เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงความเห็นอย่างมั่นอกมั่นใจในงานเสวนาหัวข้อ
“งบประมาณพัฒนาประเทศ ได้จริงหรือ?”
บางตอนกล่าวโจมตีโครงการในแผนงบประมาณปี 2563 ของ DEPA อย่างรุนแรง โดยระบุทำนองว่า จะจัดโรดโชว์ 2 ครั้ง ใช้เงิน 410 ล้านบาท มีตัวชี้วัดคือเพื่อให้เกิดการลงทุน 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนที่ขาดทุน แทนที่จะเอาเงิน 300 ล้านบาท ไปลงทุนเลยดีกว่า เพราะยังเหลืออีก 110 ล้านบาท ไปใช้อย่างอื่น
1. นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว Nuttapon Nimmanphatcharin เนื้อหาข้อเท็จจริงทำให้เห็น “ความกลวง”และ “ความขี้เท่อ” ของคนที่ชอบอวดตัวว่าเป็นนักการเมืองรุนใหม่ที่พร้อมเป็นผู้นำประเทศยุคใหม่ ระบุว่า
“...เมื่อวานมีคนส่งข่าวให้อ่าน อ่านแล้วไม่โกรธ แต่อ่านแล้ว สงสารน้องๆ ที่ตั้งใจทำ ทำด้วยความบริสุทธิ์ ทำด้วยความคิดบวก ว่าเราจะทำให้ดีผมก็นั่งคิดว่า การใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ทราบ ไม่รู้มาเผยแพร่ และทำให้หน่วยงาน พนักงาน น้องๆ นักเรียนทุน น้องๆที่มาทำงานกับเราด้วยความตั้งใจ คนที่ทำงานกับเราท้อใจ แบบนี้ แล้วเรื่องอื่นๆ เราจะเชื่อได้ไหม
เฮ้อ ประเทศไทยจะเดินต่อไปอย่างไร
จากเนื้อหาสาระของข่าว เกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมาย 300 ล้านบาทและงบ 410 ล้าน ที่เสนอของบรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2563 นั้นไม่เหมาะสมนั้น ผมขอบอกพี่น้องประชาชนคนไทย เพื่อนๆ พี่ๆ ว่า
(1) งบ 410 ล้านบาท ที่เราขอนั้น เป็นงบก่อสร้าง อาคาร World Expoที่ Dubai ที่เรารับมาทำด้วยความยากลำบาก เพราะเราใหม่ และเราเด็ก
งบส่วนนี้ เราขอตามงวดงาน และงวดเงิน ตามแผนงาน ที่เราเริ่มก่อสร้างอาคารไทยไปแล้ว ตาม มาตรา 41 ของ พ.ร.บ. งบประมาณ ไม่ใช่งบเดินทางโรดโชว์ ตามที่อ้างแบบไม่ทราบ ไม่รู้
งบก่อสร้าง ครั้งนี้ ทางกระทรวง des โดย depa ได้เอาเข้า ครม. ตั้งแต่ปี 2561 และได้ปรับลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง จากที่เคยใช้ในการ
จัดงาน World Expo จาก 320,000 บาท ต่อ ตร.ม. ตามที่ประเทศไทยเคยจัดเมื่อ 5 ปีก่อน เหลือ เพียง 245,000 ต่อ ตร.ม. ซึ่งน้องๆ ที่ช่วยกันทำด้วยความตั้งใจ ท้อใจ หลายครั้ง เพราะค่าครองชีพ ค่าใช้จ่าย และอัตราการขยายตัวของ inflation แตกต่างจากเมื่อ 5 ปีก่อนอย่างมาก แต่เราก็ทำจนสำเร็จ
ดังนั้น ขอชี้แจงว่า ดูงบประมาณ ดูให้ถูกต้อง เพราะถ้าดูไม่ถูกต้อง คนเข้าใจผิด ท่านจะทำร้ายคนทำงานหลายๆ คน ทำให้คนดีๆ คนทำงานด้วยความตั้งใจ หมดหวัง สิ้นหวัง และคิดได้นะครับ
เรื่องแค่นี้ยังมองผิด แล้วที่มากกว่านี้ จะไม่ผิดยิ่งกว่าหรือครับ
(2) ประเด็นตัวชี้วัด 300 ล้านบาท depa เรามีภารกิจในการส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลเริ่มต้น ให้เกิดการลงทุน และพัฒนาธุรกิจ โดยงบรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2563 กำหนดให้เกิดการลงทุน และไม่ค่อยมีใครกล้ารับ
depa เราเป็นหน่วยงานเดียวของรัฐ ที่เข้าไปเป็น Angle VC รับความเสี่ยงให้ วิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น ไม่ใช่การแจกเงิน แต่ร่วมลงเรือช่วยน้องๆ ที่มีความคิดให้เดินต่อได้อย่างมั่นคง
ล้มเหลวเราก็ช่วย เข้มแข็งเราก็ exist เงินรัฐในการส่งเสริมก็หมุนเวียนในระบบและช่วยให้เกิดขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และการทำงานที่น้องๆ ที่เห็นปัญหามาร่วมกันทำงบที่เราขอมา ก็โดนตัดจนเหลือนิดเดียวน้องๆ ก็ยังพยายามจะทำให้ดีที่สุดตั้งเป้าให้เกิดการลงทุนถึง 300 ล้านบาท
300 ล้าน เราตั้งเป้าหมายมาจากไหน?
มาแบบนี้ครับ เราร่วมลงทุนกับ digital startup 30 ราย รายละ1 ล้าน รวม 30 ล้าน (งบทำงานเรามีแค่นี้) และแต่ละราย มีตัวชี้วัดให้เกิดการลงทุนต่อเนื่อง รายละ 10 ล้านบาท
รวมแล้ว 300 ล้านบาท (30x10)
โดยคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัว ต่อเนื่อง ปีละกว่า 10% ในอนาคต และจะก้าวกระโดด หลังปีที่ 3
เราทำมาโดยสถาบัน Digital Startup สู้มาจนว่าคนจะเข้าใจ
อธิบายไป ก็คงเหมือนเดิม เพราะคนเขียน คงไม่เข้าใจ และยังเอาไปโยงกับ World Expo จนทำให้ประชาชน น้องๆ สับสน ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันเลย
แบบนี้ยังเสียหายขนาดนี้ มากกว่านี้จะยังไงครับ
(3) เพิ่มเติมสักหน่อยครับ การก่อสร้างอาคารไทย ใน World Expo ตัวชี้วัดปีนี้ ไม่มี ในผลลัพธ์ แต่มีตัวชี้วัดในแผนงาน และการก่อสร้างเสร็จปีงบประมาณรายจ่ายปี 2564 ช่วงเดือนต.ค. และเมื่อเสร็จ และจะมีการจัดแสดงงาน ที่เราพยายามชวนทุกกระทรวง และเอกชนมาทำงานช่วยกัน ตามประสาคนไทย และเราตั้งเป้า ว่าร้อยละ 10 จากคนไป เที่ยวชมงานที่ประเทศเจ้าภาพกำหนด 25 ล้านคน จะเข้าชมอาคารประเทศไทย หรือประมาณ 2.5 ล้านคน ตลอดการจัดงาน 6 เดือน (ต.ค. 2563-มี.ค. 2564)
2.5 ล้านคน ที่เข้าชม อาคารไทย เรามีเป้าหมาย ร้อยละ 25 จะมาเที่ยวประเทศไทย หรือประมาณ 625,000 คน
และแต่ละคนที่มาประเทศไทย จะใช้จ่ายวันละ 50 ดอลลาร์ต่อวัน หรือ 1,250 บาทต่อวันขั้นต่ำ และอยู่ในประเทศไทยประมาณ 3 วันขั้นต่ำหรือเกิดการใช้จ่ายกว่า 2,340 ล้านบาท
ถ้าจะถามถึงผลกระทบผมว่า depa ได้ พิจารณาอย่างรอบครอบครับและจะวัดการดำเนินงานในปีที่มีการเปิด อาคาร หรือปี 2564 ไม่ใช่ปี 2563 ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โปรดเข้าใจกัน และให้กำลังใจกันบ้าง
มากกว่านี้ เรายังได้เอาพระอัจฉริยภาพของพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ ที่ได้พัฒนาประเทศไทยเรา จนเรามีแผ่นดินที่คนไทยมีรอยยิ้ม มีความสุข อยู่ถึงทุกวันนี้ ไปเผยแพร่ต่อสายตานานาชาติ กว่า 2.5 ล้านคน รวมทั้งยังได้เอา ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม รากเหง้าความรักชาติ และเทคโนโลยีของเด็กไทยไปแสดงต่อสายตา สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยอีก น้องๆ ของผมที่ทำงานช่วยกันมีแค่ 2-3 คน รวม รองผม และผม เป็น 5 คน ทำงานมากัน ไม่ใช่ ส่งๆ แต่ คิด และสู้ นะครับ
และในส่วนของผลลัพธ์ ของการดำเนินการส่งเสริมทั้งหมด เราเขียนไว้ชัด 2,000 ล้านบาททางตรง และจะก่อให้เกิดการบริโภค การลงทุนต่อเนื่อง อีก 3 รอบในระบบเศรษฐกิจ หรือกว่า 6,000 ล้านบาท
ไม่เคยเขียนเล่าระหว่างรถติด นานขนาดนี้ แต่ครั้งนี้ โปรดอย่าทำร้ายคนทำงาน น้องๆ ผมเขาเสียใจ ครับ และอ่านดีๆ ถามเราก่อนแชร์ เราจะขอบพระคุณมาก
#startup”
2. โชคดีที่ได้ฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากคนทำงาน
ย้ำ “คนทำงาน”
ไม่ใช่พวก “พ่นน้ำลาย” สร้างภาพให้ตัวเองไปวันๆ
ขอให้กำลังใจคนทำงาน แม้จะไม่มีใครเห็น ขอให้ระลึกถึงคำสอนพ่อ“ปิดทองหลังพระ”
ส่วนคนที่อวดตัว พยายามเบ่งตัว เหมือนอึ่งอ่าง
ด้วยความ “หลงตัว” คิดว่าตนเองเลิศลอยกว่าทุกคน
หรือ “หลงผิด” คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะสร้างภาพ ลวงให้หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่หลงใหลว่าตนเองเป็นคนเก่งกาจสามารถกว่าทุกคนในประเทศนี้พาลคิดว่าคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่พวกตัวล้วนโง่เง่า ดักดาน
เชื่อว่า คนพวกนี้คงจะหลอก ตบตา ลวงตาคนบางคน ได้แค่บางเวลาเท่านั้นเอง
เส้นแบ่งระหว่างการขายวิสัยทัศน์ กับ “ขายขี้เท่อ” นั้น มันบางๆ จริงๆ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี