มนุษย์ทุกคนมีเสรีภาพในการแสดงออกด้วยคำกล่าว ด้วยท่าทาง ด้วยคำเขียน และด้วยการวาด ควบคู่ไปกับเสรีภาพในการนับถือศาสนา หรือความเชื่อถือหนึ่งใด
เสรีภาพดังกล่าว ในสังคมโลกเสรีนั้นถือเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ที่ไม่ว่ามนุษย์นั้นจะเป็นผู้ใด จะด้วยชาติพันธุ์ สีผิว รูปร่างหน้าตาใดก็ตาม จะต้องมีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด
แต่เมื่อพูดถึงคำว่า “เสรีภาพ” ซึ่งเป็นเรื่องสิทธิแล้ว จะละเลยจะไม่กล่าวถึงคำว่า “หน้าที่”ก็ไม่ได้ เพราะทั้ง 2 อย่าง เป็นเสมือนของคู่กัน แบ่งแยกออกจากกันไม่ได้ จะปล่อยให้มีอย่างหนึ่งอย่างเดียว แล้วไม่คำนึงถึงอีกอย่างหนึ่งไม่ได้เลยมิเช่นนั้นแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ที่เข้ามาอยู่ร่วมกันเป็นสังคม จะมีแต่ความขัดแย้ง เต็มไปด้วยปัญหา อันเนื่องมาจากความได้เปรียบเสียเปรียบ และความอยุติธรรม ทุกฝ่ายรังแต่จะใช้เสรีภาพอย่างเต็มที่โดยไม่ใส่ใจผู้ที่อาศัยร่วมในสังคม
เมื่อมี สิทธิและหน้าที่มากำกับ เสรีภาพจึงเริ่มมีขอบเขต หรือถูกจำกัดให้อยู่ในวงที่เหมาะสม นัยก็คือ ความสุดโต่ง หรือการเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในสังคม ผู้อยู่ร่วมกันในสังคมจึงเกิดความสงบสันติ
อย่างไรก็ดี ปัญหาของการใช้เสรีภาพเกินขอบเขตก็มีกันมาในทุกยุคทุกสมัย ในทุกสังคม ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขด้วยการรณรงค์ให้คนในสังคมนั้นได้เข้าใจขอบเขตของเสรีภาพ จากสิทธิและหน้าที่ ซึ่งเป็นการใฝ่หาความสมดุลให้สังคม
ขณะนี้เรื่องขัดแย้งใหญ่โตของขอบเขตเสรีภาพในการแสดงออกได้เกิดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส และกำลังส่งผลกระทบไปทั่วทุกมุมโลก
ความคือ เมื่อ 2-3 ปีก่อน สื่อตีพิมพ์หนึ่งของฝรั่งเศสได้ตีพิมพ์การ์ตูนเชิงล้อเลียนรูปพระศาสดานบีมูฮัมหมัด แห่งศาสนาอิสลาม ซึ่งทางชาวมุสลิมมีความเชื่อว่าไม่ควรสร้างภาพเหมือนของศาสดา และยิ่งเป็นภาพล้อเลียนด้วยแล้ว จึงได้นำไปสู่ปฏิกิริยาโกรธแค้นแก่โลกอิสลาม และตอบโต้กลับด้วยการใช้ความรุนแรงถึงขั้นฆ่าแกงเจ้าหน้าที่ในสำนักพิมพ์กัน โดยล่าสุดครูฝรั่งเศสผิวขาวได้ทำการยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นตัวอย่างของการศึกษา ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงออก และให้นักเรียนได้อภิปรายกันในชั้นเรียน ผลที่ตามมาคือ เมื่อบิดาของนักเรียนชาวมุสลิมคนหนึ่งในชั้นเรียนได้ทราบเรื่อง ก็เกิดอาการโกรธแค้น ว่าเป็นการหมิ่นเกียรติพระศาสดาของตน จึงลอบดักใช้มีดปาดลำคอครูคนนี้จนถึงแก่ชีวิตระหว่างเดินทางกลับบ้าน ซึ่งเป็นข่าวครึกโครม น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ที่ผ่านมา สังคมรัฐบาลฝรั่งเศสได้ยึดมั่นในอุดมการณ์ค่านิยมว่า ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่แยกการเมืองออกจากศาสนา และถือมั่นในเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกย่างเต็มที่ (แม้จะเป็นการล้อเลียนศาสนาความเชื่อถือ ศาสดา หรือผู้นำทางศาสนาก็ทำได้) รวมทั้งจะมุ่งทำการปราบปรามพวกสุดโต่ง พวกหัวรุนแรง ให้ถึงที่สุด
ในขณะเดียวกันหลายประเทศในโลกกลับไม่ได้เห็นด้วยกับท่าทีในเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกแบบสุดโต่งของฝรั่งเศส เช่น สิงคโปร์ ก็เห็นว่า เสรีภาพในการแสดงออกก็ต้องเดินคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อความรู้สึก และความเชื่อถือของผู้อื่นด้วย หรือนัยหนึ่งสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นที่เคารพและหวงแหนของศาสนาหนึ่งใดหรือกลุ่มผู้นับถือศาสนาหนึ่งใด ก็ควรพึงได้รับความเคารพ และมิใช่เป็นเรื่องที่จะมาล้อเลียนถากถาง ดูหมิ่นดูแคลนกัน ควรให้ความเคารพต่อกัน และต่างคนต่างเชื่อถืออย่างไร ก็ต่างรับความต่าง และไม่ไปล้ำเส้นกัน
ซึ่งผมเอง โดยความเชื่อส่วนตัว ก็คล้อยไปในทิศทางของการมีเสรีภาพในการแสดงออก แต่ต้องไม่ไปละเมิดเสรีภาพในการนับถือศาสนา หรือความเชื่อถือของผู้อื่นใดเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ก็คงจะไม่สามารถจบลงได้โดยง่าย จะต้องมีการหารือกันอย่างกว้างขวางทั้งในแวดวงศาสนา แวดวงการเมือง รวมทั้งองค์การสหประชาชาติ แวดวงสื่อ และแวดวงนักคิดนักวิชาการต่างๆ กันอีกนานว่า ขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงออกนั้นไปได้ถึงไหน อย่างไร หรือไร้ขอบเขต หรือว่าจะไปถึงจุดใด ที่จะไม่ก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการเชื่อถือของผู้อื่น หรือไม่ลบหลู่ดูหมิ่นต่อกัน
ในเรื่องขอบเขตของเสรีภาพการแสดงออกของชาวไทยนั้น ได้แทรกซึมอยู่ในขนบธรรมเนียมประเพณีกันมาช้านาน ดังจะดูได้จาก ไม่ว่าจะเป็นพิธีการต่างๆ ในงานราชพิธี หรืองานสังคมต่างๆ เราจะได้เห็นกลุ่มคนทั้ง 5 ศาสนาหลักของไทยเข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง โดยแต่ละศาสนาก็สามารถแตกนิกายต่างๆ ออกไปตามความเชื่อแยกย่อยโดยไม่ขัดแย้งกัน ถึงขั้นลุกมาประหัตประหารกัน
อย่างที่กล่าวไว้ว่า สิทธิเสรีภาพของมนุษย์นั้นมีติดตัวมาแต่เกิดก็จริง แต่หากมนุษย์ผู้ใดสนใจเพียงแต่การใช้สิทธิเสรีภาพของตนอย่างเต็มที่โดยไม่ใส่ใจเสรีภาพของผู้อื่น ก็เท่ากับว่า ได้ลืมหน้าที่ว่าตนเองเป็นพลเมืองในสังคม นั่นจึงเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเพียรพยายามโหมกระพือความเชื่อของตนที่ทำลายความเชื่อความศรัทธาของคนกลุ่มอื่นอย่างไม่ลดละ เมื่อนั้นก็จะเกิดแรงสะท้อนโต้กลับ และเกิดเป็นสงครามที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมไปโดยปริยาย
สังคมใดจะมีความสุขสงบเกิดขึ้นได้ สิทธิเสรีภาพ ต้องมาพร้อมกับความสำนึกในหน้าที่พลเมือง
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี