เหลือเชื่อที่ยังมีคนหน้าด้าน ออกมาแถว่า เสื้อแดงไม่ได้เผาบ้านเผาเมือง ปี 2553
โกหก ตอแหล หน้าไม่อาย
1. อ้างว่า ศาลยกฟ้องไปแล้ว ในคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งๆ ที่ การยกฟ้องนั้น เป็นการยกประโยชน์ให้จำเลย เพราะเหตุแห่งข้อสงสัยบางประการ ซึ่งจะต้องไปดูรายละเอียดว่าสำนวนคดีนั้น ฟ้องใคร?
ฟ้องถูกตัวคนที่มีภาพหลักฐานมัดแน่นว่า เอาถังแก๊สเข้าไปก่อเหตุ หรือไม่?
ไม่น่าเชื่อว่า คนที่แสดงตัวเป็นคนรุ่นใหม่จะหน้าด้านกว่าแกนนำม็อบยุคเก่า
ผ่าไปยกเอากรณีนายสายชล แพบัว ที่ศาลชี้ว่าถือถังดับเพลิงเข้าไปในห้างไม่ใช่ถังแก๊ส อุตส่าห์เอามาใช้ยืนยันหน้าตาย ทั้งๆ ที่ ภาพหลักฐานที่เขาเอามาประจานกันนั้น ไม่ได้หมายถึงนายสายชล แต่เป็นคนอื่นๆ ที่มีภาพทนโท่ ถังแก๊สชัดๆ จะจะ ปาขวดน้ำมันเชื้อเพลิงจะจะ มีทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และมีมากกว่าหนึ่งคน ซึ่งคนเหล่านั้น ไม่ได้ตัวมาฟ้องศาลดำเนินคดี เป็นเหตุให้สุดท้าย ศาลไม่สามารถเอาผิดคนเหล่านั้นได้
เปรียบเทียบง่ายๆ คนถามว่า คางทูมๆ นั้น ไปทำศัลยกรรมมาใช่ไหม? แต่ดันผ่าไปตอบว่า เปล่า นี่ไง ดวงตาของดิฉันไม่ได้ทำศัลยกรรม
มาเลย!!!!
ถามหนู ตอบแมว
ถามแพะ ตอบแกะ
2. ใน “รายงาน คอป.ฉบับสมบูรณ์” หนา 276 หน้า นอกจากยืนยันการมีอยู่จริงของ “ชายชุดดำ” ที่มีความเชื่อมโยงกับ “เสธ.แดง” แล้ว ยังเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการเผาบ้านเผาเมือง 2553 เอาไว้ด้วย
ในหัวข้อ “2.3.13 การเผาสถานที่ในกรุงเทพมหานคร” สรุปว่า ระหว่าง นปช.ชุมนุม 12 มี.ค.-19 พ.ค.2553 มีอาคารต่างๆ ในกทม.ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ 37 แห่ง แบ่งเป็นสถานที่ราชการหรือรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง ธนาคารพาณิชย์ 15 แห่ง และสถานประกอบธุรกิจเอกชนที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ 19 แห่ง
ระบุว่า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นหลังเวลา 14.00 น.
“...ผู้ชุมนุมประมาณ 20 คน พร้อมหนังสติ๊ก ระเบิดขวดและระเบิดปิงปอง เริ่มจุดไฟเผาและโยนถังแก๊สเข้าไปประมาณ 10 ถัง จากนั้นเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดหลายครั้งเมื่อเวลาประมาณ
15.00 น. เจ้าหน้าที่ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์จำนวน 8 คน ได้รับบาดเจ็บจากระเบิดซึ่งเกิดจากระเบิดขว้างสังหารซึ่งเป็นอาวุธสงคราม โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าวว่าคนขว้างสวมใส่เสื้อผ้าสีดำและสวมหมวกไหมพรมปิดหน้า หลังจากนั้นไฟจึงลุกไหม้อย่างต่อเนื่องมาจากด้านห้างสรรพสินค้าเซน และลามมาที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จนเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าไปควบคุมเพลิงไว้ได้
หลังห้างเซ็นทรัลเวิลด์ถูกเผาได้ 2 วัน เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจก็เข้าไปตรวจสอบอาคาร ก่อนพบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายกิตติพงษ์ สมสุข อยู่ในร้านโทรศัพท์มือถือโซนี่ อีริคสัน ชั้น 4 โซนซี ของอาคาร สาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากสำลักควันและขาดอากาศหายใจ...”
“..เจ้าหน้าที่ทหารได้รับคำสั่งให้คุ้มครองหน่วยดับเพลิงเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. แต่ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้เนื่องจากต้องผ่านบริเวณที่ยังมีการปะทะกันและมีสิ่งกีดขวางบนถนน
...กรณีเพลิงไหม้ที่โรงหนังสยาม หน่วยดับเพลิงเข้ามาถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม แต่ไม่สามารถเข้าไปในจุดที่เพลิงลุกไหม้ เนื่องจากมีการต่อต้านด้วยปืนสงครามจากคนชุดดำ จึงถอนกำลังกลับไปที่สนามกีฬาแห่งชาติ และสามารถเข้าไปควบคุมเพลิงได้ในช่วงเย็นแต่เพลิงได้ลุกไหม้ไปมากแล้ว
...กรณีเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หน่วยดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้เนื่องจากความไม่ปลอดภัยและมีสิ่งกีดขวาง เมื่อได้ประสานไปทางผู้บริหารระดับสูงของกรุงเทพมหานคร จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจซึ่งได้แนะนำให้เข้าไปทางด้านหลังห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน จึงสามารถเข้าไปได้เมื่อเวลาประมาณ 21.10 น.
...หน่วยดับเพลิงซึ่งอยู่บริเวณเพลินจิตและในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่สามารถเข้าไปควบคุมเพลิงได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่รายงานว่าพื้นที่ยังไม่มีความปลอดภัยและในเวลา 21.10 น. เจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าไปได้
...ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. รถดับเพลิงจำนวน 16 คัน เข้าควบคุมเพลิงที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 20 พฤษภาคม....”
ในรายงาน คอป. มีการอ้างอิงปราศรัยของ “แกนนำ นปช.” บางคน ที่มีลักษณะยุยง ปลุกปั่น พูดถึงการเตรียมการ การเผา และการใช้ความรุนแรง หลายครั้ง หลายหน
3. เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2560 นางสาวอัมพาวีร์ ชมภูพงษ์เกษม เลขานุการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทในเครือได้ทำประกันภัยการก่อการร้าย (Terrorism) วงเงิน 3,500 ล้านบาท ไว้ โดยกองทุนรวมธุรกิจไทย 4 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และเป็นเจ้าของสิทธิการเช่าโครงการเซ็นทรัลเวิลด์
แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยการก่อการร้าย เป็นจำนวน 3,500 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว
นั่นเท่ากับตอกย้ำว่า การเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อปี 2553 เป็นการกระทำที่เข้าข่ายก่อการร้ายอย่างชัดเจน ถึงขนาดว่าบริษัทประกันยอมจ่ายสำหรับประกันภัยการก่อการร้าย (Terrorism) โดยตรง
4. ศาลฎีกามีคำพิพากษาคดีแพ่ง ให้แกนนำ นปช.บางราย ต้องร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าของอาคารพาณิชย์ที่ถูกเผาในเหตุการณ์ 19 พ.ค.2553
คดีหมายเลขดำ 1762/2554 ศาลฎีกาพิพากษาให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 21.3 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย
อีกคดี คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6646-6647/2561 พิพากษาให้นายจตุพร, นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ ร่วมกันรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายรวมประมาณ 19.3 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย
คดีถึงที่สุดแล้ว
5. นอกจากนี้ กรณีเผาศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน ศาลแพ่งพิพากษา คดีถึงที่สุดแล้ว ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาว่า เหตุการณ์เผาศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน เป็นกรณีสืบเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองถือเป็นการก่อความไม่สงบของประชาชนถึงขนาดลุกฮือต่อต้านรัฐบาล มีความวุ่นวาย โกลาหล อลหม่าน เห็นได้ว่า สาเหตุหนึ่งมาจากการปราศรัยปลุกระดมของแกนนำกลุ่ม นปช.
ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่า การวางเพลิงเผาอาคารศูนย์การค้าจะเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง พวกขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง คนขับรถซาเล้งซื้อของเก่าที่อาศัยโอกาสความวุ่นวายทางการเมืองเจตนาหวังเข้าไปลักทรัพย์ และเผาอาคาร ตรงกันข้าม น่าเชื่อว่าการวางเพลิงมีความประสงค์ก่อให้เกิดความเสียหายทางบ้านเมือง หลังเกิดเหตุมีรถดับเพลิงเข้าไป แต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมขัดขวาง นอกจากนี้ ยังพบลูกธนูพันด้วยผ้า และร่องรอยกระสุนปืน สรุปว่าพยานหลักฐานเกี่ยวกับการวางเพลิงเผาศูนย์การค้าของโจทก์ เกิดจากการกระทำของผู้ชุมนุม นปช.บางส่วนที่ต้องการใช้ความรุนแรง หรือข่มขู่บุคคลเพื่อหวังผลทางการเมือง เพื่อต้องการส่งผลให้รัฐบาล หรือสาธารณชนตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก หวาดกลัว ถือเป็นการกระทำก่อการร้ายตามนิยามความหมายของกรมธรรม์ประกันภัย
ผลของคดีนี้ ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันไม่ได้ทำประกันที่คุ้มครองเกี่ยวกับภัยความรุนแรงทางการเมือง-ก่อการร้าย ทำให้ไม่ได้ค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย
6. การเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี, อุดรธานี, ขอนแก่น และมุกดาหาร
6.1 เผาศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร (มีหลายสำนวน) สำนวนหลักศาลพิพากษาจำคุก 15 ปี นายวิชัย อุสุพันธ์ และพวก
6.2 เผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือ อจ.ต้อย แกนนำ นปช.อุบลราชธานี และพวก
6.3 เผาศาลกลางจังหวัดขอนแก่น ศาลพิพากษาจำคุก 13 ปี นายอดิศัยวิบูลเสข และพวก (แนวร่วมเสื้อแดง)
6.4 เผาศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ศาลพิพากษาจำคุก 22 ปี นายวันชัยรักสงวนศิลป์ และพวก (เสื้อแดง)
7. ความจริงชัดแจ้งแดงแจ๋ อย่าตอแหลอีกเลย
ชัดเจน มีหลักฐานเต็มไปหมด ไม่ต้องกระแดะใช้แสงเลเซอร์มาส่องก็ได้
ละอายแก่ใจตัวเองบ้างเถอะ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี