ในสื่อสังคมออนไลน์ ได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ด้วยถ้อยคำรุนแรงกรณีที่ ดร.ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร อาจารย์ภาควิชาชีวเคมี มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก นำเสนอวิชา “รักชาติยิ่งชีพ” My Beloved Country
อ้างว่า อยู่ระหว่างดำเนินการจะให้เป็นวิชาศึกษาทั่วไป จำนวนหน่วยกิต 3 (2-2-5)
ระบุคำอธิบายรายวิชา อาทิ ชาติและความรักชาติ, บทบาทและความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์, ศาสนาประจำชาติและความเสี่ยงจากผู้บ่อนทำลาย, เผด็จการประชาธิปไตยและทางรอดของชาติ, ความสำคัญของการเกณฑ์ทหารและแสนยานุภาพกองทัพ, ความสำคัญของการรัฐประหารต่อการปราบปรามคอร์รัปชั่นและปกป้องสถาบัน, ระบอบการศึกษาและความจำเป็นของระบอบอำนาจนิยม, การแบ่งแยกดินแดนและบ่อนทำลายโดยคนชายขอบ, ลัทธิชังชาติและกลยุทธ์การรับมือ, องค์กรอิสระและตุลาการวิวัฒน์ผู้ปิดทองหลังพระ ฯลฯ
ระบุชื่อ ผู้รับผิดชอบรายวิชา คือ ดร.ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร
พร้อมระบุชื่ออาจารย์ผู้สอน ประกอบด้วย 1.พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา 2.นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ (พุทธะอิสระ)3.นายเสรี สุวรรณภานนท์ 4.พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ 5. พล.อ.สนธิบุญยรัตกลิน 6.นางหฤทัย ม่วงบุญศรี 7.นายสมชัย กตัญญุตานันท์(ชัย ราชวัตร) 8.นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ 9.นายกนก รัตน์วงศ์สกุล 10.นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม 11.ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ 12.นางวาสนานาน่วม 13.นายวันชัย สอนสิริ 14.นายนุรักษ์ มาประณีต 15.นายอิทธิพรบุญประคอง 16.นายสนธิ ลิ้้มทองกุล 17.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ18.นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์
1. ปรากฏว่า กลุ่มการเมืองที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้แชร์ข้อมูลนี้ไปรุมขย้ำ ตามเพจการเมืองต่างๆ
เพราะเนื้อหาก็ดี กลุ่มการเมืองที่ลากข่าวนี้ไปรุมโทรมก็ดี ล้วนแต่เป็นขั้วการเมืองตรงข้ามของบุคคลที่มีชื่อ 18 คน ด้วยข้อกล่าวหาเช่นว่าคลั่งชาติ ผูกขาดความรักชาติ ล้างสมองบ้าง ฯลฯ
ผู้ที่ตกเป็นถูกด่าเสียๆ หายๆ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย รุนแรงคือ บุคคลที่มีชื่อทั้ง 18 คน
ปรากฏในภายหลังว่า ทั้ง 18 คน ไม่มีใครเคยได้รับการติดต่อจากอาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชาที่ว่านั้นเลย
เท่ากับว่า ถูกรุมด่าฟรีๆ เสียหายไปแล้ว
2.ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ หนึ่งในบุคคลที่ถูกระบุชื่อ ได้โพสต์อธิบายชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ค Kittitouch Chaiprasith “วิชา “รักชาติยิ่งชีพ” : กลยุทธ์สกปรกทางการเมืองรูปแบบใหม่ ในการป้ายสีผู้อื่นด้วยวาทกรรมแห่งความเกลียดชัง (Hate Speech)” ความบางตอน ระบุว่า
“...วันก่อนมีข่าวที่ประโคมโดยสื่อการเมืองกลุ่มหนึ่ง ว่ามีอาจารย์ ม.นเรศวรคนหนึ่ง ร่างวิชา “หลักสูตรรักชาติยิ่งชีพ” ขึ้นมา แล้วใส่รายชื่อบุคคล 18 คนเข้าไปในนั้น แล้วมีการเขียนวาทกรรมแห่งความเกลียดชังในเนื้อหารายวิชา เพื่อให้คนเข้าใจผิดว่าบุคคลในรายชื่อนั้นมีแนวคิดดังกล่าว จากนั้นจึงให้สื่อสาธารณะกลุ่มหนึ่ง หยิบไปเล่นประเด็นข่าว และสร้างเป็นชุดความเชื่อในกลุ่มการเมืองของพวกเขา โดยพาดหัวทำนองว่า “พวกคนดีผูกขาดความรักชาติ”
โดย อาจารย์ ม.นเรศวร คนดังกล่าวมีชื่อว่า “ดร.ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร” รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือตอนล่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งนายภาคภูมิไม่ได้มีการติดต่อบุคคลในรายชื่อนั้น หรือมีตั้งใจทำรายวิชาดังกล่าวจริงๆ แต่ประการใด!
นายภาคภูมิ เพียงแต่นำรายชื่อบุคคลทางการเมืองที่นายภาคภูมิอาจจะไม่ชอบและต้องการป้ายสีหรือทำลายชื่อเสียง มาใส่ในรายวิชาที่มีเนื้อหาแสดงความเกลียดชัง เพื่อจงใจทำให้ผู้อื่นดูเหมือนเป็นคนคลั่งชาติ คลั่งศาสนาชอบอำนาจนิยม และมองเห็นคนชายขอบเป็นภัยคุกคาม ฯลฯ ตามที่นายภาคภูมิต้องการเท่านั้น!
...ผู้อ่านที่มีวิจารณญาณจะทราบดีว่านายภาคภูมิจงใจใช้เนื้อหาที่ดูรุนแรง ประหนึ่งว่าผู้ที่มีรายชื่อทั้ง 18 คนนี้ มีแนวคิด...- สนับสนุนเผด็จการ - สนับสนุนอำนาจนิยม- คลั่งศาสนาประจำชาติ- คลั่งชาติ คลั่งทหารและกองทัพ – รังเกียจและมีอคติต่อคนชายขอบ ซึ่งการกระทำของนายภาคภูมิ
ที่เอาชื่อคนที่นายภาคภูมิเห็นว่าเป็นคนฝั่งตรงข้ามทางการเมืองกับตน ไปใส่ไว้ในรายชื่อ แล้วใส่เนื้อหาที่มีแต่วาทกรรมแห่งความเกลียดชังเพื่อใส่ร้ายผู้อื่นนั้น ถือว่าเป็นวิธีการที่ #สกปรก
วิธีการนี้เรียกว่า “การสร้างปีศาจร้าย” (Demonization) ซึ่งเป็นวิธีที่กลุ่มการเมืองบางหนึ่งถนัด ในการใช้นักวิชาการและสื่อที่ตนเองมีเครือข่าย พยายามป้ายสีผู้เห็นต่างจากตน ว่าพวกชนชั้นสูง เห็นคนไม่เท่ากัน อำนาจนิยม และมองคนชายขอบเป็นพวกบ่อนทำลาย เพราะสิ่งที่นายภาคภูมิทำนั้น ไม่ได้จงใจให้เกิดรายวิชาจริงๆ ทั้งหมดเป็นเพียงการสร้างภาพปีศาจร้ายเพื่อให้สื่อฝ่ายหนึ่งนำไปขยายความต่อ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิด และเกิดความจงเกลียดจงชังแก่บุคคลในรายชื่อเท่านั้น
กำลังพิจารณาในการฟ้องร้องดำเนินคดี พร้อมทั้งยื่นสภามหาวิทยาลัย ตรวจสอบจริยธรรมในฐานะอาจารย์และนักวิชาการ ...จากการพูดคุยกับหลายบุคคลใน 18 รายชื่อนั้น มีหลายรายมีความประสงค์จะดำเนินคดีฟ้องร้องหมิ่นประมาทกับนายภาคภูมิ เพราะการกระทำของนายภาคภูมินั้น ชัดเจนว่ามีเจตนาว่าจงใจสร้างภาพอันชั่วร้ายและป้ายสีทำให้ผู้อื่นได้รับความเกลียดชังต่อสังคมอย่างชัดเจน โดยปัจจุบันกำลังรวบรวมความคิดเห็นว่าจะมีใครบ้างที่ดำเนินคดี โดยเบื้องต้นเห็นตรงกันว่าจะแยกสำนวนคดี ไม่ยื่นรวมกัน คดี ถ้า 10 คนก็ 10 คดี ถ้า 18 คนก็ 18 คดี
พร้อมกันนั้น หลายคนยังเห็นตรงกันว่า จะมีการยื่นเรื่องให้สภามหาวิทยาลัยนเรศวร ตรวจสอบจริยธรรมในการเป็นอาจารย์ผู้สอนและนักวิชาการ เนื่องจากสิ่งที่นายภาคภูมิทำนั้น นอกจากเข้าข่ายหมิ่นประมาท โดยทำให้ผู้ได้รับความเกลียดชังแล้ว ยังมีความผิดด้านข้อบังคับและจริยธรรมในฐานะอาจารย์ผู้สอนและนักวิชาการ ที่นำเรื่องการศึกษาและหลักสูตร สำหรับการศึกษามาใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างผู้อื่นทางการเมือง...”
3.ล่าสุด ปรากฏว่า ดร.ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร ให้สัมภาษณ์สื่อผู้จัดการออนไลน์ ขอโทษผู้ที่มีชื่อถูกอ้างถึง
“ขอโทษคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และคนอื่นที่ถูกระบุเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมาสอน จริงๆ แล้วยังไม่เกิดขึ้น เพราะเป็นแค่ร่างวิชา”
ดร.ภาคภูมิยังอธิบายความว่า วิชานี้จะถูกวางในหมวดวิชาทั่วไป เป็นวิชาเลือก ไม่ได้ขึ้นตรงต่อวิชาชีพเพื่อประกอบวิชาชีพ แต่เปิดวิชานี้เป็นความรู้รอบตัว เพื่อเข้าใจชีวิต เข้าใจสังคม เสมือนว่าวิชารักชาติยิ่งชีพเป็นการทดลองยังสถานที่ปลอดภัย คือ มหาวิทยาลัย เพราะมหาวิทยาลัยเป็นสถานที่เรียนรู้ จึงถือว่าเป็นการทดลอง ถามว่าถ้าเปิดเวทีหรือวิชาลักษณะนี้ต่อบุคคลภายนอกจะมีความปลอดภัยไหม เมื่อถกเถียงทางการเมืองขึ้นเรื่องใหญ่แน่ๆ ฉะนั้น ตนจึงขอเลือกเปิดวิชารักชาติยิ่งชีพในมหาวิทยาลัย ถือว่าปลอดภัยที่สุด
4.คำอธิบายชี้แจงข้างต้น ฟังขึ้นหรือไม่?
ถ้ามีอาจารย์คนไหน อยากจะ “ล่อเป้า” ใครบางกลุ่ม จะใช้วิธีอ้างว่าร่างวิชา เช่น วิชาโกง วิชาโกหก วิชาตอแหล ฯลฯ แล้วเสียดสีประจานด้วยการเอาคนที่ตนต้องการให้ถูกโจมตีมาใส่เป็นผู้สอน หวังผลให้ถูกรุมด่าจะได้หรือไม่?
หรือนี่เป็นเพียงการแก้ตัว หวังลดกระแส หวังเอาตัวรอดหลังทราบว่าผู้เสียหายเตรียมดำเนินคดีและร้องเรียนต้นสังกัดให้สอบสวนแบบจัดหนักจัดเต็ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี