ประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศใหญ่และมีความสำคัญมากที่สุดประเทศหนึ่งในตะวันออกกลาง เป็นประเทศที่มีประชากรมาก มีทรัพยากรน้ำมันมากที่สุดมีพันธมิตรที่วางใจได้ที่สุดคือสหรัฐอเมริกา
เป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางสำคัญ 1 ใน 3 ของศาสนาอิสลาม คือเป็นศูนย์กลางของนิกายวาฮาบี และยังเป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญและของศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาอิสลามคือเมืองเมกกะที่พี่น้องมุสลิมทั่วโลกจะต้องเดินทางไปแสวงบุญ
โดยสถานะดังกล่าวนั้นจึงทำให้ซาอุดีอาระเบียเป็นพี่ใหญ่ของประเทศอาหรับทั้งหลาย ที่สำคัญคือโอมาน กาตาร์ บาห์เรน ยูเออี เป็นต้น และยังมีบทบาท
ต่อประเทศมุสลิมต่างๆ โดยเป็นผู้ให้เงินสนับสนุนในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย
ด้วยสถานะเช่นนี้ซาอุดีอาระเบียจึงเรืองแสนยานุภาพขึ้นในตะวันออกกลางและเป็นผู้นำกลุ่มประเทศอาหรับทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย รวมทั้งเป็นผู้นำของกลุ่มโอเปก ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศค้าน้ำมันของโลกด้วย
แต่ย่อมเป็นไปตามกฎพระไตรลักษณ์ ความเจริญรุ่งเรืองเกรียงไกรเมื่อขึ้นถึงขีดสุดแล้ว ตั้งอยู่ระยะหนึ่งแล้วก็ย่อมมีความเสื่อมทรุดโทรมไปเป็นธรรมดา ซาอุดีอาระเบียก็ไม่พ้นไปจากกฎเกณฑ์ที่ว่านี้
ไม่ต่างอันใดกับประเทศจีนในยุคสมัยราชวงศ์ซ้องหรือราชวงศ์หมิง ที่เมื่อความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งถึงขีดสุดแล้วก็เสื่อมถอย จนถูกชนกลุ่มน้อยนอกด่านคือมองโกลเข้ายึดครองตั้งเป็นราชวงศ์หยวน และชาวแมนจูเข้ายึดครองตั้งเป็นราชวงศ์ชิงขึ้นปกครองประเทศจีนให้ประจักษ์มาแล้วในประวัติศาสตร์ของโลก
วิถีดำเนินของซาอุดีอาระเบียก็เป็นไปเช่นนั้น และในที่สุดซาอุดีอาระเบียก็ได้เป็นผู้นำกลุ่มประเทศอาหรับ ทำสงครามรุกรานประเทศเยเมน และคว่ำบาตร
ประเทศกาตาร์ซึ่งเป็นประเทศที่มั่งคั่งตั้งอยู่ขอบอ่าวเปอร์เซีย ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน ถึงขั้นปิดกั้นการจราจรทั้งทางบกและทางอากาศไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก
เป็นเหตุให้อิหร่านและตุรกีทุ่มกำลังเข้าช่วยกาตาร์และเป็นเหตุที่ทำให้กาตาร์หันไปจับมือเป็นพันธมิตรกับอิหร่านจนกระทั่งถึงบัดนี้ ทั้งๆ ที่ กาตาร์ คือที่ตั้งฐานทัพอากาศใหญ่สุดของสหรัฐในตะวันออกกลาง จึงพาลกระทบไปถึงสหรัฐด้วย
ความข้างกาตาร์ยังไม่เสร็จ การสงครามกับเยเมนกลับหาทางสิ้นสุดยุติไม่ได้ เพราะหลายประเทศได้ร่วมด้วยช่วยกันให้การช่วยเหลือเยเมนทั้งทางเปิด ทางลับและกึ่งลับกึ่งเปิด ซึ่งแน่นอนว่าอิหร่าน ซีเรีย อิรัก รัสเซียรวมทั้งจีน ย่อมให้การสนับสนุนเยเมนไม่มากก็น้อย
โดยเฉพาะอิหร่านนั้นประกาศให้การสนับสนุนเยเมนในการทำสงครามต่อต้านชนิดถึงไหนถึงกัน
ที่สำคัญคือขบวนการปฏิวัติอิสลามหลากหลายในตะวันออกกลางได้ร่วมด้วยช่วยกันให้การช่วยเหลือแก่เยเมน ไม่ว่าขบวนการอัลฮัชบี ขบวนการอัลลอฮ์ซุลเลาะห์ขบวนการฮิซบุลเลาะห์ ขบวนการฮามาส ส่วนที่ไม่ประกาศตัวก็คือ “กองกำลังลึกลับ” ที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นในอิรัก แต่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ก้าวหน้าทันสมัย และแสดงฤทธิ์เดชให้เห็นกันมาแล้ว
เยเมนแม้เป็นประเทศเล็กๆ แต่เป็นชาตินักรบมาแต่โบราณ มีมุสลิมเชื้อสายชีอะห์อยู่จำนวนหนึ่งและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดมีชาวเยเมนเข้ารับชีอะห์ถึง 1 ล้านคน ในคราวเดียว เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับซาอุดีอาระเบียอย่างยิ่ง
ว่ากันโดยแสนยานุภาพแล้ว เยเมนไม่อาจเทียบได้กับซาอุดีอาระเบียซึ่งมีอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคนั้น แต่ทว่าการมีอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยจำนวนมากมิใช่เหตุแห่งชัยชนะหรือปราชัยเพียงประการเดียวในการสงคราม
คัมภีร์พิชัยสงครามของซุนหวู่ก็ได้ระบุไว้ว่า การหยั่งชัยชนะหรือปราชัยในการสงครามนั้นประกอบด้วยเหตุห้าประการ คือ ธรรม ขุนพล ภูมิประเทศ อาวุธยุทโธปกรณ์ และการจัดระบอบการรบ
ดังนั้นซาอุดีอาระเบียจึงมีข้อได้เปรียบเพียงประการเดียวคืออาวุธยุทโธปกรณ์ นอกนั้นต้องด้วยลักษณะปราชัยทั้งสิ้น
เยเมนเข้าใจสภาพแห่งสงครามเป็นอย่างดีว่าแม้โดยกฎแห่งสงครามจะเป็นฝ่ายที่จะได้ชัยชนะ แต่เพราะซาอุดีอาระเบียมีความเข้มแข็งมากกว่าจึงไม่อาจเอาชนะได้ในเร็ววัน ดังนั้นกลยุทธ์ในการรับมือกับสงครามรุกรานของเยเมนจึงถูกกำหนดให้เป็นการทำสงครามยืดเยื้อ ซึ่งเป็นสงครามประเภทที่พร่ากำลังของผู้รุกรานอย่างไม่หยุดยั้ง และทำให้ซาอุดีอาระเบียอ่อนแอลงโดยลำดับหลังจากสภาพสงครามผ่านไป 5 ปี
เยเมนไม่เพียงแต่รู้จักกลยุทธ์ทำสงครามยืดเยื้อเท่านั้น ยังรู้และเข้าใจยุทธศาสตร์สงครามจรยุทธ์ในสงครามยืดเยื้อ ในสงครามต่อต้านการรุกรานเป็นอย่างดีด้วย ดังนั้น ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ยุทธการ การยุทธ์และการรบทั้งกระบวนแห่งยุทธศาสตร์สงครามจรยุทธ์จึงถูกนำมาใช้ในเยเมน
สถานการณ์ผ่านไป 5 ปี พันธมิตรของซาอุดีอาระเบียก็ถอนตัวร่อยหรอลง ในขณะที่เยเมนสามารถยันการรุกด้วยสงครามแบบแผนของซาอุดีอาระเบียไว้ได้ และได้เปิดฉากการโจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่ โดยยิงขีปนาวุธไปทำลายแหล่งผลิตน้ำมันใหญ่ 1 ใน 3 ของซาอุดีอาระเบียให้พินาศไปหนหนึ่งแล้ว
และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเยเมนก็ได้สร้างความตระหนกตกใจขึ้นทั่วทั้งตะวันออกกลาง คือได้ยิงขีปนาวุธจำนวนมากดุจห่าฝน พร้อมส่งโดรนโจมตีจำนวนมากเข้าไปถล่มซาอุดีอาระเบียถึงเมืองหลวง ทำให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงานด้านความมั่นคงที่สำคัญที่สุดของซาอุดีอาระเบียไปเป็นจำนวนมาก
จากนั้นเยเมนก็ได้แถลงไปทั่วโลกว่าหากซาอุดีอาระเบียยังไม่ยอมหยุดรุกราน การถล่มครั้งต่อไปจะยิ่งใหญ่ที่สุด ชนิดที่จะทำให้ซาอุดีอาระเบียหมดสภาพความเป็นผู้นำของกลุ่มประเทศอาหรับ
กันทีเดียว
นั่นคือสถานการณ์ที่ดำรงอยู่และกำลังพัฒนาไปในตะวันออกกลาง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อสถานการณ์สงครามในซีเรีย อิรัก และการวางกำลังควบคุมเส้นทางขนส่งน้ำมันบริเวณปากทะเลแดง ตลอดจนแอฟริกาอีกด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี