ปัญหาเรื่องบ่อนการพนันเป็นปัญหาคาราคาซังในบ้านเมืองมาช้านานแล้ว เป็นปัญหาที่ทำลายสังคมและกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนการบริหารราชการ
แผ่นดินที่ก่อให้เกิดความเสื่อมศรัทธามาอย่างต่อเนื่องและไม่รวมถึงการเป็นต้นเหตุของปัญหาอาชญากรรมและปัญหานานาประการอันเป็นผลของฐานะอบายมุขที่ทุกศาสนาก็ห้ามปราม
เคยมีการเสนอให้เปิดบ่อนการพนันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็ถูกพวกดัดจริตต่อต้านคัดค้านโดยอ้างว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธศาสนาจะมีบ่อนการพนันไม่ได้
เป็นการพูดอย่างไม่ลืมหูลืมตาว่าประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาที่เคร่งครัดกว่าประเทศไทยก็เปิดบ่อน ประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างศาสนาก็เปิดบ่อน โดยรวมก็คือประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยและแทบทุกประเทศในโลกเขาก็เปิดบ่อนกัน ดังนั้นการคัดค้านดังกล่าวนอกจากดัดจริตแล้วยังเอื้อเฟื้อประโยชน์โดยตรงให้แก่ขบวนการส่วยแห่งชาติที่เป็นต้นเหตุของปัญหาสารพัดดังได้กล่าวมาแล้วนั้น
ความคาราคาซังดังกล่าวไม่ได้ทำให้การเล่นการพนันหรือการเปิดบ่อนในประเทศไทยเพลามือลงหรือหายไป กลับเปิดกันอย่างเอิกเกริก ถึงขนาด google map ก็ยังทราบดีว่าตรงไหนมีบ่อน และลงหมายเหตุจุดว่าบ่อนตั้งอยู่ตรงไหนอย่างเปิดเผย
ยิ่งเป็นยุคใดที่มีการซื้อขายตำแหน่งในราชการมาก การเปิดบ่อนก็ยิ่งมาก ผลพวงต่างๆ ของอบายมุขนี้ก็เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าอาชญากรรม ยาเสพติด การวิวาทบาดหมางและปัญหาสังคมก็เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด
มาครั้งนี้เรื่องบ่อนก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมาอีกเพราะเพื่อผลประโยชน์ของผู้รับส่วยและผู้ส่งส่วยเกี่ยวกับเรื่องบ่อนได้เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโคขวิดชนิดที่แทบจะเอาไม่อยู่กู้ไม่กลับ
นั่นเป็นเพราะมีการปกปิดข้อมูลไม่ยอมรับว่ามีการเปิดบ่อนและปกปิดข้อมูลว่ามีใครเข้าไปเล่นการพนันบ้าง จึงทำให้การตรวจสอบโรคไม่อาจทำได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ผู้ติดเชื้อก็เดินทางไปที่นั่นไปที่นี่แล้วนำเชื้อไปแพร่หลายจนกระทั่งโคขวิดระบาดระเบิดเถิดเทิงและก่อให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ที่สุดนับล้านล้านบาทอีกครั้งหนึ่ง
เป็นการซ้ำเติมความพินาศฉิบหายวายวอดของการระบาดรอบแรกที่ทำให้ชาติเสียหายหลายล้านล้านบาทและกิจการทั้งหลายต้องพินาศวายวอด ผู้คนเดือดร้อนทั้งแผ่นดินให้หนักหนาสาหัสมากขึ้นไปอีก
ครั้นเกิดเหตุขึ้นแล้วผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องก็ปฏิเสธอย่างหน้าตาเฉยว่าไม่มีบ่อน และมีพฤติกรรมปกปิดการมีบ่อนนั้นชนิดที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกนึกคิดของประชาชนเลย จึงสร้างความเคียดแค้นชิงชังให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป พากันรุมด่าสาปแช่งชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้
ยิ่งมีพฤติกรรมซื้อเวลา แกล้งย้ายผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้คนลืมๆ กันไป รวมทั้งการแสดงท่าทีที่จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องบ่อนก็ยิ่งซ้ำเติมความคับแค้นใจให้แก่ประชาชนมากขึ้น เพราะเท่ากับว่าเป็นการเอาตีนเหยียบหน้าประชาชนโดยตรง หรือเหมือนกับเห็นประชาชนเป็นวัวควาย จะหลอกลวงพลิกพลิ้วด้วยเล่ห์กลประการใดก็ได้
การด่าทอกึกก้องไปทั้งประเทศ กลายเป็นแรงกดดันที่ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับนายตำรวจหลายคน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเพียงบางส่วนเฉพาะที่เป็นข่าวโด่งดังเท่านั้น ในขณะที่ผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากและในอีกหลายพื้นที่ยังคงลอยนวลอยู่เหมือนเดิม
แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนยอมรับไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นเมื่อพบหน้านักการเมืองรายใด ทั้งสื่อมวลชนและประชาชนก็จี้หาคำตอบว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ และในที่สุดก็มีการยอมรับอย่างหน้าตาเฉยว่าปัญหาเรื่องบ่อนการพนันไม่สามารถแก้ไขได้ ต่อให้ร้อยนายกรัฐมนตรีก็แก้ไม่ได้
นี่คือความอับจนสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาบ่อนการพนัน แต่เมื่อยืนยันกันมาเช่นนี้ก็ต้องยอมรับกันว่าไม่มีผู้ใดที่จะสามารถแก้ไขปัญหาการลักลอบเปิดบ่อนเถื่อนที่ทำกันอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้ได้ ซึ่งหมายความว่ามีความต้องการและมีความจำเป็นที่จะต้องมีบ่อนอยู่คู่ประเทศไทยสืบไป
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าได้อับจนสติปัญญาต่อไปเลยไหนๆ ก็ต้องมีบ่อนทั่วประเทศกันอยู่แล้ว ก็ยอมรับความจริงกันว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีบ่อน คงเหลือปัญหาว่าการให้มีบ่อนโดยไม่มีการควบคุมใดๆ และให้มีการเก็บส่วนนอกกฎหมายดังที่เป็นอยู่นั้น กับการที่ให้เปิดบ่อนโดยชอบด้วยกฎหมายและให้มีการเสียภาษีแก่รัฐ อย่างไหนจะดีกว่ากัน
ก็คงจะมีคำตอบอย่างเดียวกันว่าเมื่อหมดปัญญาจะแก้ไขปัญหาเรื่องบ่อนการพนันแล้วก็ควรให้เปิดบ่อนโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยเจ้าของบ่อนต้องเสียภาษีให้แก่รัฐในอัตราที่กำหนดก็จะแก้ไขปัญหาบ่อนเถื่อนและการเรียกเก็บส่วยได้
และเมื่อเป็นการเปิดบ่อนโดยชอบด้วยกฎหมายก็ย่อมมีกระบวนการควบคุมตามสมควร ก็จะแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับบ่อนเถื่อนและปัญหาการเรียกเก็บส่วยได้
ก็ตัดสินใจไม่ยากว่าจะให้ระบบส่วยที่ทำลายบ้านเมืองดำรงอยู่ต่อไป หรือว่าจะให้มีการจัดเก็บภาษีเพื่อเป็นประโยชน์ของรัฐก็เลือกเอา และจะได้เห็นท่าทีจุดยืนของผู้มีอำนาจว่ายืนอยู่ข้างระบบส่วย หรือยืนอยู่ข้างระบบภาษี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี