ก่อนหน้านี้ มีการระบุว่า จะส่งมอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่กันได้ภายใน 1 พ.ค. 2564
แต่ในที่สุด ก็ผ่านไปดั่งสายลม
จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการรับมอบงานก่อสร้างแต่อย่างใด
1. ภาพด้านบนนั้น คือภาพรัฐสภาใหม่ เผยแพร่ในเฟซบุ๊ค S.Boonmeerit Engineering Co.,Ltd. ระบุว่า ดำเนินการปิดทองคำเปลว แล้วเสร็จ “งานส่วนเครื่องยอดอาคาร” โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ (ภาพการดำเนินงานในเดือนเมษายน 2564)
งานในส่วนของ “งานส่วนเครื่องยอดอาคาร” นั้น ไม่ค่อยจะได้เห็นกันนัก ดูสวยงาม แปลกตา จึงขออนุญาตนำมาให้ชื่นชมกัน เพราะดูเผินๆ หลายคนอาจไม่ทันนึกว่า นี่คือส่วนหนึ่งของอาคารรัฐสภาใหม่ หรือเป็นงานสถาปัตยกรรมที่วัดวาอารามที่ไหนสักแห่ง
2. น่าแปลกใจ นักการเมืองพรรคเพื่อไทยบางคน แนวร่วมม็อบ 3 นิ้วหลายคน รวมถึงนายธนาธร
ที่อุตส่าห์เอาเรื่อง “ขนาดใหญ่โต” ของรัฐสภาใหม่ ไปประชดประชันในเฟซบุ๊ค
ทำประหนึ่งว่า เป็นความผิด ความชั่วร้ายของรัฐบาลปัจจุบัน
ทั้งๆ ที่ ความจริง โครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ หรือ “สัปปายะสภาสถาน” แห่งนี้ ผ่านการคัดเลือกสถานที่ตั้งในยุคนายกฯ สมัคร ประกวดแบบก่อสร้าง ปี 2551 ต่อมา ในปี 2556 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ได้อนุมัติและทำสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้าง ดำเนินการ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ และข้อครหามากมาย การก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญา ขยายเวลากันมาหลายครั้ง จนมารัฐบาลปัจจุบันได้รับไม้ต่อ ควบคุมการก่อสร้างจนจะเสร็จสมบูรณ์ขณะนี้
3. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ว่าจ้าง ได้เคยขยายเวลาก่อสร้างให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างเอกชนไปก่อนหน้านี้ สรุปคร่าวๆ ดังนี้
เริ่มต้น สัญญาก่อสร้างกำหนดเวลาให้ก่อสร้าง 900 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2556 ถึง
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2558
การขยายเวลาครั้งที่ 1 จำนวน 387 วัน(25 พ.ย. 2558 – 15 ธ.ค. 2559) เหตุผลเนื่องมาจากสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ส่งมอบพื้นที่ล่าช้า และปัญหาอุปสรรคในการขนดินขุดเสาเข็ม
การขยายเวลาครั้งที่ 2 อีกระยะเวลา 421 วัน (16 ธ.ค. 2559 – 9 ก.พ. 2561) สืบเนื่องจากสำนักงานเลขาธิการสภาฯ มีความล่าช้าในการขนย้ายดินที่ขุดเพื่อการก่อสร้างชั้นใต้ดิน
การขยายเวลาครั้งที่ 3 อีกระยะเวลา 674 วัน (10 ก.พ. 2561 - 15 ธ.ค.2562) ครั้งนี้เนื่องจากความ
ล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่บริเวณโรงเรียนโยธินบูรณะ ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ดุสิต และศูนย์สาธารณสุข 38
ของกรุงเทพมหานคร ชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า และบ้านพักข้าราชการกรมการอุตสาหกรรมทหาร
และการขยายเวลาครั้งที่ 4 อีก 382 วัน ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 2562- 31 ธ.ค.2563
เท่ากับว่า ขยายเวลา 4 ครั้ง รวมเวลาขยาย 1,864 วัน หรือราวๆ 5 ปีเศษ
ทุกครั้ง ไม่มีการเรียกค่าปรับจากฝ่ายเอกชนผู้รับเหมาก่อสร้างเลยแม้แต่บาทเดียว
นับว่าได้รับความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจจากหน่วยงานรัฐอย่างมาก
หากนับตั้งแต่วันเริ่มต้นสัญญาก่อสร้าง จนถึงวันนี้ ใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 8 ปี
ไม่แน่ใจว่า มีการก่อสร้างโครงการใดในโลก ที่ขยายเวลาการก่อสร้างได้บ่อยครั้งขนาดนี้แล้วไม่มีการเรียกค่าปรับใดๆ เลย
4. น่าสนใจว่า สุดท้ายแล้ว สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ว่าจ้าง จะเรียกค่าปรับจากคู่สัญญาวันละ 12 ล้านบาท ได้หรือไม่?
ตามสัญญาจะต้องเสร็จตั้งแต่สิ้นปี
บัดนี้ล่วงเลยมา 5 เดือนแล้ว
ถ้าคิดค่าปรับ 150 วัน ก็ตกราวๆ 1,800 ล้านบาท
5. น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทซิโน-ไทยฯ ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 1,590 ล้านบาท โดยอ้างเหตุส่งมอบพื้นที่ล่าช้า
อย่างไรก็ตาม ใครต้องไม่แกล้งลืมว่าก่อนหน้านี้ ทางรัฐสภาก็ได้ขยายระยะเวลาก่อสร้างแก่ผู้รับเหมาไปแล้วถึง 4 ครั้ง จากเหตุส่งมอบพื้นที่ล่าช้า
6. จากการตรวจสอบ ทราบว่า บริษัท ผู้รับเหมา บริษัทซิโน-ไทยฯ ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2564 ชี้แจงการดำเนินงานโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า “สามารถดำเนินงานโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และอาคารประกอบได้จนแล้วเสร็จและไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของบริษัทแต่อย่างใด”
7. ล่าสุด ยังไม่มีการส่งมอบอาคารรัฐสภาใหม่
ผู้สื่อข่าวท็อปนิวส์ ทีวี เกาะติดเรื่องนี้ รายงานว่า นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจรับการส่งมอบอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการขอเข้าครอบครองพื้นที่ของผู้ว่าจ้าง ก่อนส่งมอบงานโดยผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์เข้าครอบครองและใช้พื้นที่ได้ก่อนที่จะมีการส่งมอบงานจากผู้รับจ้าง เพื่อให้นักข่าว ข้าราชการ หรือสมาชิกรัฐสภาสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ได้
แต่ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการตรวจรับการจ้าง เพราะคณะกรรมการตรวจการจ้างถูกกักตัวยังไม่ครบ 14 วัน ซึ่งเราจะเริ่มประชุมได้อีกครั้งในวันที่ 11 พ.ค. เพื่อขอมติที่ประชุมว่าเราจะขอครอบครองใช้พื้นที่ก่อน ในฐานะที่เป็นผู้ว่าจ้าง หลังจากนั้น เราก็ต้องรอให้ผู้ควบคุมงานก่อสร้างคือบริษัท Atta (แอตต้า) มาตรวจรายละเอียดทั้งหมดให้มีความเรียบร้อย ซึ่งจะต้องมีเอกสารและลักษณะงานที่ตรงกับเนื้องาน รวมถึงเอกสารสัญญาที่แก้ไข พอตรวจสอบตรงกันเรียบร้อยทางบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับจ้างจึงจะส่งมอบงานงวดสุดท้ายมาให้เรา
ยืนยันว่า ตอนนี้เรายังไม่มีการตอบรับใดๆ อย่าเข้าใจผิด
เมื่อถามถึงกรณีอดีตสส.ออกมาให้ข่าวว่าสภาฯ งดค่าปรับให้บริษัทเอกชนนั้น?
นายสาธิต กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องจริง ข้อเท็จจริง คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด
(มหาชน) ได้ยื่นเรื่องขอสงวนสิทธิ์ในการของดหรือลดค่าปรับตามมติครม. คือ 1.มาตรการโควิด-19 และ 2.เรื่องค่าแรงขั้นต่ำจำนวน 150 วัน ตรงนี้เขายื่นมาแล้ว แต่ตอนนี้คณะกรรมการฯ ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องงดหรือลดค่าปรับแต่อย่างใด เพราะเรื่องนี้เราสามารถไปพิจารณาได้ก่อนที่จะตรวจรับมอบงานงวดสุดท้าย
“...ถึงเวลานั้น ต้องมีการจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้เขาอีกก้อนหนึ่ง พร้อมกับเงินประกันสัญญา ตรงนี้ผู้ควบคุมงานจะต้องไปคิดคำนวณทั้งหมด เนื่องจากเหตุโควิด-19 เป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นมาแบบไม่มีใครรู้ล่วงหน้า และที่สำคัญเหตุการณ์นี้ยังไม่เป็นที่ยุติเพราะฉะนั้น จะมากำหนดให้ว่าเราจะต้องคิดเขาเพียงแค่จำนวนวันที่เขาส่งมอบงานคงเป็นไปไม่ได้ เพราะจะต้องมีงานที่ไปเก็บรายละเอียดและสั่งให้เขาทำงานเพิ่มเติมเป็นต้น ตอนนี้เรายังไม่ได้มีการรับอะไรเลย เพียงแต่มาขอใช้พื้นที่เขาก่อนส่งมอบงาน แบบที่เขายอมให้เราใช้” นายสาธิตกล่าว
นายสาธิตกล่าวอีกว่า ทั้งนี้การก่อสร้างในหนึ่งโครงสร้างของอาคาร นอกจากสัญญาหลักแล้วยังมีสัญญาย่อยอีกหลายสัญญา เช่น สัญญาการก่อสร้างท่อร้อยสาย สัญญาไอซีที หรือสัญญาสาธารณูปโภค ที่เป็นคนละสัญญากับสัญญาหลัก การที่เรารับงานมาแล้ว แต่ยังมีคนงานเข้ามาเดินในอาคารไม่ได้หมายความว่าเรารับงานมาแล้วทั้งที่ก่อสร้างไม่เสร็จ แต่เป็นงานในส่วนของสัญญาอื่น เราต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้รับจ้างด้วย คนที่ไม่รู้ก็เอาไปพูดว่า
ส่งมอบงานไปแล้วทำไมยังมีคนงานเดินทำงานอยู่ ซึ่งเป็นในส่วนของสัญญาส่วนงานอื่นๆ
8. ค่าโง่รัฐสภาใหม่ ที่ฝ่ายเอกชนยื่นฟ้อง จำนวน 1,590 ล้านบาทนั้น ฝ่ายรัฐได้ขยายเวลาก่อสร้างชดเชยให้เอกชนไปแล้ว ถึง 4 ครั้ง คิดเป็นเวลานานเกือบ 6 ปี สืบเนื่องจากเหตุส่งมอบพื้นที่ล่าช้าไป
แต่ค่าปรับก่อสร้างรัฐสภาล่าช้า 1,800 ล้านบาท ฝ่ายรัฐยังไม่เคยได้รับการชดเชยสักบาท
จับตาเรื่องนี้ จะจบอย่างไร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี