การเป็นผู้นำประเทศหรือผู้นำมวลชนที่ต้องพึ่งพาอาศัยหรือยืมจมูกคนอื่นหายใจในการติดต่อหรือสื่อสารระหว่างประเทศที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสาร
ถ้าต้องให้ผู้อื่นเขียนจดหมายหรือร่างคำปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษให้โดยที่ตัวเองไม่เข้าใจความหมายอย่างลึกซึ้ง นับว่าเป็นอันตรายแก่ตัวเองและประเทศชาติอย่างร้ายแรง
กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปกล่าวปาฐกถาในกรุงอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย เมื่อเดือนเมษายน 2555 ปรากฏว่าได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและตัวเองอย่างใหญ่หลวง
เพราะเธอไปในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยแล้วไปอ่าน speech ที่คนอื่นเขียนให้โดยที่เธอไม่เข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้ เธอถึงได้ไปโจมตีใส่ร้ายประเทศไทยอย่างเสียๆ หายๆ และสุดท้ายเธอจบคำปราศรัยด้วยคำว่า Thanks you 3 times
เหตุการณ์นั้นผ่านมาเกือบสิบปีมาวันนี้มีผู้ที่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ ให้คนอื่นเขียนจดหมายให้เป็นภาษาอังกฤษแล้วแปลเป็นภาษาไทยให้ ซึ่งไม่ตรงกับความหมายในภาษาอังกฤษอาจเป็นไปได้ว่า คนเขียนจดหมายให้ใช้คำรุนแรงในภาษาอังกฤษแล้วตัดตอนให้อ่อนลงในภาษาไทย แต่ผู้ที่เสียหาย
คือคนไทยประเทศไทยที่ “หมอทศพร เสรีรักษ์” เอาไปอ้างในจดหมายถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อ้างว่าเขียนในนามประชาชนชาวไทย ในจดหมายที่หมอทศพร แจกจ่ายให้แก่สื่อไทยเขียนไว้ดังนี้
ประเทศไทย
28 พฤษภาคม 2564
กราบเรียน ฯพณฯโจเซฟ อาร์ ไบเดน จูเนียร์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
ในนามของประชาชนชาวไทย ข้าพเจ้าขอแสดงความชื่นชมยินดีอย่างยิ่งต่อประเทสหรัฐอเมริกาที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีท่านเป็นผู้นำ
โดยรัฐบาลสามารถจัดการฉีดวัคซีนให้ประชาชนชาวสหรัฐฯจำนวน 222 ล้านโดส ภายใน 100 วันนับตั้งแต่
ท่านเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ร้อยละ 60 ของจำนวนประชากรผู้ใหญ่ ได้รับวัคซีน
และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่โควิด-19 เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่าประเทศมหาอำนาจให้ความสำคัญกับชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรกและมีประสิทธิภาพในการบริหารด้านสาธารณสุข
ปัจจุบันประเทศไทยถูกปกครองโดยรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจมาจากคณะรัฐประหาร ที่ยึดอำนาจ จากรัฐบาลปกครองในระบอบประชาธิปไตยเมื่อ 7 ปีก่อน ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ขาดประสิทธิภาพในการบริหาร เนื่องจากเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาธิปไตยอันแท้จริง
ทำให้ประชาชนชาวไทยได้รับความเดือดร้อนเป็นเท่าทวีคูณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของการบริหารรัฐบาลชุดดังกล่าว ปัจจุบัน มีประชาชน เพียงร้อยละสอง จากจำนวนประชากรทั้งหมด70 ล้านคน ที่เข้าถึงวัคซีน จากแผนการจัดการด้านสาธารณสุขของไทยภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีน วัคซีนชนิดหนึ่งซึ่งตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งมอบได้เมื่อใด จำนวนเท่าไหร่
ประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์ร่วมกันมาอย่างยาวนาน และประเทศไทยพร้อมจะยืนหยัดร่วมกับสหรัฐในฐานะมิตร ข้าพเจ้ามั่นใจว่าภายใต้การนำของท่านและความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ในการพิจารณามอบวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้แก่ประชาชนชาวไทยจะเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ประชาชนชาวไทย แพทย์พยาบาลเพื่อมวลชน
ลงชื่อ นพ.ทศพร เสรีรักษ์
อ้างปวงชนชาวไทยและแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชนแต่ลงนามโดยหมอทศพร คนเดียวและขอทานวัคซีนจากสหรัฐเพราะไม่ไว้ใจในประสิทธิภาพวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย
แต่ในต้นฉบับภาษาอังกฤษจริงๆ ได้เขียนว่า
ในนามของประชาชนชาวไทย ข้าพเจ้าใคร่ของแสดงความยินดีต่อท่าน ในความสำเร็จของท่านในการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 222 ล้านโดส ภายใน 100 วันแรกของการรับตำแหน่งประธานาธิบดีของท่าน 60% ของชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่ ได้รับการฉีดวัคซีน และจำนวนของผู้ติดเชื้อได้ลดลงตามลำดับนี้นับเป็นความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง ซึ่งเราได้แต่หวังจะเจริญรอยตามท่าน
***ย่อหน้าแรกบิดเบือนแต่นี้คือเราจะเจริญรอยตามท่าน
“...อย่างไรก็ดี ดังที่ท่านทราบดีว่า สถานการณ์วัคซีนในหลายประเทศไม่โชคดีเหมือนประเทศท่าน ประเทศไทย ประเทศอินเดีย ประเทศเมียนมา และอีกหลายประเทศผู้ผลิตข้าวส่งออก กำลังเผชิญกับวิกฤติซึ่งเป็นผลให้การผลิตลดลงอย่างมีนัยในการผลิตอาหาร จนกว่าสถานการณ์นี้จะเปลี่ยนไป การแพร่ระบาดใหญ่ทำให้เราขาดประสิทธิภาพในผลิตอาหารเพื่อส่งไปเลี้ยงชาวโลก....***ย่อหน้าสองอ้างว่าประเทศผลิตข้าวมีประสิทธิผลน้อยลงเพราะโควิด-19
...จนกว่าสถานการณ์นี้จะได้รับการแก้ไข การผลิตอาหารส่งไปยังทั่วโลกยังคงขาดแคลนต่อไป
ในกรณีอินเดียเวลานี้ผู้ติดเชื้อกว่า 400,000 คนต่อหนึ่งวันไปแล้ว ...ในขณะที่พม่ากำลังอยู่ในภาวะสงคราม
กลางเมืองเพื่อต่อต้านรัฐบาล เผด็จการทหารที่ยึดอำนาจ***ย่อหน้าที่สามโจมตีอินเดียและพม่า กล่าวหาว่าพม่าอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง***
ประเทศไทยซึ่งเป็นครัวโลกและเป็นประเทศผลิตข้าวรายสำคัญประเทศหนึ่ง รวมทั้งอาหารทะเล และพืชพันธุ์ธัญญาหาร เหมือนกับประเทศอื่นๆ กำลังต้องการความช่วยเหลือและสนับสนุนวัคซีนอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขสถานการณ์วิกฤติ***ย่อหน้าที่สี่อ้างว่าไทยเป็นครัวโลกต้องการช่วยเหลือด้านวัคซีนโดยด่วนเพราะสถานการณ์กำลังย่ำแย่***
ย่อหน้าที่สองถึงสามโจมตีอินเดีย พม่า ไทย ไปพร้อมๆ กันโดยเฉพาะพม่า ซึ่งไม่มีในฉบับภาษาไทยที่แจกจ่ายให้สื่อไทย
....ในประเทศไทย สถานการณ์วัคซีนเลวร้ายมากภายใต้การปกครองของรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลตัดสินใจผิดพลาดและขาดการบริหารจัดการที่เหมาะสมจนถึงวันนี้มีประชาชนเพียง 2% เท่านั้นที่ได้รับวัคซีน และคุณภาพประสิทธิภาพวัคซีนที่แจกจ่ายยังเป็นที่กังขามีปัญหาให้สงสัย เช่นวัคซีนซีเนก้าซึ่งผลิตในโรงงานที่เพิ่งเดินสายพานเร็วๆ นี้ในประเทศไทย และขาดข้อมูลที่ชัดเจน Timeline วันส่งมอบและจำนวนที่แจกจ่าย
***ย่อหน้าที่สี่แสดงความกังขาถึงประสิทธิภาพโรงงานผลิตวัคซีนซีเนก้าในเมืองไทยว่าเพิ่งเดินสายพานเร็วๆ นี้ และไม่รู้จะส่งมอบให้เมื่อไหร่เท่าไหร่***
...คำประกาศของท่านที่ว่าสหรัฐอเมริกา กำลังเตรียมการบริจาควัคซีน 20 ล้านโดส ให้แก่ประเทศต่างๆ ที่ต้องการ มันกลายเป็นข่าวดีที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา เราใคร่ขอความกรุณาขอให้ท่านพิจารณาประเทศไทย เป็นประเทศหนึ่งที่จำเป็น ต้องได้วัคซีนเหล่านั้น
***ย่อหน้าที่ห้าทำให้เราถึงบางอ้อว่าตัวเลขวัคซีน 20 ล้านโดส มาจากไหน แค่ประธานาธิบดีพูดเปรยๆ ว่าอาจต้องแจกจ่ายวัคซีน 20 ล้านโดส ให้ประเทศยากจนที่จำเป็นนายไบเดน พูดเรื่องนี้หลังนิวยอร์กไทม์พาดหัวหน้าหนึ่งว่าถึงเวลาเราต้องให้ความไว้วางใจแก่วัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์มจากจีนและสปุตนิกจากรัสเซีย ในสหรัฐฯใช้วัคซีนจำกัดอยู่แค่ไฟเซอร์ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และโมเดอร์นา เพราะอคติว่าซิโนแวค ซิโนฟาร์มและสปุตนิก ผลิตโดยประเทศที่ใช้อำนาจนิยม***
ประเทศของเราได้ร่วมมือกับประเทศของท่านในฐานะพันธมิตรเสมอมา ในยามนี้เราต้องการยิ่งเป็นพันธมิตรมากกว่าเพื่อจะเอาชนะการระบาดใหญ่
****ย่อหน้าสุดท้ายเอาคนไทยไปอ้างร่วมขอทานวัคซีนที่นายไบเดนพูดเปรยๆว่าจะบริจาคให้กับประเทศยากจนที่ต้องการสัก 20 ล้านโดส****
ด้วยความเคารพนับถือ
ประชาชนชาวไทย
ลงชื่อนายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์
ที่น่าสงสัยว่าใครเป็นผู้เขียนจดหมายเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทยให้หมอทศพร คนที่เขียนจดหมายให้มีวาระซ่อนเร้นโจมตีประเทศไทยและเพื่อนบ้านอินเดียกับพม่าเสียๆหายๆ อ้างว่าพม่ากำลังอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง ทั้งอินเดีย พม่า ไทย เป็นประเทศผลิตข้าวส่งออกรายใหญ่
สถานการณ์ระบาดใหญ่โควิด-19 ทำให้ประสิทธิภาพในผลิตอาหารเลี้ยงชาวโลกลดน้อยลงถึงขาดแคลนถ้าสหรัฐฯไม่ช่วยแก้ไขด้วยการส่งวัคซีนมาให้ การผลิตวัคซีนในประเทศไทยยังเป็นข้อสงสัยในประสิทธิผลและการส่งมอบ..
คนที่เขียนจดหมายให้หมอทศพร จงใจยกย่องเทิดทูนสหรัฐอเมริกา ด่าอินเดีย ด่าพม่า ด่าประเทศไทย ในจดหมายเป็นภาษาอังกฤษ แต่พอเป็นจดหมายภาษาไทยที่แจกจ่ายให้สื่อไทยแสร้งเขียนให้อ่อนลง เพราะจงใจทำให้ประเทศไทย อินเดีย พม่า เสียหายในสายตาชาวโลกจึงไปเน้นทำลายในภาษาอังกฤษ
คนที่เขียนจดหมายให้ หลอกใช้หมอทศพรเป็นเครื่องมือหรือว่าหมอทศพรจงใจด่าประเทศอินเดีย
ด่าประเทศพม่า ด่าประเทศไทย หรือไม่ก็หมอทศพรโง่จริง ที่ไม่รู้ว่าประเทศไทยใช้วัคซีนหลากหลายมากกว่าอเมริกา
1) Pfizer-BioNTechผ่านการอนุมัติวันที่ 31 ธันวาคม 2563
2.) วัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ผ่านการอนุมัติวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564
3.) วัคซีนโควิชิลด์ (Covishield) ซึ่งเป็นวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตในอินเดีย ผ่านการอนุมัติวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564
4.) วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ผ่านการอนุมัติวันที่ 12 มีนาคม 2564
5.) วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ผ่านการอนุมัติวันที่ 30 เมษายน 2564
6) ล่าสุดวัคซีนซิโนฟาร์ม ผ่านการอนุมัติและเริ่มใช้ปลายเดือนพฤษภาคม 2564
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี