เมื่อวานนี้ ประเทศไทยประเดิมฉีดวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค เป็นวันแรก
เข็มแรก เป็นการฉีดให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดเฟสแรกในวันถัดไป
นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ฉีดให้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่ฉีด ตามคำแนะนำของหมอ เพราะอายุเกิน 60 ปีแล้ว จะต้องรอฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจรับรองรุ่นการผลิตที่นำเข้ามาแล้วประมาณหนึ่งแสนโดส
1. แผนการฉีดวัคซีน ก็เป็นไปตามเดิม ไม่ได้ล่าช้าเลย นั่นคือ ลอตแรกวัคซีนจากซิโนแวค 2 แสนโดส กระจายไปฉีดกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เฟสแรก 13 จังหวัด
ส่วนวัคซีนแอสตราฯ ที่นำเข้ามาในวันเดียวกับซิโนแวคนั้น เป็นการมาก่อนแผนเดิม ไม่ได้นับอยู่ในแผนฉีดเฟสแรกตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่เป็นการเจรจาเร่งนำเข้ามาเพื่อเป็นแผนสำรอง
2. น่าเวทนา ฝ่ายที่จ้องแซะสถาบันพระมหากษัตริย์ จ้องจะโค่นล้มรัฐบาล ก็พยายามหยิบเอาเรื่องวัคซีนมาเป็นประเด็นโจมตี เพื่อทำลายความเชื่อมั่น และหวังจะให้ประชาชนไม่ร่วมมือ ซึ่งจะเกิดความวุ่นวาย และทำให้การรับมือกับโควิด-19 ยุ่งยากตามมา
มีการใช้ตรรกะแบบย้อนแย้ง หาเรื่องด่าได้ทุกเรื่อง เช่น
พอซื้อวัคซีนจากจีน ก็บอกว่าเสียเงินซื้อทำไม ขอรับความช่วยเหลือแบบได้เปล่าสิ แต่ถ้าเจรจาขอ ก็แน่นอนกลุ่มเดิมก็จะโจมตีเหมือนที่เคยดูหมิ่นว่า รัฐบาลขอทาน
พอนายกฯ จะฉีดคนแรก ก็มีคนออกมาบอกว่า นายกฯ เอาตัวรอด ฉีดก่อนประชาชน แต่พอไม่ฉีดคนแรก ก็ออกมาเห่าหอนอีกว่า เอาประชาชนเป็นหนูลองยา ไม่กล้าฉีดก่อน
ก่อนนี้ โจมตีว่ามีวัคซีนยี่ห้อเดียว นี่มันผูกขาด แต่พอมีหลายยี่ห้อ ก็พยายามจะหาว่าเลือกปฏิบัติ เลือกที่รักมักที่ชัง ประชาชนได้รับวัคซีนต่างยี่ห้อกัน ไม่เป็นธรรม ฯลฯ
นี่คือตัวอย่างของความพยายามที่เข้าขั้น “ถ่มถุยไปวันๆ” อย่างไร้ค่าไร้ประโยชน์ ของคนบางกลุ่มที่หลับหูหลับตาปลุกปั่นหวังผลวุ่นวายทางในบ้านเมือง เหมือน “ขยะทางความคิด”
3. นพ.ยง ภู่วรวรรณ เชิญชวนกลุ่มเป้าหมายรับการฉีดวัคซีนเพื่อชาติพร้อมตอบข้อสงสัยวัคซีนโควิด-19 ที่คนไทยควรรู้ สาระสำคัญที่มีประโยชน์ บางตอนระบุว่า
...การระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้ ถือเป็นการระบาดใหญ่ในรอบ 100 ปี หลังจากที่เคยมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปนในปี 2461
หากไม่มีการดำเนินการใดๆประเทศไทยจะมีผู้เสียชีวิต 1 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 7 แสนคน และใช้เวลา 2 ปีโรคจึงจะสงบ ซึ่งที่ผ่านมามาตรการต่างๆ และการใช้ชีวิตแบบวิถีชีวิตใหม่ สามารถลดการระบาด ลดการสูญเสียได้อย่างมาก ทำให้ไทยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 80 คน
สำหรับวัคซีนโควิด-19 จะมาทดแทนการป่วย สร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดขึ้น
สำหรับวัคซีนโควิด-19 บริษัทซิโนแวคที่จะฉีดให้ผู้ที่อยู่ในประเทศไทย มีประสิทธิภาพลดความรุนแรงของโรคได้ดี โดยป้องกันการป่วยที่มีอาการน้อย ต้องพบแพทย์แบบผู้ป่วยนอกได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ป้องกันการป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และป้องกันการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่ไม่ต้องพบแพทย์ 50 กว่าเปอร์เซ็นต์
สาเหตุที่ยังไม่ฉีดในคนที่มีอายุ 60 ปีนั้น เนื่องจากเป็นวัคซีนใหม่ มีการศึกษาในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ จึงยังไม่ทราบผลในการป้องกันโรค และอาการแทรกซ้อน คาดว่ารอผลการศึกษาประมาณ 2 เดือน เมื่อมีข้อมูลมากขึ้นอาจปรับเปลี่ยนได้ กระทรวงสาธารณสุขมีกฎเกณฑ์จัดลำดับการฉีดตามความเสี่ยง
ขณะนี้ทั่วโลกฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 220 ล้านโดส บางประเทศ เช่น อิสราเอล ฉีดเข็มแรกครอบคลุมประชากรถึง 80 เปอร์เซ็นต์ พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงกว่าครึ่ง อัตราการตายต่อวันลดลง ชี้ให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนหมู่มากมันสามารถป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนอาการแทรกซ้อนนั้น ข้อมูลของสหรัฐอเมริกา ฉีด 13 ล้านคน มีอาการแพ้รุนแรง 5 คนในล้านคน เกิดอาการขณะอยู่ในโรงพยาบาล ไม่มีผู้เสียชีวิต
ภาพรวมหลังการฉีด 220 ล้านโดส มีผู้เสียชีวิต 113 ราย เมื่อสอบสวนแล้วพบว่าไม่มีรายใดที่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโดยตรง ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ และโรคประจำตัว อาการที่พบส่วนใหญ่เป็นอาการหลังการฉีดวัคซีนทั่วไป เช่น เจ็บ ปวดเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด มีไข้ จึงขอให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน
“วัคซีนซิโนแวค และแอสตราเซเนกาที่นำมาฉีดในประเทศไทย
มีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน สามารถลดความรุนแรงของโรคได้ดี ไม่ให้มีอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต เมื่อมีวัคซีน เราก็จะมีการผ่อนคลายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การฉีดวัคซีนเป็นการป้องกันเรา ป้องกันเขา และยังเป็นการป้องกันคนรอบข้าง จึงขอเชิญชวนให้มารับการฉีดวัคซีน เป็นการฉีดเพื่อชาติ เพราะเมื่อมีการฉีดจำนวนมาก โรคนี้ก็จะสงบลง ชีวิตความเป็นอยู่ของเราจะกลับคืน ฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อได้ ซึ่งผลสำรวจประชาชนกว่า 30,000 คน พบว่า 80 เปอร์เซ็นต์ต้องการฉีดวัคซีน” ศ.นพ.ยงกล่าว
4. บรรดาข้อสงสัยปลีกย่อย เช่น
ฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้หรือไม่?
นพ.ยง ระบุว่า เนื่องจากวัคซีนโควิด-19 เป็นวัคซีนใหม่ จึงยังไม่อยากให้ฉีดพร้อมกับวัคซีนอื่น เพราะหากมีอาการข้างเคียงจะไม่ทราบว่าเกิดจากวัคซีนใด จึงให้ฉีดห่างกัน 2 สัปดาห์ ยกเว้นในกรณีป้องกันโรครุนแรงถึงชีวิต สามารถฉีดได้ เช่น ถูกสุนัขกัด จำเป็นต้องฉีดวัคซีนพิษป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันบาดทะยัก
ฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 คนละชนิดได้หรือไม่?
นพ.ยง ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลการศึกษาในวัคซีนโควิด-19อยู่ระหว่างทำการศึกษา คาดว่าในอีก 3-4 เดือนจะทราบผล จึงขอให้ฉีดชนิดเดียวกันก่อน
เด็กควรจะได้รับวัคซีนหรือไม่?
นพ.ยง ระบุว่า เด็กควรจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่จะต้องได้รับวัคซีน เพราะส่วนใหญ่เด็กติดเชื้อโควิด-19 มีอาการป่วยไม่รุนแรง
เมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะเป็นโรคโควิด-19 ได้หรือไม่?
นพ.ยงระบุว่า มีโอกาสป่วยได้ เนื่องจากวัคซีนป้องกันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังฉีดวัคซีน ถ้าเป็นโรค ส่วนใหญ่อาการน้อยลง ลดอัตราการเสียชีวิต ลดความรุนแรงที่จะเข้าโรงพยาบาล
ฯลฯ
5. จะเห็นว่า ทางการ โดยทีมคณะแพทย์ สาธารณสุข ภายใต้การสนับสนุนด้านนโยบายโดยรัฐบาล ภายใต้การนำของนายกฯ ลุงตู่ ทำงานอยู่บนพื้นฐานขององค์ความรู้ อย่างมืออาชีพ และผลงานการจัดการรับมือกับโควิด-19 ที่ผ่านมา ประเทศไทยก็ได้รับการยกย่องระดับโลก
เพราะฉะนั้น คนไทยอย่าไปเสียเวลากับเสียงของคนปากหมาบางกลุ่ม ที่พยายามใช้วาทกรรม หาเรื่องใส่ร้ายป้ายสี โจมตีทุกเรื่อง ทำอะไรก็ไม่ถูกใจไปทั้งหมด โดยพยายามดิสเครดิตการทำงานตามแผนจัดการเรื่องวัคซีนโควิด-19
เชื่อหมอ อย่าไปเชื่อพวกปากหมา
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี