วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เวทีอิสระ
เวทีอิสระ

เวทีอิสระ

วันพุธ ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
สหรัฐอเมริกา-อิหร่าน ไม้เบื่อไม้เมา

ดูทั้งหมด

  •  

ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน มิใช่เพิ่งมาเกิดขึ้นจากกรณีสหรัฐอเมริกาลอบสังหาร นายพลกาเซ็มโซไลมานี (Qasem Soleimani) แม่ทัพกองกำลังพิเศษ The Islamic Revolutionary Guard Corps ไปเมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา

ความเป็นไม้เบื่อไม้เมาของทั้งสองฝ่ายมีกันมายาวนานกว่า 60 ปี โดยระหว่างนั้น ได้มีเหตุการณ์ที่ส่งผลให้ต่างฝ่ายต่างเคืองอกเคืองใจ ทับถมกันมาหลายเรื่องหลายครา โดยเริ่มต้นจากการที่ฝ่ายสหรัฐอเมริกา และอังกฤษได้ร่วมกันล้มล้างรัฐบาลอิหร่านที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ด้วยเหตุว่า โมฮัมหมัด มอสซาเดก(Mohammad Mossadegh) นายกรัฐมนตรีนักต่อสู้ชาตินิยมของอิหร่านมีนโยบายจะเข้ายึดสัมปทานน้ำมันจากบริษัทเอกชนต่างชาติ ให้กลับมาเป็นของรัฐ(Nationalization) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ของกิจการเอกชนน้ำมันสัญชาติสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ซึ่งจะกระทบความมั่นคงทางพลังงาน และอิทธิพลของฝ่ายตะวันตก รวมทั้งขัดกับหลักการว่าด้วยตลาดเสรี (ไม่ยอมรับการยึดธุรกิจเอกชนเป็นของรัฐ)


ต่อมาฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพระเจ้าซาร์ ยอดพันธมิตรของฝ่ายสหรัฐอเมริกาทั้งฝั่งซ้าย-ขวา ประสบความสำเร็จในการล้มล้าง โดยในที่สุดฝ่ายกลุ่มศาสนา (เทวนิยม)กุมอำนาจหมด (พระเจ้าซาร์ต้องออกไปลี้ภัยในต่างประเทศจนสิ้นชีวิต) อิหร่านเปลี่ยนรูปโฉมเป็นรัฐศาสนาซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อฝ่ายตะวันตกอย่างชัดเจน

เหตุการณ์ได้บานปลาย นำไปสู่การที่กลุ่มชาวอิหร่านหัวรุนแรงบุกเข้ายึดสถานทูตสหรัฐอเมริกา และจับนักการทูตชาวสหรัฐฯ เป็นเชลยอยู่ 400 กว่าวัน

จากนั้นสหรัฐอเมริกายิงเครื่องบินโดยสารอิหร่านตกผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งลำ โดยอ้างว่าเป็นความผิดพลาด อันเนื่องมาจากสหรัฐฯ คิดว่าเป็นเครื่องบินรบ

รัฐบาลอิหร่าน ดำเนินการส่งออกอุดมการณ์รัฐเทวนิยมสายมุสลิมชีอะห์ โดยแทรกแซงประเทศมุสลิมต่างๆในตะวันออกกลาง (ที่นำโดยมุสลิมสายอื่น โดยเฉพาะฝ่ายสุหนี่) ฝ่ายอิหร่านต่อต้านตะวันตกอย่างโจ่งแจ้ง จนถูกจัดเป็นประเทศผู้ดำเนินการ และสนับสนุนการขับเคลื่อนการก่อการร้ายสากล ส่งผลให้อิหร่านถูกคว่ำบาตรทางการค้าจากสหประชาชาติ และโดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกา ทำให้การส่งออกน้ำมัน สินค้าสำคัญของอิหร่านถูกจำกัดจนเศรษฐกิจของอิหร่านไม่สามารถเติบโตได้ กระทบต่อคุณภาพชีวิตประจำวันของผู้คน

อิหร่านถูก ประธานาธิบดีจอร์จ บุช ของสหรัฐอเมริกาตราหน้าว่าเป็นหนึ่งในสามของแกนแห่งความชั่วร้าย (Axis of Evil) ร่วมกับเกาหลีเหนือและอิรัก ภายใต้ซัดดัม ฮุสเซน

ฝ่ายอิหร่านแอบพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยไม่สนใจคำท้วงติงจากนานาชาติ เป็นต้น

เหตุการณ์ดูเหมือนจะดีขึ้นเมื่อ สหรัฐอเมริกา จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหภาพอังกฤษ และเยอรมนีฝ่ายหนึ่ง ได้ร่วมกับฝ่ายอิหร่านอีกฝ่ายหนึ่ง ทำข้อตกลงนิวเคลียร์ คือข้อตกลงร่วมว่าด้วยแผนปฏิบัติการครอบคลุม (The Joint Comprehensive Plan of Action : JCPOA) โดยระบุว่า
จำกัดการพัฒนาแร่ยูเรเนียมเพื่อแลกกับการลดการคว่ำบาตรทางการค้า

และไม่กี่ปีผ่านมา จากปี ค.ศ. 2014 ความขัดแย้งก็ประทุขึ้นอีกรอบเมื่อสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ถอนตัวแต่ฝ่ายเดียวออกจากข้อตกลงดังกล่าว ในกรณีนี้ อิหร่านมองว่าสหรัฐฯ “เบี้ยว” ไม่ทำตามสัญญา ยังคงมุ่งหน้าบ่อนทำลายอิหร่านด้วยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และแทรกแซงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและเนื้อหาทางการเมือง (ล้มรัฐเทวาธิปไตย) โดยระหว่างนั้น ก็มีการดำเนินการยึดเรือบรรทุกน้ำมันกันไปมา รวมทั้งมีการปะทะกันอย่างประปรายในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นการยั่วยุ ยั่วโทสะ กันไปมา

จากลำดับเหตุการณ์ที่กล่าวมา ปัญหาที่สำคัญยิ่งที่สุดระหว่างสหรัฐอเมริกา กับอิหร่านนั้นคือ

1) ความแตกต่างกันว่าด้วยเรื่องอุดมการณ์ระหว่างเสรีประชาธิปไตย กับเทวาธิปไตย

2) จากมุมมองของสหรัฐอเมริกา อิหร่านเป็นประเทศผู้ก่อการร้าย เป็นผู้ดำเนินการสู้รบ และสนับสนุนฝ่ายขบวนการสุดโต่ง สหรัฐอเมริกา และอิหร่าน ถือหางฝ่ายตรงกันข้ามกันในซีเรีย เยเมน อิรัก เลบานอน เป็นต้น ในขณะที่อิหร่านก็มองว่าสหรัฐฯ เป็นหัวหอกของการล่าอาณานิคมสมัยใหม่ โดยมุ่งครอบงำอิหร่าน และประเทศมุสลิมในตะวันออกกลาง เพื่อผลประโยชน์ทางด้านทรัพยากรน้ำมัน ซึ่งเท่ากับว่าสหรัฐฯ นั้นเป็นประเทศที่คุกคามและรุกรานต่อชาติตะวันออกกลาง

3) อิหร่านมุ่งทำลายอิสราเอลให้หมดสิ้นแผ่นดิน เพราะมองว่า อิสราเอลคือเครื่องมือสร้างความปั่นป่วนให้กับชาติมุสลิมตะวันออกกลาง ที่ฝ่ายตะวันตกส่งมายึดพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมไป ในขณะที่สหรัฐก็ถือว่า อิสราเอลเป็นพันธมิตรสำคัญยิ่ง และเป็น “หัวหอก” ของสหรัฐอเมริกาในตะวันออกกลาง

4) อิหร่านและซาอุดีอาระเบีย ต่างชิงดีชิงเด่นกันเป็นใหญ่ในชาติมุสลิม เพราะต่างเป็นผู้นำนิกายศาสนาที่เป็นอริกันอยู่ กล่าวคือ อิหร่านเป็นที่หนึ่งของฝ่ายชีอะห์ ขณะที่ซาอุดีอาระเบียเป็นเบอร์หนึ่งของฝ่ายสุหนี่ โดยสหรัฐฯ ได้เข้าไปมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับซาอุดีอาระเบียอย่างออกนอกหน้า เพื่อจำกัดอิทธิพลของอิหร่านต่อชาติมุสลิมตะวันออกกลาง

ประเด็นก็คือ แล้วจำเป็นหรือไม่ ที่สหรัฐอเมริกาและอิหร่าน จะต้องเป็นคู่อริกันโดยตรงไปเรื่อยๆ เช่นนี้?

ก็เริ่มมาคิดอ่านกันในแวดวงคอการเมืองทั้งหลายว่า สหรัฐอเมริกาหากจะดำรงตนในฐานะตำรวจโลกอย่างที่คาดหวัง สหรัฐฯ ก็ควรจะทำตัวให้สมกับเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งมีสถานะผู้ไกล่เกลี่ย ผู้เสริมสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และความมั่งมี โดยปริยาย มากกว่าจะไปแสดงตนเป็นคู่กรณีกับผู้ใดๆ เสียเอง ซึ่งสหรัฐฯ อยู่ในฐานะจะกระทำได้ แต่ต้องตัดสินใจยอมถอย ยอมเสียหน้ากันบ้างเมื่อเทียบกับการดำเนินการในอดีตที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาที่แสดงบทบาทเป็นผู้ปกป้อง ผู้คุ้มครอง ผู้ประกันความมั่นคงปลอดภัยของอิสราเอล ซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน กาตาร์ คูเวต จอร์แดน อียิปต์ โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็ควรได้ถอยออกมา และเริ่มดำเนินการสนับสนุนให้ประเทศเหล่านี้ได้ “ออกหน้า” มาช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด แทนที่จะเอาแต่เกาะชายกระโปรงสหรัฐฯ หรือแอบซ่อนอยู่ข้างหลังสหรัฐฯ ดังที่เป็นมาโดยตลอด กล่าวคือ ประเทศเหล่านี้ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังและเข้มแข็งในการดำเนินความสัมพันธ์กับอิหร่าน ในประเด็นปัญหาต่างๆ ทางแนวคิดทางการเมืองและศาสนาของตน โดยมีฝ่ายสหรัฐฯ ทำตัวเป็นท้าวมาลีวราชเท่านั้น

ในทางคู่ขนานกันไป ฝ่ายองค์การสหประชาชาติก็ต้องเข้ามามีบทบาทในความวุ่นวายขัดแย้งครั้งนี้ เช่น จัดเวทีกลางเพื่อการเจรจา จัดกองกำลังสันติภาพเพื่อควบคุมการสู้รบ เป็นต้น

ในขณะเดียวกัน ผู้นำอิหร่านก็ต้องเลิกคิดการส่งออกระบบการเมืองแบบเทวาธิปไตย และการส่งออกการก่อการร้ายสากล และเอาทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน

กษิต ภิรมย์

kasitfb@gmail.com

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:21 น. ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี
22:14 น. ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2
22:06 น. จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก
22:01 น. พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’
21:55 น. ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
ยูเนสโกประกาศยกย่อง 'ในหลวงรัชกาลที่ 9' และ 'สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ'
เบื้องหลังฉลองพระองค์ 'สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี'
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
ดูทั้งหมด
เสียงร้องไห้ไม่เคยดังกว่าเสียงปืน
ไทย-จีน‘ดุจครอบครัวเดียวกัน’
คุยกันแบบนักเลง
สงครามสี
อสส. อุทธรณ์คดี 112 ‘ทักษิณ’ ต้องสู้ให้สมศักดิ์ศรี
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่

จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก

เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?

ศึกอสรพิษ!‘งูบู๊ตะขาบ’ สุดท้ายไม่พ้นมือกู้ภัยอุดรธานี

ฟุตบอลลั่นกวาดหมด! สมาคมกีฬาฟันธง241ทองซีเกมส์

แฟนคลับส่งกำลังใจ! 'เก้า สุภัสสรา'เผยป่วยเนื้องอกในมดลูก เมนส์มาไม่หยุดจนเป็นลม

  • Breaking News
  • ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี
  • ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2
  • จาก\'อังกฤษ\'สู่\'ไทย\' : เปิดใจ\'จู๊ด เบลล์\'วันแจ้งเกิดช้างศึก จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก
  • พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’ พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’
  • ปากดีต้องโดนแบบนี้! \'ยุ้ย ญาติเยอะ\'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่ ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

สงครามกับสันติ : ทรัมป์จะไปทางไหน?

สงครามกับสันติ : ทรัมป์จะไปทางไหน?

15 พ.ย. 2568

สงครามยูเครน-รัสเซีย จะจบได้หรือไม่อย่างไร?

สงครามยูเครน-รัสเซีย จะจบได้หรือไม่อย่างไร?

8 พ.ย. 2568

สังคมไทยสมัยใหม่ช่างอาภัพผู้นำทางการเมือง

สังคมไทยสมัยใหม่ช่างอาภัพผู้นำทางการเมือง

1 พ.ย. 2568

ชะตากรรมของผู้นำการเมืองที่หลงทาง

ชะตากรรมของผู้นำการเมืองที่หลงทาง

25 ต.ค. 2568

ความเป็นตัวตนของอาเซียน

ความเป็นตัวตนของอาเซียน

18 ต.ค. 2568

ไทยควรจะทำอย่างไรกับปัญหาเมียนมา

ไทยควรจะทำอย่างไรกับปัญหาเมียนมา

11 ต.ค. 2568

ใครจะช่วยไกล่เกลี่ยสงครามกลางเมืองในเมียนมาได้

ใครจะช่วยไกล่เกลี่ยสงครามกลางเมืองในเมียนมาได้

4 ต.ค. 2568

ราชวงศ์การเมืองของไทย (Political Dynasties)

ราชวงศ์การเมืองของไทย (Political Dynasties)

27 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved