Thousand Talents Program(TTP) เป็นโครงการดึงดูดหัวกะทิจากทั่วโลกให้กลับบ้านเกิดเพื่อเข้ามาพัฒนาประเทศของรัฐบาลจีนหรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็น โครงการดึงสมองไหลกลับ ซึ่งหลายๆ ประเทศก็มีโครงการลักษณะเช่นนี้รวมทั้งประเทศไทยด้วย
TTP ของจีนเริ่มขึ้นเมื่อปี 2551 โดยในระยะแรกมุ่งเน้นไปยังชาวจีนที่ไปเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกแล้วได้ทำงานต่ออยู่ในประเทศนั้นๆ ต่อมา TTP ได้ขยายฐานเป้าหมายไปยังชาวต่างชาติด้วยการให้ทุนวิจัยด้านต่างๆ เพื่อให้มาทำงานร่วมกันกับมหาวิทยาลัยในประเทศจีนโดยเฉพาะนักวิชาการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทำงานวิจัยอยู่ในมหาวิทยาลัย สถาบันความคิดหรือหน่วยงานวิจัยของรัฐบาลในประเทศต่างๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ TTP ของรัฐบาลจีนได้เริ่มถูกจับตามองจากรัฐบาลอเมริกันเป็นพิเศษว่าอาจจะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศสหรัฐ เมื่อเจ้าหน้าที่ FBI ได้เข้าทำการจับกุมCharles Lieberหัวหน้าภาควิชาเคมีและชีวเคมี มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ศาสตราจารย์ Lieber ปัจจุบันอายุ 61 ปี เป็นนักชีวเคมีระดับแนวหน้าของโลก ในแวดวงเคมีเก็งกันว่าเขาน่าจะได้รับรางวัลโนเบิลในสาขานี้ อีกไม่ช้าไม่นาน ถ้าเขาไม่ถูกสั่งฟ้องเสียก่อนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
โดย อัยการ รัฐแมสซาชูเซตส์ด้วยข้อหาให้การเท็จเรื่องสายสัมพันธ์ของเขากับโครงการดึงสมองไหลกลับหรือ TTP กับรายได้ที่ได้รับจากรัฐบาลจีน
ดร. Lieber เข้าร่วมโครงการ TTPด้วยการเข้าไปทำงานวิจัยเรื่อง นาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology) ให้กับ WuhanUniversity of Technology (WUT) ตั้งแต่ปี 2555 โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยต้นสังกัดทราบ เขาได้รับเงินก้อนโตประมาณ 50 ล้านบาท ในการเข้าร่วมโครงการนี้จากรัฐบาลจีนและเงินอีก 1.5 ล้านบาทต่อเดือนสำหรับการทำงานในห้องทดลอง (Lab) เรื่องนาโนเทคโนโลยีที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นที่ WUT โดยก่อนหน้านั้น ดร. Lieber ได้รับเงินวิจัยกว่า 450 ล้านบาท จากรัฐบาลอเมริกันในการวิจัยเรื่องเดียวกัน
ในปี 2560 เมื่อทรัมป์ขึ้นเถลิงอำนาจและเริ่มออกมาฟาดหัวฟาดหางกับรัฐบาลจีนในหลายๆ เรื่อง รวมถึงโครงการ TTP ด้วย ดร. Lieber ถูกทั้งกระทรวงกลาโหมและฮาร์วาร์ดสอบถามเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ TTP และ WUT ซึ่งเขาก็ให้การปฏิเสธว่าไม่เคยเข้าร่วมกับโครงการดังกล่าวและไม่เคยมีการติดต่ออะไรที่เป็นทางการกับ Wuhan University of Technology
ภายหลังการจับกุม ดร.Lieber รัฐบาลอเมริกัน โดยกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงศึกษาธิการก็ขอความร่วมมือไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อขอข้อมูลเรื่องทุนวิจัย เงินช่วยเหลือ การแลกเปลี่ยนนักวิจัย สัญญาการทำวิจัยร่วมกับรัฐบาลต่างชาติโดยเฉพาะจีน รัสเซีย อิหร่านและซาอุดีอาระเบีย บริษัทเอกชนจากประเทศเหล่านี้ เช่น Huawai บริษัทด้านเทคโนโลยีการสื่อสารชื่อดังของจีน,Kaspersky บริษัทผลิตโปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ของรัสเซียและองค์กรไม่แสวงหากำไร (NGO) อย่างเช่น มูลนิธิอาลาวี (Alavi Foundation) ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอิหร่านเพื่อให้ทุนการศึกษาและการทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องอิหร่านในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น ภาษาเปอร์เซีย อิหร่านศึกษา ศิลปะและวัฒนธรรมอิสลาม โดยเฉพาะนิกายชีอะห์
ศาสตราจารย์ Simon Ang เป็นบุคคลรายต่อมาที่ถูกจับกุมด้วยข้อหาลักษณะเดียวกันกับ ดร.Lieber
ดร. Ang ปัจจุบันอายุ 63 ปี เชื้อสายมาเลเซียน-อเมริกัน อดีตผู้อำนวยการศูนย์อิเล็กทรอนิกส์ความหนาแน่นสูง มหาวิทยาลัยอาร์คันซอ (University of Arkansas) ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ดร. Ang ทำงานแบบปัญญาจารชนสองหน้าให้ทั้งกับกระทรวงกลาโหม(Pentagon) และองค์การ NASA โดยมีรายได้จากการวิจัยให้สองหน่วยงานนี้มากกว่า 150 ล้านบาทศูนย์อิเล็กทรอนิกส์ความหนาแน่นสูงที่เขาเคยนั่งเก้าอี้เป็นผู้อำนวยการมาก่อนถูกจับก็ได้ทุนก่อตั้งมาจากเพนตากอน เพื่อทำวิจัยเกี่ยวกับการสร้างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับเอาไว้ใช้ในสถานีอวกาศนอกโลกส่วนอีกหน้าหนึ่ง ดร. Ang ก็เข้าร่วมในโครงการ TTP ทำงานวิจัยให้กับ Xidian University รวมไปถึงบริษัทเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ในจีนด้วย
หลักฐานสำคัญที่มัดตัว ดร. Ang ก็คืออีเมลที่เขียนถึงนักวิจัยชาวจีนที่ Xidian University ที่กำลังจะเดินทางมาหาเขาที่ University of Arkansas ว่า...ให้ลบอีเมลนี้ทันทีที่อ่านเสร็จเพราะที่นี้ แทบไม่มีใครรู้ว่าเขาทำงานให้กับโครงการ TTP...
ล่าสุด...ปัญญาจารชนสองหน้าอีกหนึ่งรายที่พึ่งโดนจับไป เมื่อสองเดือนก่อนก็คือ ศาสตราจารย์ เซียว เจียง ลี้ (Xiao-Jiang Li)จาก Emory University ที่มีโรงเรียนแพทย์ชั้นนำและทำงานวิจัยร่วมกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติ (Center for Disease Control and Prevention หรือ CDC) ในเรื่องระบาดวิทยามาโดยตลอดเพราะทั้งสองสถาบันนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Atlanta รัฐจอร์เจีย โดย ดร.ลี้ ไม่สามารถอธิบายถึงที่มาของเงินจำนวนกว่า15 ล้านบาท ที่ได้รับมาจากการเข้าร่วมกับโครงการ TTP ได้
สามศาสตราจารย์ จากสามมหาวิทยาลัยนี้ เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งรายแรกๆ ที่พึ่งโดนจับกุมในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ ขณะที่กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงศึกษาธิการคิดว่าน่าจะยังมีปัญญาจารชนอีกหลายคนที่มีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกันกับสามคนนี้ เพราะในเบื้องต้นกระทรวงศึกษาธิการ สหรัฐพบว่าทั้งฮาร์วาร์ดและเยลไม่ได้รายงานที่มาที่ไปของเงินจำนวนกว่า 10,000 ล้านบาท ที่ทั้งสองมหาวิทยาลัยได้รับจากรัฐบาลต่างชาติ
นอกจากนั้น ยังมีเงินอีกจำนวนทั้งหมดประมาณ 200,000 ล้านบาท ที่ทั้งสองกระทรวงกำลังตามรอยเส้นทางการเงินของมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง ชิคาโก บอสตัน เท็กซัสเพนซิลเวเนียล เอ็มไอที คอร์แนลและคาร์เนลกี้ เมลอน ที่ได้มาจากต่างชาติเช่นกัน ทั้งนี้พระราชบัญญัติอุดมศึกษาของสหรัฐ กำหนดให้สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาต้องรายงานรายการทรัพย์สินทุกชนิดและการทำสัญญาที่มีมูลค่ามากกว่า 7.5 ล้านบาท ที่ได้มาหรือทำกับรัฐบาลต่างชาติ
ดร.ธิติ สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี