ทุกประเทศทั่วโลกที่มีคนป่วยและล้มตายจากไวรัสโควิด-19 เริ่มมีความหวังว่าจะมีวัคซีนได้ใช้เพื่อป้องกันโรคมหันตภัยดังกล่าว
อย่าง นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา ประกาศว่า จีนจะบริจาควัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา2019 จำนวน 1 ล้านโดส ให้กับกัมพูชา ทั้งกล่าวขอบคุณรัฐบาลจีน ในฐานะ “เพื่อน” ที่ให้ความอนุเคราะห์แก่กัมพูชาในเรื่องนี้
พร้อมโชว์ข้อความที่บันทึกเสียงไว้และเผยแพร่ในเพจเฟซบุ๊คอย่างเป็นทางการของเขาว่า จีนเสนอบริจาควัคซีนของบริษัทซิโนแวคให้กับกัมพูชาเป็นจำนวน 1 ล้านโดส ซึ่งจะสามารถใช้ฉีดให้กับประชาชนได้ 500,000 คน เพื่อเป็นการปกป้องประเทศและประชาชนมิให้ติดเชื้อไวรัสอันตรายนี้ กัมพูชาจะใช้วัคซีนที่ผู้นำจีนและประชาชนจีนหลายล้านคนได้ใช้เรียบร้อยแล้ว กัมพูชาจะรอต่อไปอีกไม่ได้แล้ว
สำหรับผู้ที่จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรกได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้า ครู-อาจารย์ ทหาร องครักษ์ของนายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลกษัตริย์กัมพูชา
กัมพูชาเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับจีนมาเป็นเวลายาวนานและได้รับความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ เช่น เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์และการลงทุนของนักธุรกิจจากจีน
ในขณะที่หลายประเทศใช้มาตรการปิดพรมแดนไม่รับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีนเพื่อควบคุมการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงแรกๆ ที่มีการระบาด แต่นายฮุนเซน ไม่ยอมปิดประเทศ
ในขณะเดียวกันกลับเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อพบกับประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับรัฐบาลจีน
ขณะเดียวกัน นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย แถลงข่าวว่า ออสเตรเลียสั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค 10 ล้านโดส กำลังขอข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัทผู้ผลิต เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และรัฐบาลนอร์เวย์ ก่อนหน้านี้สหรัฐแจ้งว่า มีผู้เกิดอาการแพ้รุนแรงในช่วงที่ทางการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค 1.9 ล้านโดส ระหว่างวันที่ 14-23ธันวาคม ส่วนสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) จะออกรายงานความปลอดภัยของวัคซีนขนานนี้ในสิ้นเดือนนี้อียูอนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค และของโมเดอร์นา แม้ว่ามีอาสาสมัครอายุ 80-90 ปี ร่วมทดสอบวัคซีนด้วย แต่อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 50 ปีเศษเท่านั้น
สำหรับประเทศไทยมีข่าวว่าได้เตรียมการจัดซื้อไว้บริการประชาชนฟรีๆ พร้อมตั้งคณะกรรมการบริหารวัคซีนโควิด-19 แล้ว แต่เบื้องต้นจะไม่ฉีดให้สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ นอร์เวย์แสดงความกังวลมากขึ้นต่อความปลอดภัยของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19ของบริษัทไฟเซอร์ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร้ายแรง หลังจากมีผู้สูงอายุเสียชีวิตหลังรับวัคซีนแล้ว 29 ศพ
สถาบันสุขภาพนอร์เวย์มีคำชี้ขาดว่า สำหรับผู้มีสุขภาพอ่อนแอที่สุด แม้มีอาการข้างเคียงปานกลางจากการฉีดวัคซีนก็อาจเกิดผลร้ายแรงติดตามมาได้ ดังนั้นวัคซีนอาจมีประโยชน์น้อยมากหรือไม่มีเลยสำหรับผู้เหลืออายุขัยไม่มากนัก
นอร์เวย์ได้ปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตหลังรับวัคซีนจาก 23 คน เป็น 29 คน และลดกลุ่มอายุผู้เสียชีวิตจาก 80 ปี เป็น 75 ปี ยังไม่ทราบชัดเจนว่าการเสียชีวิตเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนแล้วอย่างน้อย 42,000 คน เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่สุดหากติดเชื้อไวรัส รวมถึงผู้สูงอายุ
สำนักงานการแพทย์นอร์เวย์ตอบข้อถามสำนักข่าวบลูมเบิร์กวานนี้ว่า วัคซีนที่นอร์เวย์ฉีดไปแล้วจนถึงเมื่อวันศุกร์เป็นของไฟเซอร์/ไบออนเทคเท่านั้น การเสียชีวิตทั้งหมดจึงเกี่ยวข้องกับวัคซีนนี้ ประเมินผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ศพ และอีก 16 คน อยู่ระหว่างการประเมิน ผู้เสียชีวิตทั้ง 29 ศพ เป็นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร้ายแรงอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียน เป็นไข้ ตั้งแต่อยู่ในจุดที่รับวัคซีน และทำให้โรคประจำตัวทรุดหนักลง
ด้านไฟเซอร์แถลงทางอีเมลว่า กำลังประสานกับทางการนอร์เวย์เพื่อตรวจสอบการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น ยอดผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้ไม่ถือว่าน่าตกใจและเป็นไปตามการคาดหมาย
นั้นเป็นเรื่องของวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ต้องติดตามกันต่อไป
และทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ “สำหรับคนไทย ผมตัดสินใจไม่รับความเสี่ยงแบบนั้น ผมไม่ยอมให้รีบร้อนฉีดวัคซีนที่ยังทดสอบไม่ครบถ้วน และไม่ยอมเป็นประเทศทดลอง ดังนั้นเพื่อความรอบคอบ ผมจึงมีนโยบายสำคัญ คือ ต้องมั่นใจก่อนว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย จึงจะนำมาใช้กับคนไทยได้”
ครับ จะยากหรือง่ายอีกไม่นานก็รู้กัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี