1. เป็นที่เข้าใจได้ไม่ยากว่า ทำไมจึงต้องค่อยๆ คลายล็อก อย่างเป็นลำดับขั้นตอน
เพราะถ้าเกิดปล่อยให้คนกลับมาแออัด ทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอีกครั้ง สถานการณ์เลวร้ายมาก เหมือนหลายประเทศที่กลับมารอบสอง แล้วก็ต้องกลับมาปิดกันอีกรอบ มิฉะนั้น ก็จะตายหมู่กันเหมือนในบางประเทศ โลงไม่พอใส่ หลุมไม่พอฝัง ฯลฯ
ไอ้ที่มีบางคน ถ่มถุยว่า มีโรงพยาบาลเตียงว่างเยอะแยะ มียาเยอะแยะ ถ้ามีคนป่วยก็รักษาสิ นั่นคือความเห็นแบบมักง่าย ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ
และสังเกตดู คนที่ออกมาเร่งเร้าแบบนี้ ก็มักเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยโจมตีว่าการรับมือโควิด-19 รัฐบาลเฮงซวยนั่นเอง เคยพยายามหาจำนวนคนตายเอามาโจมตีรัฐบาล แต่มาบัดนี้ก็กดดันจะให้ปลดล็อกหมด ราวกับไม่ไยดีหากจะมีคนตายจำนวนมาก
เชื่อได้เลยว่า ถ้ากลับมามีการแพร่ระบาด และมีคนตายอีกรอบ พวกที่กดดันให้ปลดล็อกในวันนี้ (ปลดล็อกมากกว่าที่ ศบค.ค่อยทำทีละขั้นทีละตอน) ก็จะออกมาโหมกระพือเอาการเสียชีวิตมาเป็นประเด็นทางการเมืองอีกรอบ.. เหลือเชื่อจริงๆ
2. หลายคนยังสงสัย อย่างคลายล็อกอย่างไรแน่?
เพราะแต่ละกิจการ มีรายละเอียดแตกต่างกันไป
วันนี้ สรุปสาระสำคัญจาก คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 3/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2563
เพื่อความถูกต้อง ชัดเจน
บางกิจการที่หลายคนสนใจกันมาก ดังนี้
2.1 ยังห้ามดื่มสุราในร้านอาหาร
เปิดให้บริการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทั่วไป (ซึ่งไม่รวมสถานบริการ ผับ บาร์) แต่ยังคงห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องที่มีแอลกอฮอล์ในร้านเหล่านั้น
แสดงว่า สามารถซื้ออาหารสั่งกลับไปทานที่บ้านได้ หรือจะสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ติดกลับไปดื่มที่บ้านก็ได้
มาตรการควบคุมหลักในร้านอาหารเหล่านี้ คือ 1) ทำความสะอาดพื้นพื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน 2) ให้ผู้ประกอบการ พนักงานบริการ ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า3) ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค4) ให้เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ และระหว่างที่นั่ง รวมถึงระยะห่างระหว่างการเดิน อย่างน้อย 1 เมตร 5) ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ มิให้แออัด และ 6) ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในสถานที่จำหน่ายอาหาร
นี่คือ มาตรการหลัก หรือ สิ่งที่ทุกร้าน “ต้องทำ” ถ้าไม่ทำจะเป็นฝ่าฝืนข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน มีโทษตามกฎหมาย
นอกจากนี้ มาตรการเสริม ได้แก่ 1) มีมาตรการคัดกรองไข้ และอาการไอหอบเหนื่อย จาม หรือ เป็นหวัด สำหรับผู้ประกอบการ พนักงานบริการ และผู้ใช้บริการก่อนเข้าอาคาร ทั้งนี้ ให้รายงานหน่วยงานรับผิดชอบ กรณีพบผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ตามแนวทางที่กำหนด 2) ลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน และลดการใช้เสียงดังภายในร้านอาหาร 3) กรณีจำหน่ายอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ให้ปรับรูปแบบการบริการโดยงดการตักอาหารส่วนกลางด้วยตนเอง รวมถึงการตักอาหารในภาชนะหรือใช้อุปกรณ์ร่วมกัน 4) จัดให้มีระบบคิว และมีพื้นที่รอคิวที่มีที่นั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร 5) จัดให้มีการระบายอากาศภายในอาคารที่ดี รวมถึงห้องสุขา และ 6) เพิ่มมาตรการใช้แอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามที่ทางราชการกำหนด หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานทดแทน
มาตรการเสริม ความหมาย สิ่งที่แต่ละร้านพึงให้ความร่วมมือไปดำเนินการเพิ่มเติม ตามลักษณะเฉพาะของตนเอง เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาด
2.2 ห้างสรรพสินค้าเปิดถึง 2 ทุ่ม แต่ไม่ใช่ทุกกิจการ
ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการเพิ่มเติมได้ ในส่วนที่เป็นการจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคและการให้บริการ รวมทั้งร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผม หรือทำเล็บ
ส่วนที่ยังเปิดไม่ได้ คือ โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง ตู้เกมส์ เครื่องเล่นหยอดเหรียญ สถานที่เล่นสเก็ตหรือโรลเลอร์เบรด หรือการละเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน คาราโอเกะ สวนสนุก สวนน้ำ สวนสัตว์ สนุกเกอร์ บิลเลียด ร้านเกมส์ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า สถาบันกวดวิชา สนามพระเครื่อง ศูนย์ประชุม
ทั้งนี้ พื้นที่และกิจกรรมที่เปิดดำเนินการได้ให้งดเว้นการจัดการแข่งขัน กิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือการดำเนินการอื่นใดที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาชุมนุมกันหนาแน่น
และให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 นาฬิกา
โดยห้างสรรพสินค้า จะต้องมีมาตรการควบคุมที่มีรายละเอียดลงไปอีกต่างหาก
นอกจากนี้ ให้โรงเรียนสอนดนตรี ภาษา เต้น สถาบันลีลาศหรือสอนลีลาศ สอนวาดภาพ สอนศิลปะ สอนขับรถยนต์ โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้(ยิม) โรงเรียนสอนทำอาหาร หรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอนการสอบ หรือการฝึกอบรม ยังคงปิดกิจการต่อไป
ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม สำหรับบุรุษหรือสตรี ให้เปิดได้เฉพาะกิจกรรมสระ ตัด ซอยผม แต่งผม และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน
2.3 กิจการที่ให้เปิดได้อีกหลายประเภท เช่น
ห้องประชุมในโรงแรมหรือศูนย์ประชุม ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะกรณีจำกัดจำนวน ผู้เข้าร่วมประ ชุมและเป็นการประชุมคณะกรรมการ ผู้ถือหุ้น หรือการประชุม การอบรม การสัมมนา ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมมาจากหน่วยงานเดียวกันเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ ทราบแหล่งที่มา
คลินิกเวชกรรม เสริมความงาม สถานเสริมความงาม และร้านทำเล็บ ทั้งที่อยู่ในและนอกห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะการเสริมความงามเรือนร่างและผิวพรรณ ไม่รวมถึงการเสริมความงามบริเวณใบหน้า
สถานออกกาลังกาย ฟิตเนสที่มิได้ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้ เฉพาะส่วนที่เป็นการเล่นโยคะหรือฟรีเวทโดยงดเว้นการใช้เครื่องเล่นเครื่องลู่วิ่ง จักรยานปั่น หรือการเล่นแบบรวมกลุ่ม
สถานที่หรือสนามออกกำลังกายในร่ม เฉพาะกีฬาประเภทที่ตามกติกาสากล มิได้มีการปะทะกันระหว่างผู้เล่นและต้องไม่มีผู้ชมการแข่งขัน หากเล่นเป็นทีมให้มีผู้เล่นได้ ฝั่งละไม่เกินสามคน ได้แก่ แบดมินตัน ตะกร้อ เทเบิลเทนนิส สควอช ยิมนาสติก ฟันดาบ และปีนผา
การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ ซึ่งเมื่อรวมคณะทำงานหน้าฉากและทุกแผนกแล้วต้องมีจำนวนไม่เกินห้าสิบคน และต้องไม่มีผู้ชมเข้าร่วมรายการ
2.4 กิจการสถานที่ท่องเที่ยวบางประเภท กลับมาเปิดได้แล้ว
สวนพฤกษศาสตร์ สวนดอกไม้ พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ห้องสมุดสาธารณะ หอศิลป์ ทั้งหมดกลับมาเปิดได้แล้ว
แบบนี้ แหล่งเรียนรู้แบบคำชะโนด ก็คงเปิดได้
แต่ทั้งหมด จะต้องภายใต้มาตรการควบคุมหลัก ดังนี้
1) ทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ โดยเฉพาะห้องสุขา พาหนะที่ให้บริการภายในสถานที่ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
2) ให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานที่ ผู้ใช้บริการทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า
3) ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
4) ให้เว้นระยะนั่งและยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร รวมถึงระยะห่างระหว่างโต๊ะ และระหว่างที่นั่งอย่างน้อย 1 เมตร สำหรับห้องสมุดสาธารณะ
5) ให้มีลงทะเบียนเพื่อการจองคิวเข้าใช้บริการ รวมทั้งก่อนเข้าและออกจากสถานที่ และให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ มิให้แออัด โดยจัดเป็นรอบเข้าชม หรือใช้บริการ ทั้งนี้ ให้รวมกลุ่มในการใช้บริการหรือเข้าชมได้ไม่เกิน 10 คน ภายใต้การนำชม
ของเจ้าหน้าที่ประจำสถานที่ และเปิดให้บริการได้เมื่อมีความพร้อมตามมาตรการหลัก
6) เพิ่มมาตรการใช้แอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามที่ทางราชการกำหนด หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานทดแทนได้ รวมทั้งจัดให้มีระบบลงทะเบียนใช้บริการแบบออนไลน์และจองคิวเข้าใช้บริการล่วงหน้า
3. ทั้งหมด เกี่ยวข้องกับการจ้างงานคนหลายล้านคน
เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค หรือผู้ใช้บริการ หลายสิบล้านคน
การผ่อนปรน ก็เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังพอเดินต่อไปได้บางส่วน
แต่สำคัญ คือ ต้องระมัดระวังมิให้เกิดการแพร่เชื้ออีกรอบ ซึ่งจะเกิดความสูญเสียแก่ชีวิตของประชาชนคนไทยอย่างร้ายแรง ประเมินค่ามิได้(อย่าลืมบทเรียนความสูญเสียในหลายประเทศ เราจะรับได้หรือถ้ามีคนตายหลายหมื่นคนในประทศไทย?)
แน่นอนว่า แต่ละกิจการก็จะต้องประเมินความคุ้มค่าในทางธุรกิจของตนเอง ว่าหากเปิด จะทำอย่างไรให้เกิดความคุ้มค่าทางธุรกิจ? จะมีกลยุทธ์ กลวิธีทางการตลาดอย่างไร?
ขณะนี้ เราก็ได้เห็นว่า หลายธุรกิจมีการแข่งขันสร้างมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคได้อย่างน่าชื่นชม
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี