริญญาบัตรปลอมอีกมากมายในรัฐสภาไทย นี่ยังไม่นับรวมถึงการได้รับปริญญาบัตรจริง แต่ทว่าคนที่ได้รับปริญญาบัตรนั้นกลับไม่เคยเข้าศึกษาในสถาบันที่อนุมัติปริญญาบัตรให้ แต่ทว่าให้ผู้อื่นไปเรียนแทนตนเอง แต่พอถึงวันรับปริญญาบัตร กลับกลายเป็นว่าเจ้าของปริญญาบัตรคือนักการเมืองที่ไม่เคยเข้าไปศึกษาด้วยตนเอง แต่ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นเข้าเรียนแทน สอบแทน ทำงานส่งอาจารย์แทนตนเอง แต่เมื่อถึงวันรับปริญญาบัตรกลับกลายเป็นว่านักการเมืองรายนั้นเข้าไปรับปริญญาบัตรด้วยตัวเอง (เรื่องน่าสังเวชแบบนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับนักการเมืองการเมืองไทยบางคนเท่านั้น แต่ยังเกิดกับพวกนักธุรกิจระดับชาติโดยเฉพาะจำพวกที่กระสันอยากได้ปริญญาบัตรไว้เพื่อประดับฝาโลงอีกด้วย)
มีคำถามว่า ทำไมนักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยจึงต้องการให้มีคำว่า ดอกเตอร์ นำหน้าชื่อของตนเอง ซึ่งต้องย้ำว่าไม่ใช่เรื่องผิดแปลก ถ้าหากนักการเมืองเหล่านั้นร่ำเรียนจริงและร่ำเรียนในสถาบันการศึกษาขั้นอุดมศึกษาที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษาจากแวดวงวิชาการโดยแท้จริง
แต่หากจะค้นกันให้ลึกถึงแก่นแล้วจะพบว่านักการเมืองจำพวกที่ชอบใช้คำนำหน้านามตนเองว่า ดอกเตอร์นั้น มีจำนวนไม่น้อยที่ในสมัยเป็นนักเรียนกลับเป็นคนที่ไม่เคยให้ความสนใจกับการเรียนแม้แต่น้อย แต่ที่น่าตั้งข้อสังเกตอย่างมากก็คือ คนจำพวกนี้ไม่เคยได้ร่ำเรียนในสถาบันอุดมศึกษาที่มีมาตรฐานของประเทศไทย จนกระทั่งวันหนึ่งได้นำพาตัวเองเข้าสู่แวดวงแห่งอำนาจรัฐ ก็กลับปรากฏผลอย่างน่าอัศจรรย์ใจว่า นักการเมืองจำพวกนี้กลับมีปริญญาบัตรระดับบัณฑิต และมหาบัณฑิตไว้ในครอบครองอย่างง่ายดาย ราวกับว่าสามารถเสกเป่าให้ตนเองมีปริญญาบัตรกี่ใบก็ได้ แต่เป็นปริญญาบัตรที่ไม่สามารถระบุที่มาและที่ไปของปริญญาบัตรให้กับสาธารณชนได้
เป็นเรื่องน่าสมเพชอย่างมากกับกลุ่มคนจำพวกนี้ซึ่งสาธารณชนตั้งข้อสังเกตเชิงเย้ยหยันมาโดยตลอด เนื่องจากสาธารณชนจับได้เสมอๆ ว่า เป็นกลุ่มคนที่ไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ แต่เป็นพวกดีแต่ปาก และยังพบเสมอๆ ด้วยว่า คนกลุ่มนี้ไม่น่าจะมีสติปัญญามากจนถึงกับสามารถเรียนหนังสือจบระดับปริญญาเอก แต่เรื่องแปลกนี้ก็บังเกิดขึ้นในสังคมไทยมาเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปีมาแล้ว เพราะยิ่งสาธารณชนพบเห็นเสมอๆ ว่าคนที่เป็นนักการเมืองที่เข้าข่ายไร้ปัญญานั้น แต่ไปๆ มาๆ กลับพบว่าคนจำพวกนี้มีคำนำหน้านามว่า ดอกเตอร์ กันเป็นทิวเป็นแถว ดังนั้นจึงไม่ต้องประหลาดใจเมื่อสาธารณชนตั้งคำถามว่า ตกลงปริญญาเอกที่ปลิวว่อนเต็มรัฐสภาไทยเป็นของจริงสักกี่ใบ แล้วเป็นของปลอมตั้งกี่ร้อยใบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี